สังคม

น้องชายหญิงตกตึกดับในบ่อขยะแฟลตทหาร เชื่อโดนฆาตกรรม

โดย parichat_p

1 ธ.ค. 2566

114 views

ตำรวจ สน.บางซื่อ ลุยสอบปากคำพยานนับสิบปาก คลี่ปม ภรรยาทหาร ดับปริศนาในบ่อขยะแฟลตทหาร เผย ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งฆาตกรรมอำพราง ฆ่าชิงทรัพย์ หรือฆ่าล้างหนี้ ขณะที่ญาติเผย


ราว 21.30 น. วานนี้ ตำรวจสน.บางซื่อ ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้หญิงตกลงไปในช่องทิ้งขยะเก่าภายในแฟลตสวัสดิการข้าราชการทหารกองทัพภาคที่ 1 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพ จุดที่พบศพเป็นอาคาร ส.2 มีความสูง 4 ชั้น บนดานฟ้ามีห้องไม่ได้ล็อคภายในเป็นบ่อทิ้งขยะที่ไม่ได้เปิดให้ใช้งานนานแล้ว มีความกว้าง 3 คูณ 3 เมตร ปากบ่อกว้าง 3 คูณ 1 เมตร ลึก 15 เมตร ด้านล่างศพนางสาว แอน อายุ 36 ปี ใส่เสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำ สะพายกระเป๋าใบเล็กสีน้ำตาล ไม่ใส่รองเท้า สภาพนอนคว่ำหน้าแขนขาหักผิดรูป


เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ต้องใช้เครื่องเจาะคอนกรีต เจาะที่กำแพงข้างๆ บันได เพื่อให้ทะลุไปถึงช่องดังกล่าวแล้วนำร่างผู้ตายออกมา ทราบชื่อต่อมา คือ นางสาว ประกายแก้ว โรจน์ธนวรกุล อายุ 36 ปี


จากการตรวจสอบเบื้องต้นตามร่างกายเริ่มเน่าเปื่อย แต่ไม่พบบาดแผลอื่น ภายในกระเป๋าสะพายข้างไม่มีโทรศัพท์มือถือ


พนักงานสอบสวนให้ข้อมูลกับทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ว่า ผลการชันสูตรของผู้เสียชีวิตเบื้องต้น น่าจะเกิดจากตกจากที่สูงเพราะเนื่องจากสภาพศพมีแขนขาหัก ไม่พบร่องรอยบาดแผลหรือการต่อสู้ สภาพขึ้นอืดเนื่องจากผ่านมา 3 วันแล้ว โดยตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ว่า ผู้เสียชีวิตอาจจะตกลงมาเองหรือถูกผลักลงมา


ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำสามีผู้เสียชีวิต และพยานที่เกิดเหตุมากกว่าสิบปาก ได้รายละเอียดเบื้องต้นว่า ช่วงค่ำวันที่ 27 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันลอยกระทง เขานั่งดื่มสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนทหาร ส่วนภรรยาก็ดื่มสังสรรค์กับกลุ่มภรรยาเพื่อนทหารอยู่ภายในแฟลตดังกล่าว ตกดึกภรรยาบอกให้สามีกลับห้องพักไปดูลูกก่อนแล้วจะตามไปภายหลัง แต่ก็ไม่ตามกลับมาสักที สามีโทรศัพท์ตามหา แต่ก็ไม่มีคนรับสาย จึงเรียกกลุ่มเพื่อนให้ช่วยกันตามหาจนเกือบเช้าแต่ก็ไม่พบตัว จากนั้นได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กระทั่งวานนี้ (30พ.ย.) มีคนได้กลิ่นเน่าเหม็นบริเวณบันไดขึ้นไปดูพบเป็นร่างผู้ตายนอนอยู่


มีรายงานว่า ห้องขยะดังกล่าวปกติจะล็อคไว้ตลอด แต่ช่วงนี้มีคนงานมาซ่อมหลังคาจึงไม่ได้ล็อคไว้ ตำรวจได้ตั้งประเด็นไว้ว่า อาจถูกชิงทรัพย์แล้วฆาตกรรมอำพรางศพ เนื่องจากเมื่อ 2 วันก่อนจีพีเอสมือถือผู้ตายไปสิ้นสุดถนนบางนา-ตราด มุ่งหน้าจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะหายไป หรือ ฆ่าล้างหนี้ หรืออุบัติเหตุ


ขณะที่นาย โจ้ น้องชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตึกที่พบศพพี่สาวเรียกว่าตึกคู่ แต่ก่อนพี่สาวเคยพักตึกนี้ แต่ย้ายออกมาได้ 2-3 ปีแล้ว ตอนนี้มาอาศัยอยู่ที่ตึกเดี่ยว กับสามี ลูกชายวัย 2 ขวบ และตัวเขา โดยพี่สาวเปิดร้านขายของชำอยู่ที่ตึกเดี่ยว ตั้งแต่ย้ายออกมาพี่สาวก็ไม่ได้ไปที่ตึกคู่อีก และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปตึกนั้นเลย ที่สำคัญ จุดที่อีกครั้งจุดที่พบศพพี่สาว ก็อยู่คนละฝั่งกับห้องที่พี่สาวเคยพักด้วยซ้ำ


กล้องวงจรปิดของที่พัก จับภาพขณะพี่สาวเดินไปที่ตึกนั้น ในลักษณะท่าทางปกติ และหันมองออกมาเหมือนมีคนเรียก ก่อนที่พี่สาวจะหันกลับไป และเดินขึ้นตึกที่เกิดเหตุ ก่อนจะหายตัวไป และพบเป็นศพในเวลาต่อมา


ขณะที่วงจรปิดอีกมุม แสดงให้เห็นว่า พี่สาวออกจากห้องน้ำ และหยิบโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าเสื้อ แต่ปรากฏว่าโทรศัพท์หายไป


อีกทั้ง ปกติแล้วเขากับพี่สาวจะพูดคุยกันตลอด ไม่เคยที่จะติดต่อไม่ได้ และครั้งสุดท้ายที่ติดต่อกัน คือ วันที่ 27 พฤศจิกายน คุยกันผ่านไลน์ตอน 1 ทุ่ม กระทั่งวันที่ 29 พฤศจิกายน เขาสามารถโทรเข้าเครื่องโทรศัพท์ของพี่สาวได้ แต่ไม่มีใครรับสาย และหลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย ดังนั้นส่วนตัวไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย น่าจะถูกฆาตกรรม แต่จะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ หรือ ฆ่าล้างหนี้


พันตำรวจเอก ภูวดล อุ่นโพธิ ผู้กำกับการ กก.สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังสรุปสาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้ว่ามาจากปัญหาใด ส่วนประเด็นที่ญาติผู้ตายให้ข้อมูลไว้ว่า เจ้าตัวป่วยเป็นมะเร็งไทรอยด์ระยะที่ 3 นั้น ยังไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/yAQv8JNa1HU

คุณอาจสนใจ

Related News