เร่งหาสาเหตุ สารเร่งลำไยระเบิด ร่างแหลกดับสยอง 2 ศพ สาหัสอีก 1 กลางสวนเชียงใหม่

บึ้มสนั่นสวนลำไยเมืองพร้าว ดับ 2 ศพ คาสวนลำไย อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ แรงระเบิดทำเอาร่างกระเด็นติดกิ่งไม้ แขนขากระจัดกระจาย ส่วนอีกรายบาดเก็บสาหัส คาดเกิดจากคนงานเร่งผสมสารโพแทสเซียม และสารยูเรีย เพื่อใช้เป็นสารตั้งต้นปุ๋ยต้นลำไย ขณะที่นักวิชาการเกษตรชี้ คาดคนงานผสมสารน่าจะสูบบุหรี่ขณะผสม ด้านนายอำเภอสั่ง ล้อมคอก เร่งสำรวจข้อมูลเกษตรกรที่เก็บสารอันตราย หวั่นสกัดเหตุระเบิดซ้ำ

วานนี้  (28 พ.ย.66) เวลาประมาณ 15.30 น. เกิดเหตุสารโพแทสเซียมคลอเรต ที่เกษตรกรใช้เร่งดอกต้นลำไย ระเบิดในพื้นที่บ้านไชยงาม หมู่ที่ 9 ต.แม่แวน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นหญิง แรงระเบิดทำให้ร่างกายฉีกขาด แหลกเละกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ  และมีผู้บาดเจ็บสาหัส เป็นชาย 1 ราย

 นายวรุตม์ วิศิษฏ์ศิลป์ นายอำเภอพร้าว  เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า จุดที่เกิดการระเบิด คือ โรงเรือนชั้นเดียว ภายในสวนลำไย  ถูกแรงระเบิดพังเสียหาย จนเหลือแต่โครงสร้างของอาคาร และยังมีกลุ่มควันพวยพุ่ง เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำสกัดไม่ให้เกิดเพลิงลุกไหม้ รถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้เคียง 2 คัน ได้รับความเสียหาย

ในจุดเกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นางแดง ไม่ทราบนามสกุล อายุ 33 ปี เป็นลูกจ้างชาวเมียนมา และนางสาวณัชญา (น้องเมียเจ้าของบ้าน) สภาพศพถูกแรงระเบิดอัดจนร่างฉีกขาด ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ศพหนึ่งกระเด็นเข้าไปในโรงเรือน  ส่วนอีกศพกระเด็นไปติดที่ต้นลำไย ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นลูกจ้างชายชาวเมียนมา อายุ 34 ปี อาการสาหัส มีแผลไฟไหม้ตามลำตัว ถูกนำส่งโรงพยาบาลพร้าว

จากการสอบถามเจ้าของสวนลำไย ทราบว่าทั้ง 3 คน เป็นคนงานภายในสวนลำไย ก่อนเกิดเหตุ กำลังผสมสารโพแทสเซียมคลอเรต  จำนวน 3 กระสอบ กระสอบละ 25 กก. และสารยูเรีย จำนวน 1 กระสอบ กระสอบละ 50 กก. เพื่อใช้เร่งดอกลำไย  แต่ไม่ทราบว่าทำไมเกิดระเบิดขึ้น

ด้านนายวรุตม์ วิศิษฏ์ศิลป์  นายอำเภอพร้าว ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ว่ามีบ้านเรือนของประชาชนใกล้เคียงได้รับผลกระทบหรือไม่  เบื้องต้นบ้านหลังดังกล่าวทำอาชีพสวนลำไย จึงเก็บสารโพแทสเซียมคลอเรต ไว้สำหรับทำดอกลำไย ส่วนสาเหตุการระเบิดยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ  โดยวันนี้  (29 พ.ย.) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน พร้อมตรวจสอบที่มาของสารโพแทสเซียมคลอเรต รวมถึงจัดเก็บถูกต้องหรือไม่

ทั้งนี้สารโพแทสเซียมคลอเรต เป็นสารไม่ไวไฟ  แต่ช่วยให้ไฟติด  สามารถทำปฏิกิริยารุนแรงกับสารรับรองออกซิเจน และสารอินทรีย์ทุกชนิด สามารถเกิดระเบิดได้เองเมื่ออุณหภูมิสูงกว่าจุดเดือด โดยที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เคยเกิดเหตุสารโพแทสเซียมคลอเรต ระเบิดครั้งใหญ่เมื่อปี 2542 ที่อำเภอสันป่าตอง ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/qugLOSQVW2A