อาชญากรรม

‘เสี่ยแป้ง’ ส่งหลักฐานขอความเป็นธรรมถึงนายกฯ - ผบ.ตร. แง้ม รู้ตัวคนพาหนีลงเขา เชื่อยังอยู่ในไทย

โดย thichaphat_d

28 พ.ย. 2566

35 views

‘เสี่ยแป้ง’ ส่งมอบพยานหลักฐานและหนังสือร้องขอความยุติธรรมเป็นลายลักษณ์อักษรถึงนายกรัฐมนตรี -รองนายกฯ สมศักดิ์ ด้าน ‘ธนกฤต’ เป็นผู้รับมอบแนะเสี่ยแป้งมอบตัว หากกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยจะไปรับตัว ชี้เรื่องคดีความหากตัดสินไปแล้วขอรื้อฟื้นคดีใหม่ได้ ถ้ามีพยานหลักฐานใหม่

วานนี้ (27 พ.ย.) ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ บำรุงวงศ์ ทนายความ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด เปิดเผยถึงกรณีที่ แป้ง นาโหนด ได้เผยแพร่คลิปที่เป็นข้อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเอง ว่า ข้อเรียกร้องดังกล่าว มีการส่งสารมาผ่านทางคนสนิทหรือญาติ ว่าเขาต้องการอะไร ในการส่งผ่านข้อเรียกร้องของเขาไปยังรัฐบาล ตนเองจึงได้ประสานกับ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯประจำรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลที่ตนไว้วางใจและคิดว่าเมื่อส่งสารไปแล้วจะได้รับการแก้ไขและดำเนินการตรวจสอบ

ซึ่งเชื่อว่าแป้งก็ดูอยู่ ว่าหลังจากเขาได้ยื่นข้อเรียกร้องไปแล้ว ทางภาครัฐหรือกระบวนการยุติธรรมของไทยได้ทำอะไรให้เขาบ้าง วันนี้ (27 พ.ย.) ตนเองก็ส่งสารไปที่รัฐบาลแล้ว หลังจากนี้ก็ต้องดูว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เขาเกิดความมั่นใจ ซึ่งตนเชื่อว่าเขาจะกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและมีการรับรองความปลอดภัยให้กับเขา  

ส่วนข้อเรียกร้องก็ยังยืนยันตามคลิปที่เป็นจุดที่ทำให้เขาต้องหนีออกมาจากเรือนจำ และวันนี้ (27 พ.ย.) ที่ตนเองได้รับการประสานงานมา นอกจากคลิปแล้ว แป้ง นาโหนด จะมีหนังสือส่งไปยังรัฐบาล โดยจะผ่านนายธนกฤต ให้ดำเนินการให้ ซึ่งตนเองก็ยังรออยู่ว่าจะส่งมาทางไหน เพราะทางคลิปส่งมาทางสื่อมวลชนรายหนึ่ง และตนเองยินดีหากส่งผ่านมาทางทนายแล้วตนเองจะส่งสารนั้นไปตามที่เขาต้องการให้ได้ แล้วเขาก็จะเชื่อว่าหน่วยงานที่ส่งไปจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องให้เขาได้ โดยไม่ผิดต่อกฎหมายแน่นอน แต่จะได้ผลมากน้อยแค่ไหนก็ขอให้ได้ทำให้เขา

ทั้งนี้ ตนเองก็แจ้งไปแล้วว่า ในการทำคลิปก็เป็นหลักฐานส่วนหนึ่ง แต่หากมีการระบุเป็นลายลักษณ์อักษร จะดีกว่าและสามารถนำไปเป็นพยานในชั้นศาล หรือหากรัฐบาลทำการรื้อฟื้นคดีก็สามารถไปเป็นพยานหลักฐานชิ้นหนึ่ง แต่พยานหลักฐานที่ดีที่สุดคือ ตัวเขาเอง ส่วนในการต่อสู้คดีของเสี่ยแป้ง คดีแรกก็ได้มาแล้ว ข้อหาที่อัยการสั่งฟ้องกับคำพิพากษาของศาลก็แตกต่างกันแล้ว จากโทษอุกฉกรรจ์จากการปล้นเป็นการลักทรัพย์ ก็ได้ต่อสู้คดีแล้ว และคดีนี้เขารับสารภาพโดยคลิปเขาก็ต้องกลับมา ก็ต้องสู้อีกคดีหนึ่ง แต่อาจจะมีการลดหย่อนผ่อนโทษ ส่วนคดีที่เกี่ยวกับการหลบหนีเพิ่มโทษไม่มาก

ทนายชัชวาลย์ ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่สามารถติดต่อโดยตรงกับเสี่ยแป้งได้ ส่วนเอกสาร จะส่งมาเมื่อไรนั้น ก็ต้องรอดูเขาอาจจะส่ง ไปรษณีย์มาก็ได้หรือทางไหน และนายธนกฤต ก็ยินดีที่จะรับเอกสาร ส่วนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าหากดำเนินการตามข้อเรียกร้องแล้ว แป้ง นาโหนด จะมอบตัวและกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนั้น ทนายความ ตอบว่า คงต้องประเมินสถานการณ์ตั้งแต่คลิปแรก คลิปที่สอง จนหนังสือที่ยื่นมา เขายังมีเจตนาหรือทิ้งท้ายข้อความอย่างไร

“ผมเชื่อว่า แป้งเองมีความนักเลงพอและเป็นลูกผู้ชายพอ เมื่อเขาพูดแล้วเขาสามารถที่จะทำได้ เขาพูดเสมอว่า เขายอมรับโทษในส่วนที่เขาทำ แต่คนอื่นก็ควรที่จะต้องได้รับโทษด้วย และเราเชื่อมั่นในระบบยุติธรรม เพราะตนเองเป็นนักกฎหมาย และเชื่อว่าครั้งนี้ถ้าเขากลับมา กระบวนการยุติธรรมจะให้ความยุติธรรมกับเขาแน่นอน เพราะเรามีหน่วยงานรัฐและผู้ใหญ่ในรัฐบาลการันตีได้ และตัวเขาต้องเข้ามาเบิกความ ไม่มีใครเบิกความได้ดีเท่ากับตัวเขา แป้งเขายืนยันว่าเขาบริสุทธิ์ แล้วไม่ได้มีเจตนากระทำ อย่างความผิดครั้งแรก ถ้าเขารู้ว่าเป็นตำรวจก็ไม่ทำแน่นอน”

ด้านว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯประจำรองนายกรัฐมนตรี บอกว่า ตนเองได้รับการติดต่อประสานงานเพื่อจะยื่นหนังสือและให้ติดตามเรื่องนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงให้ตรวจสอบบุคคลที่กระทำการทุจริตซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของเสี่ยแป้ง ซึ่งหากข้อเรียกร้องมาถึงตนเองตนเองก็ชี้แจงแล้วว่าจะสามารถดำเนินการตรวจสอบได้แต่จะต้องเป็นการตรวจสอบที่ไม่ผิดต่อกฎหมาย แบบตรงไปตรงมา

ส่วนกรณีที่มีการแหกการกักขังแล้วหลบหนี ก็จะถูกดำเนินคดีต่อแต่โทษไม่มากซึ่งเป็นสิ่งที่แป้งจะต้องไปชั่งน้ำหนัก ว่าสิ่งที่ร้องขอมาหากดำเนินการตรวจสอบให้แป้งก็ต้องกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและกลับมารับโทษในเรือนจำเพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่ายและให้เกิดความปลอดภัยกับตัวแป้งเอง เพราะหากหนังสือมีบุคคลที่เสี่ยแป้งต้องการเปิดเผยถึงอาจจะมีการเคลื่อนไหว และการตัดตอนก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน

ดังนั้นความไม่ปลอดภัยของแป้งก็เป็นเรื่องที่ต้องตระหนักให้ดี ซึ่งคดีที่พิพากษาแล้วติดคุกเป็นเพียงแค่คดีลักทรัพย์ ต่างกรรมต่างวาระกัน และหาดอยู่ในเรือนจำมีการลดโทษ หากทำความดี ก็จะถือว่าติดคุกไม่มาก อาจจะติดในระยะหนึ่ง ดังนั้น คนที่น่าเห็นใจคือเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมตัว ที่ยังเดือดร้อนอยู่ และดีแล้วที่เสี่ยแป้งไม่ยิงตำรวจเสียชีวิต ดังนั้นตนเองยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรม ถ้ามอบตัว ก็สามารถมอบตัวได้ ถ้าไม่สบายใจเรื่องความไม่ปลอดภัย ตนเองจะไปรับมอบตัวด้วยตนเอง

พร้อมยืนยันว่า ตนเองก็ยังใหม่กับการติดตามข่าวคลิปของแป้ง เพราะคลิปแรกมาก่อนทนายความจะประสานงานมา และทนายบอกว่า แป้งยังไม่ไว้ใจคนอื่น แป้งไว้ใจเราในการให้ข้อมูลข่าวสาร ดังนั้นเอกสารที่เข้ามามีการทำขึ้นมาได้หรือไม่ ตนก็ยืนยันว่า ตนเองเคยเห็นลายมือชื่อของแป้งอยู่แล้ว เพราะตอนเขาอยู่ในเรือนจำ ตนเองเคยเห็นเอกสารลายมือของเขา ที่เขาเขียนร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

และตอนที่แป้งร้องเรียนในขณะที่ตนเองเป็นเลขานุการ รมว.ยธ. เป็นการร้องเรียนที่ไม่เกี่ยวกับเขา เขาลงชื่อเป็นพยาน ว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐทำตัวไม่ถูกต้องในการเรียกรับเงิน ส่วนเขาร้องเรียนเองโดยตรง เป็นช่วงที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ลาออกจากรัฐมนตรีแล้ว เป็นห้วงของการรักษาการ และเป็นเรื่องของการซื้อของในร้านสงเคราะห์ในเรือนจำ ซึ่งได้แก้ไขแล้ว แต่เรื่องที่เขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ในเรื่องที่ออกมาเปิดเผยคลิป ยังไม่มี

ทั้งนี้หากส่งมาตนเองก็จะมาดำเนินการอันไหนทำได้ก็ทำ อันไหนทำไม่ได้ก็ต้องชี้แจงว่าทำไม่ได้ และถ้าวันนี้แป้งมอบตัวก็จะปลอดภัยที่สุด และถ้าตนเองรับหนังสือแล้ว ก็จะดำเนินการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อทำให้เขาครบแล้ว เขาก็ควรจะต้องตัดสินใจเข้ามอบตัว นี่เป็นสิ่งที่คาดหวัง ส่วนคลิปก็คงต้องตรวจสอบ แต่หากมีหนังสือตามข้อเรียกร้องมาถึงตนเองเมื่อไร ก็จะถือว่ามีความชัดเจนที่สุด เพราะจะเป็นพยานหลักฐานเอกสารที่เป็นลายมือของเขา ซึ่งจะมากกว่าคลิปเสียง เราจึงจะนำเข้าสู่กระบวนการได้ ซึ่งตนเองก็พร้อมให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนเรื่องคดีความหากตัดสินไปแล้วก็ขอรื้อฟื้นคดีใหม่ได้ ถ้ามีพยานหลักฐานใหม่

ต่อมาช่วงบ่ายวานนี้ (27 พ.ย.) ว่าที่ร้อยตรีชัชวาลย์ ได้รับหนังสือร้องเรียนของ "เสี่ยแป้ง" โดยหน้าซองเอกสาร ระบุว่า "เรื่องส่งมอบพยานหลักฐานและหนังสือร้องขอความยุติธรรม เรียน นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ผ่านถึง ร.ต. ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ประจำรองนายกรัฐมนตรี อ้างถึง กรณีผู้ต้องขังชายเชาวลิต ทองด้วง (เสี่ยแป้ง)"

โดย ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวหลังรับหนังสือร้องเรียนว่า ก่อนอื่นต้องเปรียบเทียบลายมือว่าเป็นของ เสี่ยแป้งหรือไม่ อีกประเด็นคือต้องดูว่ามีการร้องขอเรื่องอะไร หากเป็นเรื่องที่ดำเนินการได้ก็จะแจ้งไปยังทนายชัชวาลย์ แต่ต้องเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย ซึ่งตนจะตรวจสอบเรื่องนี้ให้ แต่เขาต้องไม่มีเงื่อนไขอื่นแล้ว แนะนำให้เสี่ยแป้งมอบตัว หากกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยตนก็จะไปรับตัว

-----------------------------------------

ผบ.ตร แง้ม รู้ตัวคนพา 'เสี่ยแป้ง' หนีลงเขา เชื่อยังอยู่ในไทย สวนกลับชาวเน็ต ตำรวจทำตามหน้าที่ ไม่ได้ทำตามเสียงโซเชียล ลั่นจะหนีไปตลอดชีวิตเลยเหรอ

เมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีความคืบหน้าที่นายชวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด นักโทษคดีอุกฉกรรจ์หลบหนีออกจากโรงพยาบาลขณะทำการรักษาตัว ว่า ตอนนี้รู้วัน เวลาที่ นช.แป้งลงเทือกเขาบรรทัดแล้ว รวมไปทั้งบุคคลที่พา นช.แป้งลงเขาเช่นเดียวกัน โดยเบื้องต้นยืนยันว่า นช.แป้ง ยังอยู่ในประเทศ จะมีลวดหนามซึ่งดูคล้ายว่าอยู่ตามตะเข็บชายแดน ซึ่งต้องตรวจสอบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ใด รวมทั้งบ้านที่ปรากฏอยู่ในคลิป

ส่วนเรื่องที่ นช.แป้ง ได้มีการออกมาแฉถึงบุคคลต่างๆ รวมไปทั้งที่มีรายชื่อตำรวจหลายนายเข้าไปพัวพันกับคดีเก่า ตนได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ถ้าหากพบว่ามีมูลความผิดก็จะมีการสั่งลงโทษทางวินัย และอาญา

ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่า นช.แป้ง ติดต่อขอมอบตัวนั้น ไม่เป็นความจริง มีเพียงแต่ญาติของทาง นช.แป้งเท่านั้น แต่ถ้า นช.แป้ง ติดต่อขอมอบตัวด้วยตนเอง ตนในฐานะ ผบ.ตร. จะยืนยันความปลอดภัยให้ และจะไม่มีการวิสามัญแต่อย่างใด แต่ถ้าหากมีการเข้าจับกุมและมีการต่อสู้กัน ตำรวจจะมีการใช้ดุลยพินิจ

ส่วนกระแสข่าวที่ปรากฏในโลกออนไลน์ มีการตำหนิการทำงานของตำรวจ และให้กำลังใจ นช.แป้ง ยืนยันว่าเป็นกลุ่มคนเหล่านั้นเป็นเพียงคนส่วนน้อย เพราะคนในประเทศไม่ได้มีแค่ในโลกออนไลน์ และตำรวจทำตามหน้าที่ ไม่ได้ทำตามเสียงในโลกออนไลน์ รวมทั้งที่มีนักการเมืองที่ออกมาตำหนิการทำงานของตำรวจ ผบ.ตร. มองว่า กลุ่มคนเหล่านั้นไม่เคยเข้ามาอยู่ในพื้นที่ และไม่ทราบการทำงานของตำรวจ อีกทั้งสถานการณ์ในปัจจุบันและสิ่งแวดล้อมเป็นอุปสรรคในการทำงานอย่างมาก

ส่วนการข่าวที่ทำให้ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ เป็นเพราะประชนในพื้นที่ ไม่เชื่อมั่นกับการทำงานของตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้ ตนก็มีนโยบายที่จะปรับทัศนคติตำรวจชุดปฏิบัติงาน และตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจ และมีความเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้ตนทราบปัญหาดี แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้มีปัญหากับชาวบ้าน และไม่ได้มีความบกพร่องในการทำงานแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ผบ.ตร. ได้ฝากไปถึง นช.แป้งว่า การหลบหนีแบบนี้ จะทำให้ต้องหนีไปตลอดชีวิต ดังนั้นควรจะติดต่อเข้ามอบตัว แต่ถ้าหากไม่รับความเป็นธรรมก็ให้แจ้งมาได้ทันที


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/GmeyaiUm11w


คุณอาจสนใจ

Related News