หนังคนละม้วน! ผัวถูกหวย 12 ล้านยันซื้อเอง โต้ซ้อมเมียถีบหัวส่ง ทะเลาะกันหมูติดคอลูกหนีไปเอง

เมียคนหนึ่งที่บุรีรัมย์ ร้องเพจโหนกระแสหลัง สามีถูกลอตเตอรี่ 12 ล้าน แล้วทิ้งลูกเมีย แถมยังทำร้ายร่างกายเมียอีก ล่าสุด ฝ่ายชายออกมาโต้แล้ว ว่าไม่ได้ทิ้ง แต่เมียหนีไปเอง พร้อมยืนยันไม่ได้ทำร้ายร่างกาย

ผู้สื่อข่าวของเราลงพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ บ้านของ นางสาวจรรยา อาศัยอยู่กับแม่ และลูกสาววัย 3 ขวบตามลำพัง โดยเธอเล่าว่า อยู่กินกับสามีชื่ออนันท์ ซึ่งเป็นคนจังหวัดเพชรบูรณ์ มาประมาณ 4 ปี สามีมีอาชีพขับรถสิบล้อส่งสินค้า ส่วนเธอเองจะไปๆ มาๆ ระหว่างจังหวัดบุรีรัมย์กับเพชรบูรณ์ และกรุงเทพฯ เพราะมีอาชีพขับรถ กระทั่งตนตั้งท้องและมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ปัจจุบันอายุ 3 ขวบ

เมื่อเดือนธันวาคม 65 ตอนนั้นตนอยู่กรุงเทพฯ กับลูกสาวในห้องพัก ส่วนสามีขับรถ ระหว่างอยู่ในห้องพักกับลูกสาว ได้เอากระดาษมาเขียนเลข 1-0 ตัวแล้วพันใส่แก้วน้ำให้ลูกสาวจับมาทีละใบ ได้เลข 196 จึงโทรศัพท์ให้สามีซึ่งกำลังขับรถซื้อล็อตเตอรี่ให้

พอผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมาเลข 157196 สามีโทรมาบอกว่าถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ จะได้เงิน 12 ล้าน ดีใจมากเพราะลูกสาวให้โชค

จากนั้นก็เอาลอตเตอรี่ไปขึ้นเงิน โดยเงินทั้งหมดเข้าบัญชีสามี เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะเดินทางกลับไปที่จังหวัดเพชรบูรณ์บ้านของสามี ระหว่างทางสามีบอกว่าจะแบ่งเงินไว้ให้เธอส่วนหนึ่ง ให้ลูกส่วนหนึ่ง ตอนนั้นวาดฝันไว้ว่าหลังจากนี้ครอบครัวจะมีความสุข

แต่กลับไม่เหมือนดังที่ฝันไว้ สามีนั่งดื่มเหล้าทั้งวันทั้งคืน ไม่พอใจก็มาทำร้ายเธอเป็นประจำ เงินที่ว่าจะให้แม่ของเธอไปใช้หนี้ 1 ล้านบาท แต่สามีก็โอนมาเพียง 680,000 บาท และไม่ได้โอนให้อีก ตนบอกให้สามีนำเงินไปเปิดบัญชีเก็บไว้ให้เป็นชื่อลูกสาว สามีก็ไม่ยอมทำ

ส่วนเธอเองสามีให้ใช้เพียงวันละ 20-100 บาท เงินที่จะฝากให้ลูกก็ไม่ฝากตามสัญญา ได้แต่ดื่มเหล้ากับซ้อมเมีย ส่วนสามีทำตัวเป็นเสี่ย สร้างบ้านราคา 2 ล้าน และซื้อที่ดิน 3 ล้าน

จนสุดท้ายต้องโทรศัพท์บอกให้แม่ที่อยู่จังหวัดบุรีรัมย์ มารับที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะทนการซ้อม ทำร้ายของสามีไม่ไหว ตอนนี้กลับมาอยู่บ้านแบบไม่มีอะไร ไม่มีงานทำ ซ้ำสามียังโทรมาบอกว่าไม่ต้องกลับไปอีกเพราะได้ภรรยาใหม่แล้ว

คุณจรรยา บอกว่า ถึงเวลานี้อยากจะหย่าให้เรื่องราวมันจบ และขอแบ่งทรัพย์สินบางส่วนมาไว้เลี้ยงลูก เพราะสามีไม่เคยสนใจเลย ไม่มีแม้เงินจะส่งมาให้เธอกับลูกสาวใช้ สิ่งที่ได้มรดกจากพ่อตอนนี้คือจักรยานคันเล็กคันเดียว จึงอยากจะให้ผู้รู้กฎหมายหาวิธีช่วยเหลือตนด้วย

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ไปบ้านที่เกิดเหตุ ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ไปพบกับ นายอนันท์ ผิวผ่อง อายุ 45 ปี สามี และ นางดอกไม้ โสประดิษฐ์ อายุ 68 ปี แม่สามี

โดยนายอนันท์ บอกว่า วันที่เกิดเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ตนและญาติพี่น้องกำลังนั่งกินหมูย่างกันอยู่บริเวณข้างบ้าน ส่วนแม่ของตน ได้แยกไปนั่งกินในบ้านกับ หลานสาว วัย 3 ขวบ ขณะที่หลานสาวกำลังเคี้ยวหมูย่างอยู่นั้น ปรากฎว่าภรรยา ซึ่งอยู่ในห้องน้ำ ได้เดินมากระชากแขนลูกสาว เพื่อให้ไปอาบน้ำ โดยลูกสาวพยายามบอกว่า ขอกินหมูย่างก่อน แต่ภรรยาก็ไม่ฟัง ได้ฉุดกระชากไปอาบน้ำ พร้อมตีลูกจนหมูติดคอ ทำให้แม่ของตน ได้ต่อว่าจรรยาไปว่า ตีลูกทำไม

ตนมองว่าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ภรรยาของตนไม่พอใจ กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ก็พบว่าทางครอบครัวของภรรยา ได้เหมารถตู้มาจากบุรีรัมย์ มารับตัวภรรยาและลุกกลับบ้าน โดยตนและแม่ ไม่ทราบมาก่อน

หลังจากภรรยา ก็กลับไปบุรีรัมย์ ก็ยังมีการติดต่อกลับมาหาตน เป็นระยะ แต่ไม่สามารถพูดคุยตกลงกันได้ และมีปัญหาทะเลาะกัน ตลอดเวลา และทำให้ตน ต้องบล๊อคเบอร์การติดต่อทุกช่องทาง จนเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้นมา

นายอนันท์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีซื้อหวย แล้วถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ รับเงินรางวัลกว่า 12 ล้านบาทนั้น ขอยืนยันว่า วันดังกล่าว ตนเองออกไปทำงานเพียงคนเดียว และ แวะซื้อลอตเตอรี่ แถวเคหะบางพลี ส่วนภรรยากับลูกสาว อยู่ที่บ้านที่ลาดกระบัง โดยที่ภรรยาก็ไม่รู้ว่าตนซื้อลอตเตอรี่เลขดังกล่าว

กระทั่งพากันกลับมาบ้านที่จังหวัดเพชรบูรณ์ช่วงปีใหม่ ปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ สร้างความดีใจให้ตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยได้บอกกับภรรยาว่า ถ้าหักจากใช้หนี้สินแล้ว ถ้าเหลือเยอะ จะแบ่งให้ภรรยา 1 ล้านบาท ซึ่งหลังจากขึ้นเงินแล้ว ตนก็ได้โอนให้แม่ภรรยา จำนวน 600,000 บาท และให้พี่ชายภรรยา อีก 100,000 บาท พร้อมทั้งดูแลภรรยาและลูก เช่นคู่สามีภรรยาทั่วไป

ส่วนที่บอกว่าตนทำร้ายร่างกายภรรยานั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ไม่ได้ตบตีแต่อย่างใด ส่วนที่ว่ามีภรรยาใหม่ ก็ยืนยันว่า ไม่มี ทุกวันนี้ก็ยังอยู่คนเดียว ส่วนเรื่องจะดูแลรับผิดชอบลูกสาวนั้น ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะมาเกิดเรื่องนี้ขึ้นเสียก่อน ต้องรอให้ทุกอย่างคลี่คลาย ถึงจะมีการตกลงพูดคุยกันกับภรรยาอีกรอบ

ด้านนางดอกไม้ แม่สามี ยืนยันว่าลูกชายไม่เคยตบตีภรรยาแต่อย่างใด และลูกชายไม่ได้มีภรรยาใหม่ ตามที่เป็นข่าว เรื่องเงินก็ให้ใช้จ่ายปกติ อยากใช้เท่าไหร่ ก็ให้ใช้ ที่ทะเลาะกันก็แค่เรื่องหลานสาว วัย 3 ขวบ มานั่งกินหมูย่างกับตน แล้วลูกสะใภ้ไม่พอใจ และตีหลานสาว จนหมูติดคอ เช้ามาทางบ้านลูกสะใภ้ก็มารับกลับ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งตนก็งงเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น

ล่าสุด ทีมข่าวเที่ยงวัน ทันเหตุการณ์ ได้พูดคุยกับ นางสาว จรรยา อีกครั้งว่า วันนั้น สามีของตนนั่งดื่มเหล้าอยู่บริเวณหน้าบ้าน ส่วนลูกสาวกับแม่สามีนั่งทานคอหมูย่างอยู่ในบ้าน ตนเองกำลังกวาดบ้านอยู่ จู่ ๆ ลูกสาววิ่งมาบอกตนเองว่า แม่ ๆ อะไรติดคอ ตนจึงพยายามช่วยเหลือลูกโดยการเอามือล้วงเข้าไปในคอ ซึ่งตนเองไม่ได้ตีลูก

จากนั้นแม่สามี ใส่ร้ายเธอโดยเดินไปบอกสามีที่นั่งอยู่หน้าบ้าน ว่าเธอตีลูกจนร้องไห้ ตอนนั้นแม่สามีได้เข้ามารุมด่าเธอ และไล่เธอกลับบ้านที่บุรีรัมย์ โดยพูดทำนองว่า "ลูกกูทำดีต้องได้ดี ลูกกูถูกหวย" เธอจึงตัดสินใจโทรหาแม่ และขอยืนยันว่าไม่ได้หนีกลับเอง แต่ที่ตัดสินใจโทรหาแม่ของตัวเองเพราะรู้สึกอึดอัดและกดดันที่พักอาศัยอยู่กับแม่สามีและสามี

โดยเธอกดดัน หลายอย่าง เช่น ต้องตื่นแต่เช้าทุกวันในเวลาตี 4 เพื่อมาทำกับข้าว เตรียมอาหารใส่บาตรให้แม่สามี ซักผ้า ล้างจาน มีบางวันไม่ให้อาบน้ำเพราะบอกเปลืองน้ำ ซักผ้าก็ให้ซักเดือนละครั้ง

คุณจรรยา ยืนยันว่า ที่สามีถูกหวย 12 ล้านบาท เนื่องจากเป็นเพราะเธอและลูกบอกให้ซื้อจริง ส่วนที่แม่สามีบอกว่าสามีไม่เคยทำร้ายตนนั้น ไม่เป็นความจริง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jPGEOLy8c6I