กัญจนา รุดเยี่ยมให้กำลังใจหญิงบกพร่องทางสายตา แนะให้อภัยเจอชายตะโกนใส่เปิดหมวกดังหนวกหู

กรณีหญิงบกพร่องทางสายตา เล่นดนตรีเปิดหมวกเพื่อหาเลี้ยงชีพ และจุนเจือครอบครัว แต่ถูกชายสูงวัยรายหนึ่ง บุกต่อว่าโวยวายตะโกนใส่ว่าเสียงดังรบกวนหนวกหู ขณะเล่นเพลงเปิดหมวกหารายได้บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านรัชดา เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้เจ้าตัวร้องไห้ ก่อนจะรีบเก็บของกลับบ้านยุติการเล่น และโพสต์ผ่านเพจส่วนตัว “พิมมี่ คีย์บอร์ด” ระบุว่า “เหนื่อยจนแทบกินน้ำตา ชีวิตต้องดิ้นรน แต่บางครั้งก็รู้สึกท้อมาก” 

ล่าสุดวันที่ 19 พ.ย. 66 เวลา 11.00 น. ที่ตลาดฟู้ดดี้ฟาร์มบางใหญ่ จ.นนทบุรี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะที่ปรึกษาศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ

น้องก้อง กล่าวว่า ตนเล่นดนตรีได้ไม่นาน เมื่อก่อนทำงานเป็นครูที่สำนักงานเขตดุสิต รายได้แต่ละวันไม่เท่ากัน บางวันก็ได้เงิน 500 บาท ถ้ามาที่นี่จะเสียค่ารถแพงเพราะของเยอะ ไปกลับประมาณ 600 บาท ถ้ามาแล้วได้น้อยก็ไม่คุ้ม แต่พวกตนทั้ง 2 คนตั้งใจมามอบความสุข ส่วนใหญ่จะเล่นดนตรีวันเสาร์-อาทิตย์ บางครั้งน้องพิม ก็จะมากับพี่อีกคน ตนเคยเจอเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดคือโดนทำร้ายร่างกาย แต่ไม่เคยเป็นข่าว คนไม่เข้าใจก็มี แต่มีคนมากมายที่คอยซัพพอร์ต ตนก็ปลอบน้องพิม เพราะเขาเป็นผู้หญิงและตกใจที่โดนตะโกนใส่

น้องพิม เปิดเผยว่า ตนเพิ่งเคยเจอเหตุการณ์นี้ครั้งแรก ไปเล่นดนตรีเปิดหมวกกับพี่ที่สาขาตามปกติ จากนั้นมีคนเข้ามาตะคอกใส่บอกให้ตนเปิดเสียงลำโพงเบา ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ตนเคยเล่นก็เปิดเสียงประมาณนี้ ทำไมครั้งนี้มีปัญหา ตนรู้สึกงง รู้สึกตกใจ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน และตนไม่เคยทำผิดอะไร ทำไมต้องโดนแบบนี้ ตนเอาความสุขผ่านเสียงดนตรีมามอบให้ เผื่อมีคนติดต่องาน เพราะตนเรียนดนตรี ตนก็อยากได้งานด้านนี้ เลยเลือกเล่นดนตรีเปิดหมวก เพราะตนหาค่าเทอม ค่ากินค่าใช้ช่วยเหลือตัวเอง ถ้าเข้ามาเตือนดี ๆ ก็ได้ ตนต้องไปหลบข้างหลัง เพราะตนไม่แน่ใจว่าจะมีอาวุธอะไรมาทำร้าย คืนนั้นหยุดเล่นดนตรีและไลฟ์สด รุ่นพี่ที่สาขาก็มาช่วย ตนไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก

ขณะที่ น.ส.กัญจนา ให้สัมภาษณ์ว่า ตนได้ทราบข่าวน้องมาเล่นดนตรีเปิดหมวกเพื่อหารายได้ดูแลตัวเองและครอบครัว แต่มีบางคนมาไล่แล้วสะเทือนใจ วันนี้จึงมาให้กำลังใจน้อง ถึงแม้จะเป็นผู้บกพร่องทางสายตา แต่ก็ไม่ได้งอมืองอเท้า มีความสามารถเล่าเรียนมาทางด้านดนตรี และมาใช้ความสามารถของตัวเองทำมาหาเลี้ยงชีพ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เบื้องต้นที่ทราบจากเจ้าหน้าที่ น้องต้องการลำโพง ไมค์ ไม้เท้าขาวของผู้บกพร่องทางสายตา ซึ่งตนจะจัดหาให้เอง ขอให้ให้กำลังใจผู้พิการทุกคน ที่พยายามต่อสู้ให้มีที่ยืนและให้มีโอกาสในการดำรงชีวิตอยู่ได้ในสังคม ขอให้กำลังใจทุกคน และหน้าที่ของกระทรวงพม. หรือหน่วยงานของรัฐ รวมถึงทุก ๆ คนต้องเปิดโอกาสให้มีพื้นที่ยืนในสังคม จึงขอให้สังคมมีความชัดเจน เพราะเขายินดีและพร้อมที่จะเป็นผู้ทำรายได้และเสียภาษีให้กับรัฐบาลเหมือนคนปกติทั่วไปเช่นกัน

"ขอให้ให้กำลังใจและสนับสนุนผู้พิการทุกคน อย่างการแข่งขันกีฬาที่ผ่านมา นักกีฬาคนพิการของไทยทำชื่อเสียงได้อย่างดีมาก ได้เหรียญมาหลายเหรียญ นี่คือศักยภาพของผู้พิการที่คนปกติอย่างเราต้องให้กำลังใจ ในมุมของตัวเองขอมองบวก ขอบคุณคุณผู้ชายคนนั้นที่มาต่อว่าน้อง เพราะถ้าไม่มีคนนั้นน้องก็ไม่เป็นข่าว สังคมคงไม่ได้รู้เรื่องของน้อง ผู้คนเข้ามาให้กำลังใจน้องมากมาย เชื่อว่าน้องจะได้รับการตอบรับ ไม่ว่าจะไปแสดงที่ไหน จึงต้องขอบคุณคุณคนนั้น ที่ทำให้น้องเป็นข่าว ได้บอกน้องไปว่าขอให้ทำความเข้าใจว่าปัญหาอยู่ที่คนคนนั้น ไม่ได้อยู่ที่เรา อย่างไรก็ตามในวันที่ 20 พ.ย.66 กระทรวงพม. จะไปเจรจากับผู้บริหารจุฬาลงกรณ์ เพื่อขอพื้นที่แถวสยามให้น้องได้มีพื้นแสดงดนตรี" น.ส.กัญจนา กล่าว