สังคม
ชายหัวร้อนได้ของไม่ตรงปก ชักปืนขู่พนักงานส่งพัสดุ ทวงเงินคืน
โดย nutda_t
20 ก.พ. 2567
797 views
ที่ศูนย์ร้องทุกข์ ดร.แก้วช่วยได้ จ.นนทบุรี นายสุริยา อายุ 25 ปี อาชีพพนักงานส่งพัสดุ นำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับดร.ชัยเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) จ.นนทบุรี หลังส่งพัสดุให้ลูกค้า แต่ลูกค้าอ้างว่าได้รับของไม่ตรงปก โวยวายขอเงินคืนก่อนชักปืน พร้อมเรียกพวกมาข่มขู่ หากไม่ให้เงินจะทำร้ายร่างกาย จนกระทั่งผู้เสียหายต้องยอมคืนเงินของตัวเองเป็นค่าพัสดุ จำนวน 899 บาท ถึงจะถูกปล่อยตัวกลับบ้าน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.พ. 67
นายสุริยา ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ส่งพัสดุตามปกติ ขณะที่ถึงบริเวณจุดเกิดเหตุคอนโดเมืองทองธานี ตนได้โทรหาลูกค้าให้มารับพัสดุ โดยหน้ากล่องเขียนชื่อผู้รับคือนายสมชาย ต่อมามีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมารับพัสดุและจ่ายเงินสดจำนวน 899 บาท พร้อมเซ็นรับพัสดุแล้วกลับขึ้นคอนโด จากนั้นตนจึงไปส่งพัสดุให้กับลูกค้าในคอนโดเมืองทองต่อ ผ่านไปประมาณ 5 นาที ผู้หญิงที่รับพัสดุได้เดินลงมาพร้อมกับผู้ชาย ซึ่งคาดว่าเป็นแฟนกัน ทราบชื่อคือนายสมชาย ตามชื่อรับพัสดุ ซึ่งเดินลงมามีท่าทีหัวร้อนใส่อารมณ์กับตน อ้างว่าได้รับพัสดุไม่ตรงปก สั่งเสื้อแจ็คเก็ตไปในราคา 899 บาท แต่ได้ผ้าม็อบถูพื้น 1 อัน จากนั้นปาของใส่ตน พร้อมทั้งต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย เพื่อที่จะให้ตนโอนเงินค่าพัสดุคืน
ตนพยายามพูดคุยด้วยเหตุผลถึงการที่จะคืนพัสดุต้องทำเรื่องแจ้งกับทางบริษัท แต่ทางลูกค้าก็หัวร้อนไม่หยุด ไม่ฟังที่ตนพูด แล้วอาการเหมือนคนเมาต่อว่าตนจะเอาเงินคืนให้ได้ ก่อนจะควักอาวุธปืนที่เหน็บอยู่ที่เอวมาข่มขู่ จากนั้นตนจึงได้โทรศัพท์หาเพื่อนที่เป็นพนักงานส่งพัสดุที่กำลังทำงานอยู่ในเมืองทองให้มาหา เนื่องจากกลัวความปลอดภัย ทางชายหัวร้อนก็ได้โทรเรียกเพื่อนผู้ชายมาเพิ่มอีก 2 คน จากนั้นก็พูดจาหาเรื่องเพื่อนตน ถามว่ามาออกตัวให้ตนเหรอ พยายามจะหาเรื่องเพื่อน แต่ตนก็ได้ห้ามเพื่อนไว้ เนื่องจากคู่กรณีมีอาวุธ สถานการณ์เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ตนจึงนำโทรศัพท์มือถือแอบถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ส่วนแฟนสาวของชายหัวร้อน พยายามที่จะห้ามสามี แต่คู่กรณีได้ตะโกนด่าทอจะเอาเงินคืนอย่างเดียว ตนจึงตัดสินใจนำเงินของตัวเอง จำนวน 899 บาท คืนเงินให้ไป
นายสุริยา กล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนจ่ายเงินคืนลูกค้าหัวร้อนรายนี้ไปแล้ว เหตุการณ์ก็ยังไม่จบ ระหว่างที่ตนเดินกลับไปที่รถจักรยานยนต์เพื่อจะไปส่งพัสดุต่อ กลุ่มคู่กรณีได้เดินตามและด่าทอตลอดเวลา จากนั้นก็เดินมาที่รถจักรยานยนต์ของตน แล้วกักขังไม่ให้กลับ ก่อนบอกว่าจะแจ้งตำรวจให้มาที่เกิดเหตุ เพราะรถจักรยานยนต์ของตนไม่ถูกต้อง ไม่ติดป้ายทะเบียน ซึ่งป้ายทะเบียนหลักฐานมีครบอยู่ใต้เบาะ สาเหตุที่ไม่ติดทะเบียนเพราะว่ามันหลุด ตนต้องพูดคุยพูดจาอ่อนน้อมแบบใจเย็น จนกระทั่งกลุ่มคู่กรณีปล่อยตนกลับไป
เหตุการณ์ครั้งนี้ ตนรู้สึกกลัวมาก เพียงแค่ทำงานส่งพัสดุแต่เกือบถูกรุมทำร้าย เกือบถูกยิงทิ้ง เบื้องต้นได้นำหลักฐานแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด และได้เชิญตนและคู่กรณีไปที่สภ.ปากเกร็ด และมีปากเสียงกันในห้องแจ้งความ ทางพนักงานสอบสวนจึงให้ตนและคู่กรณีกลับบ้านไปสงบสติอารมณ์ ก่อนที่จะเรียกมาสอบปากคำอีกครั้ง
ทาง ดร.แก้ว กล่าวว่า จากการสอบถามเรื่องราวเห็นแล้วว่าโดนรังแก โดนข่มขู่ ซึ่งในวันนี้ตนจะเดินทางไปที่สภ.ปากเกร็ด เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี เชื่อว่าตำรวจจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
แท็กที่เกี่ยวข้อง ได้ของไม่ตรงปก ,ชายหัวร้อน