โลกอาหรับ-มุสลิม ลั่นอิสราเอลทำสงครามป่าเถื่อน ไม่ใช่การป้องกันตัวเอง

ซาอุดีอาระเบีย และกลุ่มประเทศมุสลิม เรียกร้องให้ยุติปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาทันที พร้อมระบุชัดว่า สงครามในกาซาที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นป้องกันตนเองของอิสราเอล

โดยในการประชุมสุดยอดชาติอาหรับ-มุสลิม ที่ซาอุดีอาระเบีย มกุฎราชกุมาร โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ผู้ปกครอง ซาอุดีอาระเบีย  ได้ทรงปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อข้อกล่าวอ้างของโลกตะวันตก และอิสราเอล ที่ว่า สงครามที่เกิดขึ้นนั้น เป็นการ 'ป้องกันตนเอง' ของอิสราเอล โดยพระองค์ทรงย้ำชัดด้วยว่า  "เป็นสงครามที่สุดป่าเถื่อนกับพี่น้องของเราในปาเลสไตน์"

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี เรเซป ทายยิป เออร์โดอัน เรียกร้องให้มีการประชุมสันติภาพระหว่างประเทศ เพื่อค้นหาวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ อย่างถาวร

ขณะที่ ทางด้าน ทามิม บิน ฮาหมัด  อัล ธานี ประมุขแห่งกาตาร์กล่าวว่า การ์ตา ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานฮามาส และมีผู้นำกลุ่มฮามาสหลายคนประจำอยู่ กำลังพยายามไกล่เกลี่ยให้มีการปล่อย ตัวประกันชาวอิสราเอล และหวังว่า จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงด้านมนุษยธรรมเร็ว ๆ นี้

ส่วนทางด้าน ประธานาธิบดี เอบราฮิม  ไรซี แห่งอิหร่าน ซึ่งเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย ได้ยกย่องกลุ่มฮามาส ชาวปาเลสไตน์ ที่ทำสงครามกับอิสราเอล และเรียกร้องให้ประเทศอิสลามกำหนดมาตรการคว่ำบาตรน้ำมัน และสินค้า ต่ออิสราเอล

ทั้งนี้ สงครามที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซา ได้พลิกผันพันธมิตรในตะวันออกกลาง ทำให้ซาอุดีอาระเบียใกล้ชิดกับอิหร่านมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  

และการเดินทางไปซาอุดีอาระเบียของผู้นำอิหร่านนั้น ถือเป็นครั้งแรกของประมุขแห่งรัฐอิหร่าน ในรอบกว่าทศวรรษ หลังจากที่ผ่านมาซาอุฯ และอิหร่าน เป็นปรปักษ์มานานหลายปี แต่ได้รับการประสานความสัมพันธ์กันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลงที่มีจีนเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย

-------------