รพ.ในกาซา ไม่สามารถรับผู้ป่วยได้แล้ว เหตุไม่มีไฟฟ้า หลายฝ่ายกังวล จะทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากเสียชีวิต

โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกาซา เผยว่า โรงพยาบาลอัล-ชิฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดของฉนวนกาซาไม่สามารถรับผู้ป่วยในพื้นที่ได้อีกต่อแล้ว เนื่องจากไม่มีเชื้อเพลิง หลายฝ่ายกังวล จะเกิดหายนะ และทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากเสียชีวิตหากยังไม่มีการหยุดยิง


การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสยังคงทวีความรุนแรง โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โรงพยาบาลหลายแห่งในฉนวนกาซาถูกโจมตีอย่างหนัก ล่าสุด โรงพยาบาลอัล-ชิฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในกาซา ขณะนี้ ต้องปิดให้บริการแล้ว และไม่สามารถรับผู้ป่วยในพื้นที่ได้อีกต่อไป เนื่องจากขาดแคลนไฟฟ้า น้ำ และอาหาร


โดยในตอนนี้ โรงพยาบาลอัล-ชีฟา มีผู้ป่วยอยู่ประมาณ 600 คน ในจำนวนนี้มีเด็ก 37 ถึง 40 คน และผู้ป่วยที่อยู่ในห้องไอซียูอีก 17 คน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูงมาก ขณะเดียวกัน ภายในโรงพยาบาลเอง บรรดาแพทย์และพยาบาลก็ไม่สามารถสื่อสารกันได้


อย่างไรก็ตาม ทางอิสราเอลออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของฮามาสที่บอกว่า อิสราเอลโจมตีและยิงปืนใส่คนโรงพยาบาลดังกล่าว แต่ยอมรับว่า มีการปะทะกันระหว่างทหารอิสราเอลกับนักรบฮามาสรอบโรงพยาบาลจริง


ทางด้าน พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษกของกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ ไอดีเอฟ ประกาศว่าอิสราเอลจะเปิดเส้นทางให้ชาวปาเลสไตน์หนีออกจากโรงพยาบาลอัล-ชีฟา และจะช่วยอพยพเด็กทารก 37 คนไปยังโรงพยาบาลอื่นที่มีความปลอดภัยมากกว่า ในวันนี้ แต่ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นที่ใด


จากการโจมตีของอิสราเอลที่มีเป้าหมายเป็นโรงพยาบาลทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า จะเกิดหายนะในเวลาอันใกล้นี้ หากยังไม่มีการหยุดยิง เพราะจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ขณะที่ผู้บาดเจ็บเองก็จะไม่มีที่ให้รักษาตัว


นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการขององค์การอนามัยโลกออกแถลงการณ์ แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข รวมถึง ผู้ป่วย, ผู้บาดเจ็บ, เด็กทารก, และผู้ลี้ภัยจำนวนมากที่ยังติดอยู่ในโรงพยาบาลอัล-ชีฟา