ซ้ำซาก! ช้างป่าทำร้ายชาวบ้านสาหัส - หักโค่นต้นยาง - ลงมากินข้าวนาปีเสียหาย วอนรัฐแก้ปัญหา

วันที่ 11 พ.ย.66 ได้เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายชาวบ้าน ขณะเข้าไปกรีดยางพารา ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดที่หมู่บ้านทับไทร ม.1 และ 2 บ้านท่าสะตือ ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.กบินทร์บุรี อาการซี่โครงหัก มีเลือดออกในช่องท้อง ทราบชื่อคือ นายทวีป อายุ 50 ปี


ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำบลแก่งดินสอ เจ้าหน้าที่ป่าไม้อุทยานแห่งชาติทับลาน เจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์เขาอ่างไน ออกตรวจสอบและติดตามช้างตัวดังกล่าว พบว่าช้างตัวที่ทำร้ายชาวบ้านเป็นช้างสีดอ เพศผู้ ยังหลบซ่อนตัวอยู่ในสวนป่ายูคาลิปตัส ชุดปฏิบัติการณ์ทับลานและเขาอ่างฤาไน และจิตอาสาผลักดันช้างและไล่ติดตามช้างมาตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา จนกระทั่งช่วงเช้าช้างตัวดังกล่าวได้ทำร้ายคนงานที่เข้าไปกรีดยางพารา และทำลายรถจักรยานยนต์ของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้รับความเสียหายไป 1 คัน


ด้าน นายวิชัย คงทน อายุ 62 ปี ผู้ช่วยฝ่ายปราบปรามหมู่บ้าน กล่าวว่า ได้ออกติดตามช้างตัวดังกล่าวพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เขาอ่างฤาไน ว่าเป็นช้างที่เขาที่ติดตามมา จนกระทั่งช่วงเช้าช้างตัวดังกล่าวได้ทำร้ายคนงานทำสวนยาง ตอนนี้ช้างยังอยู่ในพื้นที่


นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน กล่าวว่า ช้างตัวดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่กดดันมาเรื่อย ๆ เบื้องต้นต้องตรวจสอบว่าช้างมาจากป่าไหน โดยคาดว่าน่าจะลงมาจากทับลาน หรืออาจจะเป็นช้างที่มาจากเขาอ่างฤาไน ซึ่งหลังขณะนี้กำลังประเมินว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนทางเลือกสุดท้ายคงต้องยิงยา แล้วนำรถมาใส่ แต่หากช้างตัวดังกล่าวมาจากทับลานเราจะวางกำลังและค่อยผลักดันกลับป่าต่อไป จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เขาอ่างฤาไน บอกว่ามา 2 ตัว เป็นช้างตัวผู้ทั้ง 2 ตัว


////


วันที่ 11 พ.ย.66 นายบุญนาค พรพจน์ธนมาศ นายก อบต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ระดมอาสาสมัครป้องกัน ร่วมทีมเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ชุดเฝ้าระวังช้างป่า ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ปฏิบัติการวางแนวลาดตระเวนป้องกันโขลงช้างป่า จำนวน 3-4 โขลง หลัก ๆ โขลงละ ไม่ต่ำกว่า 10 ตัว รวม ๆ ก็เกือบร้อย ที่กระจายออกหากินทำรายพืชผลทางการเกษตรชาวบ้าน ในพื้นที่ บ้านเขากระดาษ บ้านเกาะลอย บ้านร่วมโพธิ์ทอง บ้านท่ามะนาว บ้านหัวฝาย บ้านห้วยตะปอก บ้านสามพราน และบ้านเทพประทาน


ซึ่งสถานการณ์หนักสุดตอนนี้ คือพื้นที่ บ้านเทพประทาน บ้านสามพราน บ้านมอทราย บ้านร่วมโพธิ์ทอง บ้านท่ามะนาว ที่ช้างป่ามีพฤติกรรมเข้าหักโค่นต้นยางพาราตามสวนชาวบ้าน ทั้งกลางวัน กลางคืน ซึ่งเจ้าหน้าที่ อาสา ทุกคนต่างพยามวางแนวผลักดันโขลงช้างป่าที่กระจัดกระจาย ตั้งแต่ช่วงเย็นมาจนถึงค่ำ เวลาประมาณ 21.00 น. จึงสามารถผลักดันเข้าแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนได้ โดยจะเห็นภาพจากโดรนจะเหลือเพียงช้างป่าผู้นำที่ยังยืนนิ่งคุ้มกันให้โขลงไปก่อน


ขณะที่ นายธนวัฒน์ อายุ 55 ปี พร้อมชาวบ้าน หมู่ที่ 7 บ้านอ่างเสือดำ ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ร้องทุกข์ผ่านผู้สื่อข่าวว่า วิงวอนรัฐบาลลงพื้นที่ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างจริงใจเร่งด่วนด้วยเถิด ก่อนที่ชาวบ้านจะยืนทุกข์ช้ำใจไปกับต้นยางพาราในสวน ที่ถูกโขลงช้างป่าหักโค่นรายวัน และช่วงนี้ช้างป่ามีอาการตกมัน ทำร้ายชาวบ้านก็แทบรายวันในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้ง ตำบลท่ากระดาน ตำบลทุ่งพระยา ตำบลท่าตะเกียบ ชาวบ้านเองทุกวันนี้ก็แทบจะไม่มีรายได้กันเลย ทั้งข้าวของแพง น้ำมันแพง ปุ๋ยแพง ฝนก็ตกเกมือนแกล้ง กรีดยางกันแทบไม่เห็นเงิน


นายวัชรากร บอกกับผู้สื่อข่าวว่า สภาพบางส่วน ที่ต้นยางพาราถูกช้างป่าหักโค่น โดยโขลงช้างป่าจะหักโค่นต้นยางพาราแปลงละ 4-5 ต้น ต่อวัน ในขณะที่ต้นยางใช้เวลาปลูกต้นละ 5-6 ปี ถึงจะกรีดยางได้


ชาวบ้านในพี้นที่บ้านเทพประทาน บ้านท่ามะนาว และอีกหลายหมู่บ้าน ในตำบลคลองตะเกรา ก็ได้แต่นั่งยิ้มรอรัฐบาลมาช่วยแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจและตรงจุด ก่อนที่โขลงช้างป่าจะบุกกระจายทำรายหักโค่นต้นยางพารา และพืชผลทางการเกษตรไปอย่างสุดช้ำใจ ภาระหนี้สินท่วมหัว ชีวิตที่ต้องทนเสี่ยงจากภัยช้างป่า


////


วันที่ 11 พ.ย.66 มีคลิปภาพเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว ร่วมกับผู้นำชุมชนบ้านภูทรายทอง ม.14 ต.บ้านต้อง อ.เซกา จ.บึงกาฬ ไล่ต้อนโขลงช้างป่า กลับเข้าไปในพื้นที่ป่าภูวัว หลังลงมาหากินในตอนกลางคืน และหากินข้าวนาปีที่ชาวบ้านปลูกไว้ ซึ่งกำลังจะเก็บเกี่ยว


โดยในคลิปพบว่ามีช้างป่าตัวใหญ่ หรือ จนท.เรียกว่า เจ้างาคู่ เดินออกหน้าโขลง ตามด้วยช้างตัวเมีย และลูก ๆ และช้างตัวผู้ ตัวเมีย ไล่เลี่ยกัน และช้างตัวสุดท้ายที่พิการขาหน้าทั้ง 2 ข้าง เดินกระโผลกกระเผลก ตามหลัง โดยมีช้างตัวเมียนำหน้าคอยให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจากการนับคร่าว ๆ ประมาณไม่ต่ำกว่า 10 ตัว แต่ชาวบ้านบอกนับได้ 17 ตัวอย่างต่ำ และหายเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว


นายบุญโฮม สีหาไชย ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า จากการสำรวจเบื้องต้นของพบว่ามีนาข้าวของชาวบ้านเสียหายหลายราย แต่ยังไม่มีชาวบ้านมาแจ้งความเสียหาย เบื้องต้นมีนาข้าวของ นายเดชศักดิ์ดา อายุ 71 ปี มีช้างเดินผ่านลงไปในนาข้าวเหยียบย่ำ กัดกิน เมล็ดข้าวที่รอเก็บเกี่ยวเสียหายประมาณ 2 ไร่ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ยางพาราภายในสวนยางพาราของชาวบ้านได้รับความเสียหาย เช่นกัน


แปลกตั้งแต่อยู่มากว่า 20 ปี ไม่เคยเห็นช้างลงมาหากินในหมู่บ้านนี้เลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก และก็เป็นครั้งแรกที่ตัวเองเห็นช้างป่าโขลงใหญ่ขนาดนี้ และอาจจะเป็นโขลงของลูกช้างป่า (น้องกันยา) ที่พลัดหลง ก็ได้ เพราะอยู่ในระแวงเส้นทางเดียวกันกับน้องกันยาที่พลัดหลง


ส่วนชาวบ้านบางรายในหมู่บ้าน ที่ปลูกข้าวนาปีไว้และกำลังสุกงอม ต้องช่วยกันเร่งเกี่ยวข้าวหนีช้าง เพราะหวั่นว่าเย็นนี้ช้างป่าจะพาโขลงกลับลงมาหากัดกินข้าวเสียหายได้อีก


ด้านนายวิษณุ กุมภาว์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว กล่าวว่า ช่วงนี้ข้าวนาปีกำลังตั้งท้องออกรวง สุกงอม รอการเก็บเกี่ยว ข้าวใหม่ ที่มีกลิ่นหอม อาจทำให้เกิดการกระตุ้นช้างป่าจึงลงมาหากัดกินข้าว ประกอบกับเริ่มเข้าสู่หน้าแล้งแล้ว บนเขาอาจจะเหลือน้ำน้อย แหล่งอาหารก็เช่นกัน อาจทำให้ช้างลงมาหานอกเขตป่า


โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ จนท.เฝ้าระวังตรวจตาถี่ขึ้น และประชาสัมพันธ์ ให้ชาวบ้านได้ระมัดระวัง ถ้าพบเห็นช้างป่าออกมา ให้รีบแจ้งสายด่วน 1362 หรือโทร 085-4646363 พร้อมกับจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวัง และคอยผลักดันช้างป่า ลงพื้นที่เฝ้าระวังไม่ให้ช้างป่าออกมาหากินพืชผลการเกษตรของชาวบ้านแล้ว ส่วนความเสียหายก็จะออกสำรวจหาทางช่วยชาวบ้านต่อไป

รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/KstyqSnDwpU