สังคม

คืบหน้าเด็กฉีดถังดับเพลิงพิธีปิดกีฬาสี ยังรักษาตัวในรพ. 1 ราย สอบพบเด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แอบนำมาเซอร์ไพรส์

โดย passamon_a

12 พ.ย. 2566

480 views

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ตรวจสอบรายละเอียดการเกิดเหตุ สารเคมีฟุ้งกระจายเป็นบริเวณกว้าง ขณะการแสดงเชียร์ลีดเดอร์ ในพิธีปิดกีฬาสีของโรงเรียนภูเวียงวิทยาคม อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น และนักเรียนสูดดมเอาสารเคมีเข้าไปบางรายอาการหนัก จนอาเจียนเป็นเลือด หามส่งโรงพยาบาล 30 ราย เหตุเกิดในช่วงเย็นของวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่สนามกีฬาของโรงเรียนภูเวียงวิทยาคม และในพิธีปิดกีฬาสีของโรงเรียน ซึ่งมีสีฟ้า สีแดง สีส้ม สีเขียว สีเหลือง โดยการเกิดเหตุเกิดขึ้นขณะการแสดงของเชียร์ลีดเดอร์ สีเหลือง


โดยผู้สื่อข่าวได้เข้าตรวจสอบที่สนามกีฬาของโรงเรียน ซึ่งยังมีสแตนของสี แต่ละสีตั้งเรียงรายอยู่ขอบสนาม แต่เนื่องจากเป็นวันเสาร์มีเพียงครูเวรเข้าเวรอยู่ ส่วนผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะผู้บริหารได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของนักเรียนที่ยังพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 1 ราย อยู่ที่อาคารผู้ป่วยหญิง รพ.ภูเวียง


ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ นายสุริยา ห่มขวา ผู้อำนวยการโรงเรียนภูเวียงวิทยาคม กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นขณะนักเรียนร่วมแสดงเชียร์ลีดเดอร์ในพิธีปิดกีฬาสี ที่สนามของโรงเรียน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เพราะคณะครู อาจารย์ ไม่มีใครรู้เรื่องมาก่อน เป็นการกระทำของนักเรียนสีเหลืองบางกลุ่ม บางคนเท่านั้น


การแข่งขันกีฬาสี ดำเนินการมาจนวันสุดท้ายที่มีพิธีปิด ก็ไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น การแข่งขันกีฬาดำเนินการไปอย่างราบรื่น แต่ขณะที่มีการแสดงของเชียร์ลีดเดอร์นั้น สีเหลืองก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น เพราะมีนักเรียนลักลอบนำถังดับเพลิงเข้ามาใช้ในกิจกรรมการแสดงของเชียร์ลีดเดอร์ในช่วงพิธีปิดการแข่งขันกีฬา และเป็นสิ่งที่คณะครูที่ควบคุมดูแลนักกีฬาและเชียร์ลีดเดอร์ไม่รู้เรื่องและไม่ระแคะระคายมาก่อน ว่านักเรียนจะเอาถังดับเพลิงเข้ามาร่วมในกิจกรรม แล้วนำถังดับเพลิงฉีดพ่นประกอบการแสดงเชียร์ลีดเดอร์ ฉีดปิดงานก่อนจุดพลุแฟร์ ทั้งควันจากพลุ ทั้งสารเคมีฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ


"การแสดงเชียร์ลีดเดอร์ เป็นการแสดงชุดสุดท้ายของสีเหลือง ณ บริเวณสนามฟุตบอลโรงเรียนโดยใช้ถังดับเพลิงประกอบ การทำเอฟเฟ็กจำนวน 2 ถัง ทำการแสดงได้ประมาณ 6 นาที ทำให้เกิดฝุ่นควันสารเคมีดับเพลิงฟุ้งกระจายไปบริเวณกว้าง นักเรียนซึ่งเป็นผู้แสดงและผู้ชมการแสดงเกิดสูดดม สำลักสารเคมีจากถังดับเพลิงถูกนำส่งโรงพยาบาลภูเวียง เบื้องต้นจำนวน 40 ราย มีอาการไอ แน่นหน้าอก มีอาการระคายเคืองผิวหนัง และอาเจียน


หลังจากแพทย์พยาบาลได้เข้าช่วยเหลือรักษาอย่างทันท่วงที พบว่ามีอาการเล็กน้อย ได้รับการปฐมพยาบาล และส่งตัวกลับบ้านแล้ว จำนวน 34 ราย และมีอาการหายใจไม่สะดวกแสบคอ แอดมิดที่โรงพยาบาลภูเวียง เพื่อรอแพทย์ตรวจรักษา จำนวน 6 ราย"


ซึ่งจากการสอบสวนคณะครูผู้ควบคุมการแสดงของนักเรียนปรากฏว่า คณะครูไม่ทราบว่านักเรียนที่ทำการแสดงเชียร์ลีดเดอร์จะนำถังดับเพลิงมาฉีดพ่นประกอบการแสดงมาก่อน จึงไม่ได้เข้าไปห้ามปราม หลังจากเกิดเหตุจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนนักเรียนกลุ่มนักแสดง จึงได้มีการแจ้งตำรวจให้มาเก็บถังดับเพลิงที่นักเรียนนำเข้ามาใช้ในกิจกรรมพิธีปิดการแข่งขันกีฬาสีไปตรวจสอบ


ซึ่งหากผลการตรวจสอบของตำรวจออกมาว่าเป็นสารเคมีที่มีอันตราย ไม่ควรนำมาใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ทางโรงเรียนก็จะปรึกษากับตำรวจว่าจะดำเนินการเอาผิดกับใครได้บ้าง หรือจะต้องทำอย่างไรต่อ เพราะขณะนี้ นักเรียนปลอดภัยทุกคนแล้ว รายสุดท้ายแพทย์ก็จะให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก โรงเรียนก็จะให้ความรู้กับนักเรียนและทำความเข้าใจกับชุมชนในพื้นที่ ในการจะสนับสนุนนักเรียน ให้พิจารณาความเหมาะสมและควรแจ้งให้ทางโรงเรียนทราบด้วย เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีก


ขณะที่ นายทวีศักดิ์ สมนอก รอง ผอ.สพม.ขอนแก่น กล่าวว่า กรณีของโรงเรียนสีชมพูวิทยาคมนั้น หลังทราบเหตุ ก็ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที ซึ่งทราบจากผู้อำนวยการโรงเรียนว่า การปิดกีฬาภายในและเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นนั้น เกิดขึ้นจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็กนักเรียน ที่นำถังดับเพลิงเข้ามาใช้ในกิจกรรมของโรงเรียน ซึ่งเด็กนักเรียนที่รับผลกระทบล่าสุดออกจาก รพ.หมดแล้ว


"ในเรื่องถังดับเพลิงนั้น เป็นเหตุสุดวิสัย ช่วงที่เด็กนำถังดับเพลิงมาฉีดพ่นนั้น ไม่มีใครทราบมาก่อน อยู่นอกเหนือกำหนดการการจัดกีฬาสี มีการฉีดขึ้นมาจนเกิดเหตุการณ์จะบานปลายดังกล่าว ในส่วนของการตรวจสอบในด้านอื่น ๆ นั้น ทางเราจะดูแลนักเรียนก่อน ซึ่งทางโรงเรียนมีแผนเผชิญเหตุอยู่ และมีการเยียวยาในด้านของจิตใจต่อเนื่องอยู่แล้ว และขณะนี้ สพม.ขก.ได้ออกหนังสือเป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติเพื่อเน้นย้ำไปอีกครั้งไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อน"




รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/ZqNYpsPtpAU

คุณอาจสนใจ

Related News