สังคม

สาวอุดรฯทาสยา ปามีดบินหวิดปักคอเพื่อนบ้าน - รวบหนุ่มขอนแก่นมียาบ้ากว่า 2 แสนเม็ด อ้างเงินไม่พอใช้

โดย nattachat_c

22 เม.ย. 2567

56 views

วานนี้ (21 เม.ย.67)  ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ที่บ้านกุดลิงง้อ หมู่ 3 ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่า ตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนและผวาไปตามๆ กัน เพราะมีหญิงสาวรายหนึ่ง ติดยาเสพติด และคลุ้มคลั่ง ใช้มีดไล่ทำร้ายชาวบ้าน ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง และยังถือมีดไล่ทำร้ายพี่ชายแท้ ๆ ของตัวเองด้วย


โดยมีหลักฐานเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 67 ผู้ก่อเหตุ คือ น.ส.เจี๊ยบ อายุ 38 ปี วิ่งขากะเผลก และถือมีดปังตอ ร้องตะโกนโวยวายมาที่บ้านของเพื่อนบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านค้า บอกว่า “ยายน้อย ช่วยด้วย ๆ พี่ชายมันจะฆ่าเอา” ในขณะที่คุณยายเจ้าของบ้าน ต้องรีบบอกว่า  “มึงวิ่งไปโรงพัก มึงอย่าวิ่งหากูนะ” แล้วรีบปิดประตูบ้านทันที  จากนั้น พี่ชายของ น.ส.เจี๊ยบ ถือเหล็กยาวเดินตามหลังมา และตะโกนว่า  “มึงไปไกล ๆ ไม่งั้นกูจะฆ่ามึงแน่”


แต่ น.ส.เจี๊ยบ ก็ท้าทายพี่ชายบอกว่า “มึงมาเลย ๆ” จากนั้น ก็ขว้างมีดบิน จนมีดกระเด็นเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้าน เกือบโดนคอเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ภายในบ้าน  โชคดีที่มีดปังตอไปติดอยู่กับต้นฝรั่ง และสังกะสี หากไม่มีต้นฝรั่งมากั้น อาจจะได้รับบาดเจ็บแน่นอน


ชาวบ้านในละแวกนั้น นำคลิปนี้ไปโพสต์ในโซเชียล และ ระบุว่า น.ส.เจี๊ยบ ติดยาแล้วคลุ้มคลั่ง ปามีดใส่พี่ชายตัวเอง พี่ชายเลยต้องถือเหล็กเอาไว้ฟาดเพื่อป้องกันตัว และที่ขว้างมีดใส่ร้านค้า เพราะโมโหที่เจ้าของร้านค้ากับลูกค้าในร้านไม่ยอมช่วยเหลือ และคนในหมู่บ้านก็ถูก น.ส.เจี๊ยบ ทำร้าย และก่อกวนหลายคน


ต่อมา ช่วงเย็นวานนี้ (21 เม.ย.67) น.ส.เจี๊ยบ ย้อนกลับมาที่บ้านอีกครั้ง คราวนี้คว้าไม้ตีหัวพี่ชายเลือดอาบ ก่อนจะหนีไป ชาวบ้านช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือทำแผลให้นายวิทยา


พี่ชายของ น.ส.เจี๊ยบ บอกว่า น้องสาวเสพยาหนักจนหลอน  เมื่อวันก่อน ถือมีดจะทำร้ายตน จนตนต้องคว้าเหล็กมาเป็นอาวุธป้องกันตัว แต่น้องสาวกลับโวยวายว่าตนจะฆ่าน้อง วิ่งไปหาเพื่อนบ้าน พอเพื่อนบ้านกลัวไม่ยอมให้เข้าใกล้ ก็ไปขว้างมีดใส่บ้านชาวบ้าน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ  


นายวิทยา บอกด้วยว่า ก่อนหน้านี้  น้องสาวอาละวาดมาแล้วหลายครั้ง เคยถูกตำรวจมาจับไปและตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง ตนก็เอากลับมารักษา ส่วนที่น้องสาวติดยาเพราะสามีเก่ามีประวัติส่งยาและเอายาให้ภรรยาเสพ ก่อนเลิกรากันไป น้องสาวเคยมีสามีมาแล้ว 5 คน มีลูกมาแล้ว 5 คน ก็แบ่งให้สามีเก่าเลี้ยง แต่ยังมีลูกชายคนหนึ่งที่ยังอยู่ด้วยกัน เพิ่งจบ ม.3 เขาก็อยู่ดูแลแม่  


แต่ตนก็เห็นใจ และสงสารหลานชาย เพราะหลานคงอายคน  ตนเป็นห่วงความรู้สึกของหลานชาย  ส่วนน้องสาวก็ยิ่งเป็นห่วง กลัวจะไปฆ่าใครเข้า เพราะในห้องนอนน้องสาวเก็บมีดเอาไว้หลายเล่ม เนื่องจากหลอนว่าจะมีคนทำร้าย  ตนอยากจะเอาน้องไปบำบัดรักษา และคราวนี้ต้องแจ้งความดำเนินคดีกับน้องให้เข็ดหลาบ ให้เจ้าหน้าที่พาตัวไปบำบัดด้วย


ต่อมา ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ไปจับกุมตัว น.ส.เจี๊ยบ ที่หนีไปบ้านญาติ แล้วนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองอุดรธานี ปรากฎว่า พูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดจาวกวนไปมา จับใจความได้ว่า จะอาบน้ำ แล้วพี่ชายไม่ให้เข้าบ้าน ไล่ออกจากบ้าน และต้องการเงิน 30,000 บาท เพื่อไปไถ่โฉนดที่ดิน แต่พี่ชายไม่ให้ จึงเอาไม้ฟาดหัวพี่ชาย  


ส่วนเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ปามีดบินใส่บ้านเพื่อนบ้าน บอกว่า โยนมีดทิ้ง เพราะอยากให้พี่ชายพาไปแจ้งความจับตำรวจ เพราะโดนตำรวจทำร้าย  ยืนยันว่า ตนไม่ได้เสพยาเสพติด แต่ยอมรับว่าตนเป็นเอเยนต์ขายยาบ้ารายใหญ่ อ้างว่าถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย อยากให้สังคมสอนเด็ก ๆ หน่อย อย่าพูดกันปากต่อปาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยิ่งคุยยิ่งปวดหัว เพราะพูดไปเรื่อย ฟังไม่รู้เรื่อง


สอบถาม น.ส.สุนันทา เพื่อนบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เล่าว่า น.ส.เจี๊ยบ มีอาการหลอนยาหลายครั้งแล้ว ทำให้แม่ตนที่เปิดร้านขายของเกิดความหวาดกลัว  เพราะปกติตนรับราชการจะไปทำงานในตัวเมือง จะกลับมาเฉพาะวันเสาร์ และวันอาทิตย์เท่านั้น


เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ตนนั่งทำงานอยู่ในบ้าน แล้ว น.ส.เจี๊ยบ วิ่งมาที่บ้านตน มาขอให้แม่ของตนช่วย ทั้งที่ น.ส.เจี๊ยบ เพิ่งจะทำร้ายพี่ชายของตัวเอง แต่แม่ของตนกลัว จึงบอกให้ออกไปจากบ้าน น.ส.เจี๊ยบ จึงขว้างมีดเข้ามาในบ้าน โชคดีที่มีดไปติดต้นฝรั่งและสังกะสีพอดี หากไม่มีต้นฝรั่ง มีดน่าจะมาโดนศีรษะหรือคอของตนจนได้รับบาดเจ็บแน่นอน


น.ส.สุนันทา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาก็ได้ยินเสียง น.ส.เจี๊ยบ อาละวาดแทบทุกวัน ตอนนี้ เริ่มคลั่งมากกว่าเดิมแล้ว วันก่อนก็ได้ยินเสียงมาขุดดินข้าง ๆ บ้านตน ไม่รู้จะทำอะไร  


และก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ก็มีผู้ชายถือมีดดาบยาวมาก มาที่ร้านค้าของแม่เพื่อซื้อน้ำดื่ม แล้วเดินวนรอบบ้าน แม่ก็กลัว จากนั้น ก็เข้าไปที่บ้าน น.ส.เจี๊ยบ คาดว่าจะเป็นพวกคนเสพยาด้วยกัน


พอเกิดเหตุการณ์ 2 วันต่อกัน แม่และตนก็กลัว ตอนนี้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพราะกลัวว่าเขาหลอนยาเกิดคลั่งแล้วเอามีดมาปาดคอ  ตนยังเคยขอซื้อบ้านจากพี่สาวของเขา เพื่อให้เขาย้ายออกไป แต่พี่สาวเขายังไม่ขาย ตนก็ห่วงความปลอดภัยของครอบครัว กลัวจะมาตายเพราะคนเสพยา มันไม่คุ้มเลย  จึงอยากให้เจ้าหน้าที่นำตัว น.ส.เจี๊ยบ ไปบำบัดอย่างจริงจัง อย่าปล่อยออกมาให้เดือดร้อนชาวบ้านอีก

----------------

วันที่ 21 เม.ย.67 นางสาวอ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอชุมแพ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอชุมแพ (ศป.ปส.อ.ชุมแพ) จังหวัดขอนแก่น มอบหมายให้ นายนคร สุพรรณ์ ปลัดอาวุโสอำเภอชุมแพ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายแฟลช (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาวตำบลชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 264,000 เม็ด บรรจุห่อ 132 มัด


พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินตาม ป.ยาเสพติด จำนวน 3 รายการ มูลค่าประมาณ1,240,000 บาท ประกอบด้วยรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จำนวน 1 คัน / ทองรูปพรรณ จำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 5 บาท / โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 15 จำนวน 1 เครื่อง


โดยจับกุมได้ที่บ้านพัก พร้อมตรวจยึดยาบ้าบรรจุในถุงขยะสีดำ 3 ใบได้ภายในห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 2 บ้านหัวหนอง ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น หลังชุดสืบสวน สืบทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด


สอบถาม นายแฟลช (นามสมมุติ) ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าจำนวนดังกล่าวเป็นของตนจริง ตนมีอาชีพเปิดร้านซ่อมรถ จยย. เงินไม่พอใช้จ่าย จึงได้โทรศัพท์สั่งยาบ้าจากคนรู้จักที่เป็นชาวอาข่า จ.เชียงราย ให้นำมาส่งให้ โดยนัดหมายใส่ถุงดำวางทิ้งไว้ข้างทาง ในราคาเงินดาวน์ 3 แสนบาท 132 มัด จำนวน 264,000 เม็ด เมื่อขายหมดถึงจะส่งเงินส่วนที่เหลือ ล้านกว่าบาท ก่อนนำมาขาย มัดละ 17,000 บาท ซึ่งใน 1 มัดจะมียาบ้าจำนวน 10 ถุง 2,000 เม็ด และส่งเงินคืนชาวอาข่า มัดละ 14,000 บาท ทำมาแล้ว 2 ครั้ง


ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเอเย่นต์รายย่อยในพื้นที่ อำเภอภูเขียว อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ โดยจะมาซื้อครั้งละเป็นมัด ๆ เพื่อนำไปขายต่อ รายได้ส่วนใหญ่นำมาไว้ใช้จ่ายส่วนตัว


ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสอบสวน เพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ก่อนส่งตัวดำเนินคดี ในข้อหาว่ามีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติด ให้โทษประเภท1เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า) อันเป็นกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนต่อไป

----------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/nSCMIWG93SY

คุณอาจสนใจ

Related News