เลือกตั้งและการเมือง
สส.ก้าวไกล เชียงใหม่ โต้กลับ หลัง 'แทนคุณ' แฉปลอมลายเซ็น รับเงินค่าช่วยหาเสียง
โดย nattachat_c
9 พ.ย. 2566
59 views
วานนี้ (8 พ.ย. 66) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ รักษาการประธานคณะกรรมการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี สส.ก้าวไกล เชียงใหม่ เขต 8 ปลอมลายเซ็น รับเงินค่าช่วยหาเสียง ระบุว่า
ตนได้รับทราบข้อมูลจากแหล่งข่าว ที่อ้างว่ามี สส.ก้าวไกล จังหวัดเชียงใหม่ ปลอมลายเซ็นผู้อื่น และแจ้งยอดเงินไม่ตรงกับที่จ่าย มีบางรายไม่ได้รับเงินสักบาท แต่ถูกสวมสิทธิเซ็นชื่อรับเงิน
ซ้ำร้าย นำส่งเอกสารปลอมยอดเงินเท็จ และการหลอกนำบัตรประชาชนของผู้เสียหาย ไปประกอบเอกสารเท็จ ยื่นบัญชีรายรับ-รายจ่าย การลงสมัคร สส.ให้ กกต. โดยไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง
เมื่อตนได้รับหลักฐาน คือ ใบแจ้งความของผู้เสียหาย ที่ไปพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่า เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล และถูกปลอมลายเซ็น และนำสำเนาบัตรประชาชนไปแอบอ้างในการรับเงินค่าจ้างผู้ช่วยหาเสียง โดยได้มีการรับเงินเป็นจำนวน 13,490 บาท แต่กลับไม่ได้รับเงินเลยสักบาท
และผู้เสียหาย อีก 2 รายได้รับเงินมาเพียง 9,000 บาท ถูกทำเอกสารปลอมว่ารับเงินจำนวน 18,020 บาท โดยมีการนำบัตรประชาชนของผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ไปปลอมลายเซ็นแอบอ้างทำเอกสารเท็จ ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดเชียงใหม่
โดยตนได้โทรสอบถามรายละเอียดกับแหล่งข่าว ยืนยันเป็นเรื่องจริง โดย 1 ใน 3 กล่าวว่า "พวกตนทั้ง 3 คน ที่รักพรรคก้าวไกลด้วยหัวใจ เพราะชื่นชอบแนวคิดและอุดมการณ์ อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศ จึงทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ สนับสนุนช่วยเหลือ จนผู้สมัครได้เป็น สส. แทนเจ้าถิ่นเดิม
แม้ว่าจะได้เงินค่าใช้จ่ายเพียงน้อยนิด เพราะต้องช่วยตั้งแต่ 6 โมงเช้ายันค่ำมืด ทุกวัน ต้องออกค่าใช้จ่ายเองด้วย แต่กลับถูกนำบัตรประชาชนไปปลอมลายเซ็น และรับเงินสนับสนุนจากพรรคแทนพวกตน และไม่ได้ให้พวกตนตามจริง
ซ้ำยังกล้าทำเอกสารปลอมส่งให้ กกต.อีก โดยตนมาทราบเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2566 และได้รวบรวมหลักฐาน และความกล้าหาญปรึกษาหารือกัน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ สส.คนดังกล่าว และต้องการให้ข้อมูลกับนายแทนคุณ เพราะอยากให้ช่วยให้ความเป็นธรรมกับพวกตน ที่ทุ่มเทให้ สส.ก้าวไกล จนได้รับชัยชนะ
นอกจากนี้ สส.คนนี้ ยังเคยรับปากว่า จะให้ดูแลพื้นที่โดยแบ่งงานและแต่งตั้งให้ดูแลคนละเขต แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่ตกลง และมีการตั้งคนอื่น เพื่อนำเงินผู้ช่วยไปใช้เองอีกด้วย โดยไม่คิดว่า สส.คนดังกล่าวจะทำกับพวกตนที่รัก และภักดี แบบนี้
นอกจากนี้ ผู้เสียหายได้นำเอกสารการแจ้งความไปยื่นกับ กกต. แล้วด้วย
จึงขอเรียกร้องสำนึกจาก สส.ก้าวไกล ที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ออกมาสารภาพ และลาออก ก่อนจะถูกเปิดโปงจนไม่มีที่ยืนต่อไป
--------------
วานนี้ (8 พ.ย. 66) นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง 3 ถึงกรณีที่มีผู้ช่วยหาเสียง แจ้งความว่า ปลอมแปลงเอกสารเบิกเงินค่าหาเสียง
โดยยืนยันว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าว เป็นความเท็จทั้งหมด เพราะช่วงหาเสียง ตนใช้เงินของตัวเอง ดังนั้น การกล่าวอ้างว่า ต้องไปเบิกเงินกับพรรค ไม่ใช่ความจริง เพราะอย่างไรก็แล้วแต่ พรรคก้าวไกลไม่ได้มีงบประมาณสนับสนุนในส่วนนี้ หากจะยักยอกก็แสดงว่ายักยอกเงินตัวเอง
พร้อมย้ำว่า ไม่มีแรงจูงใจอะไรให้ไปปลอมแปลงเอกสาร ในส่วนของการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตนพร้อมและยินดีให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบตามกระบวนการ
เมื่อถามว่า ช่วงหาเสียงใช้เงินตัวเอง 100% ใช่หรือไม่
นายภัทรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับช่วงที่ตนเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง เงินส่วนใหญ่จะเป็นของตนหมดเลย พรรคก้าวไกลจะสนับสนุนป้ายหาเสียง อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น หมวก เสื้อ และเงินบริจาค
เมื่อถามว่า จะมีการตอบโต้อะไรหรือไม่
นายภัทรพงษ์ กล่าวว่า ในรูปคดี น่าจะต้องปรึกษาหารือกับทางทีมกฎหมายก่อน ซึ่งต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
เมื่อถามว่า กรณีของนายภัทรพงษ์ เป็นการออกมาแฉต่อเนื่องจากกรณีคุกคามทางเพศ
นายภัทรพงษ์ ย้ำว่า อะไรที่ผิด ก็ต้องว่าไปตามผิด เช่น กรณีคุกคามทางเพศ มันชัดเจน แต่กรณีของตนนั้นแตกต่าง ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ ตนโดนกล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสาร แต่ไม่มีเหตุจูงใจ จะทำไปทำไมก็ไม่รู้ แต่ตนพูดตรง ๆ ว่า 4 เดือน ที่ผ่านมา ตนทำงานหนักมาก รู้สึกผิดหวังที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
-----------
นอกจากนี้ นายภัทรพงษ์ ยังโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กว่า
“ตามที่มีอดีตผู้ช่วยหาเสียงบางรายกล่าวหาผมว่า ผมปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อนำเอกสารดังกล่าวไปเบิกเงินพรรคนั้น เป็นความเท็จทั้งสิ้น
ประการที่ 1 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งแทบทั้งหมดเป็นเงินสดของผมเอง
ส่วนพรรคได้มีการสนับสนุนเป็นป้ายหาเสียงรวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการหาเสียงต่างๆ เป็นหลัก และมีการสนับสนุนเป็นเงินบริจาคที่ได้รับจากประชาชนที่พรรคจัดสรรให้เท่านั้น
ดังนั้น ผมจึงไม่มีมูลเหตุจูงใจใดๆ ให้ปลอมแปลงเอกสารไปเบิกเงินจากพรรคตามที่ถูกกล่าวหาแต่ประการใด ในทางกลับกันผมจะปลอมเอกสารขึ้นเพื่อเบิกเงินตัวเองไปทำไม ข้อกล่าวหาดังกล่าวจึงเป็นความเท็จทั้งสิ้น ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ กกต. จังหวัด ซึ่งผมพร้อมและยินดีเข้าสู่กระบวนการการตรวจสอบตามกฎหมายทุกประการ
ประการที่ 2 การร้องเรียนที่เกิดขึ้นนี้ ผมสันนิษฐานว่าอาจเกิดขึ้นจากความไม่พอใจของอดีตผู้ช่วยหาเสียงบางคนซึ่งผมไม่ได้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วย สส. และอดีตผู้ช่วย สส. บางคนที่ถูกผมปลดออกจากตำแหน่งผู้ชำนาญการ สส.
ทั้งหมดนี้ผมขอยืนยันว่า ผมไม่มีเหตุผลหรือแรงจูงใจใดๆ ให้ต้องปลอมแปลงเอกสารเพื่อเบิกเงินจากพรรคเลย เพราะค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งล้วนเป็นความรับผิดชอบของผมเกือบทั้งสิ้น”
--------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Su65CUMLYOk