'อารีเพ็ญ' ทีมเจรจาฮามาส เผยเบื้องหลังการช่วยตัวประกัน ชี้คนไทยถูกจับเหตุทำงานใกล้พื้นที่พิพาท

หลังคณะที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ออกมาเปิดเผยผลการเจรจากับแกนนำกลุ่มฮามาส เพื่อช่วยเหลือตัวประกันชาวไทย โดยเดินทางไปประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อเจรจากับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และอยู่ในระดับที่สามารถเจรจากับฮามาสได้อีกทาง วันนี้ คุณฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวของเรา ที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศอิสราเอล ได้ไปพูดคุยกับที่ปรึกษาประธานสภาฯ เพื่อลงรายละเอียดและเบื้องหลังการเจรจา



โดยคำยืนยันจากแกนนำกลุ่มฮามาสยืนยันว่า ตัวประกันยังปลอดภัย และคนไทยไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งหรือเป็นเป้าหมาย เพียงแต่ทำงานอยู่ใกล้พื้นที่ที่สหประชาชาติมีมติแล้วว่าเป็นของปาเลสไตน์ จึงขอให้คนไทยอย่าทำงานอยู่ในพื้นที่ติดฉนวนกาซา



นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร (นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา) เปิดเผยผลการเดินทางไปยังประเทศอิหร่านเพื่อช่วยเหลือตัวประกันคนไทย โดยได้พบกับตัวแทนขบวนการฮามาส ที่อยู่ประจำกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ที่ปรึกษาประธานาธิบดีอิหร่านและประธานมูลนิธิในการให้ความช่วยเหลือปาเลสไตน์ โดยได้แจ้งกับทางฮามาสว่า ต้องการมาพูดคุยในฐานะชาวมุสลิมด้วยกันว่าต้องการให้ช่วยเหลือคนไทยที่เป็นเพื่อนร่วมชาติ เนื่องจากในไทยมีชาวมูลลิมกว่า 7 ล้านคน จากกว่า 65 ล้านคน แต่ได้รับเกียรติจากสังคมไทย โดยเฉพาะนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้รับการยอมรับให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรมา 2 ครั้งแล้ว และได้รับการยอมรับในประเทศอิหร่าน จึงขออาสามาทำความเข้าใจเพื่อให้คนไทยปลอดภัย



นายอารีเพ็ญ เปิดเผยว่าในการหารือกว่า 2 ชั่วโมง ตัวแทนฮามาส ยืนยันว่า ตัวประกันของไทยปลอดภัย และจะไม่มีการทำอันตรายใดๆ โดยพร้อมจะปล่อยตัว แต่ขณะนี้ยังมีการโจมตีจากอิสราเอล ซึ่งรับปากไม่ได้เช่นกันหากมีการโจมีตีมายังจุดที่มีการซ่อนตัวประกัน ซึ่งนายอารีเพ็ญ ก็อยากจะพูดคุยกับคนไทยให้มั่นใจ แต่เนื่องจากจะไม่ปลอดภัยในการใช้โทรศัพท์ที่อาจจับสัญญาณได้



รวมทั้งยืนยันว่า คนไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ไม่ใช่เป้าหมาย แต่เนื่องจากคนไทยทำงานอยู่ในพื้นที่เขตแดนฉนวนกาซาที่ องค์การสหประชาชาติได้กำหนดว่าเป็นดินแดนของปาเลสไตน์ ไม่ใช่ของอิสราเอล ในการเข้าโจมตีของกลุ่มฮามาสในวันที่ 7 ตุลาคม ที่มีการพังกำแพงฉนวนกาซา จึงมีชาวปาเลสไตน์ ที่ต้องการดินแดนของตัวเองคืนเข้ามาด้วย ปฏิบัติการในวันนั้นจึงต้องรวบรวมคนที่อยู่ในพื้นที่นั้น โดยไม่ได้เจาะจงว่าเป็นคนไทย ซึ่งหมายถึงพื้นที่ไม่เกิน 4-5 กิโลเมตรห่างจากชายแดนฉนวนกาซา ซึ่งเป็นจุดที่มีผู้เสียชีวิตและถูกจับเป็นตัวประกัน และเป็นจุดที่คนไทยทำงานอยู่ในฟาร์มเกษตรของอิสราเอล จึงได้รับผลกระทบไปด้วย



นายอารีเพ็ญ ยืนยันว่าการไปหารือกับหลายฝ่ายในอิหร่าน ไม่ได้ไปในนามรัฐบาลหรือผู้เจรจา แต่ไปในฐานะพี่น้องมุสลิมที่ต้องการให้คนไทยได้ปลอดภัย เพราะสงครามที่เกิดขึ้นไม่ใช่สงครามศาลนา และไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดในประเทศไทย เนื่องจากที่ผ่านมาชาวปาเลสไตน์ก็ถูกกระทำมาตลอด การโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา เหมือนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ขาวปาเลสไตน์ด้วย ทางออกปัญหานี้จึงต้องแสวงหาสันติภาพ และหวังว่าตัวประกันทุกคนจะปลอดภัยด้วย



นายอารีเพ็ญ เปิดเผยว่า กลุ่มฮามาส ไม่มีการต่อรองหรือข้อเรียกร้องใดๆกรณีตัวประกันคนไทย แต่มีคำแนะนำว่าไม่อยากให้คนไทยทำงานอยู่ในพื้นที่ติดฉนวนกาซาที่เป็นข้อพิพาท เพราะอาจกลายเป็นกันชนให้อิสราเอล ส่วนพื้นที่อื่นที่เห็นว่าปลอดภัยและทำงานได้ กลุ่มฮามาสไม่ได้ขัดขวาง เพราะคนไทยไม่ใช่เป้าหมาย