สังคม

สาวร้องทนาย ถูกเน็ตไอดอลชื่อดัง หลอกลงทุนเปิดร้านทำเล็บ สูญเงิน 2 แสน อ้างจะแบ่งกำไรให้ 4%

โดย chiwatthanai_t

31 ต.ค. 2566

130 views

เมื่อเวลา 13.00 น วันที่ 31 ตุลาคม 66 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.กัญญ์วรพัชร อายุ 28 ปี สาวเหนือจากจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ขอให้ช่วยเหลือติดตามคดี หลังตนเองถูกนางสาวมณฑิรา หรือใบเฟิร์น หลอกให้ร่วมลงทุนเปิดร้านทำเล็บ ในจังหวัดเชียงใหม่ และจะแบ่งผลกำไรให้ 4% ต่อเดือน สุดท้ายถูกเบี้ยวเงินจำนวน 200,000 บาท ไม่มีร้านทำเล็บอย่างที่แอบอ้าง จึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สันกำแพง ในวันที่ 4 สิงหาคม 66 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ แต่คดียังไม่มีความคืบหน้าหลังผ่านมากว่า 2 เดือน



น.ส.กัญญ์วรพัชร เปิดเผยว่า ตนรู้จักใบเฟิร์น ของเจ้าตัว ที่ชักชวน ให้ผู้เสียหายหลายรายมาร่วมลงทุน ทั้งเปิดร้านทำเล็บ ร้านตัดผม ทำผม โดยจะแบ่งเปอร์เซ็นต์จากการกำไรให้ 4% เมื่อโอนเงินให้กับใบเฟิร์นไปแล้วกลับถูกเบี้ยว ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่สามารถเปิดร้านทำเล็บได้สักที ตนจงบอกเลิกสัญญา แล้วเขียนสัญญาใหม่ เป็นการให้กู้ยืมเงินแทนโดยตกลงกันว่าจะชำระคืนให้ 4 งวด งวดละ 50,000 บาท แต่สุดท้าย ก็ถูกเบี้ยวไม่ยอมผ่อนชำระให้แต่อย่างใด ตนพยายามประสานติดต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่สภ.สันกำแพง ก็ทราบว่ามีการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมมารับทราบข้อกล่าวหา จนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 66 แต่ทางใบเฟิร์นก็หลบหนีไม่ยอมมามอบตัว เวลาผ่านมากว่า 2 เดือน ทางพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวใบเฟิร์นมาดำเนินคดีได้ ทั้งๆที่หมายจับออกแล้ว ที่ซ้ำร้ายตนยังทราบจากเพื่อนๆ อีกว่าใบเฟิร์นนั้นหลบหนีเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ และจะออกเที่ยวสถานบันเทิงยามราตรีบ่อยมากจนมีเพื่อนๆตนเห็น ตนเคยแจ้งข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ บอกว่าระยะทางไกลยังไม่มีเวลาขนาดนั้น



ตนเองยังทราบมาอีกว่า ผู้ต้องหารายนี้ หลอกผู้เสียหายรายอื่นๆอีกกว่า 30 ราย สูญเงินกันกว่า 10 ล้านบาท โดยเฉพาะคุณป้ารายหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนกับแม่ใบเฟิร์นแท้ๆ และเห็นใบเฟิร์นมาตั้งแต่เด็กๆ ยังถูกโกงเงินและหลอกเงินไปกว่า 2 ล้านบาท โดยอ้างเหตุผลในการชวนให้ไปร่วมลงทุนเหมือนกับตน



ทั้งนี้ผู้ต้องหารายนี้เคยเป็นดาวของคณะในมหาวิทยาลัยชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ ออกตระเวนชักชวน คนที่เป็นดาวมหาลัยด้วยกันให้มาร่วมลงทุน จนมีผู้เสียหายหลายรายในกลุ่มที่ถูกหลอก นอกจากนี้ใบเฟิร์นเองยังเป็นคนดังและเน็ตไอดอลมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เคยถ่ายแบบโฆษณา เขาเคยพูดจาข่มขู่กับตนว่า หากไปแจ้งความหรือร้องเรียนที่ไหน จะฟ้องกลับตนเอง ตนกลัวว่าเขาอาจจะมีแบ๊กเป็นผู้ใหญ่หนุนหลังอยู่หรือเปล่า ทำไมถึงยังลอยนวลได้อยู่จนถึงขณะนี้ จึงอยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งรัดติดตามคดีนำตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีให้ด้วย


ทางด้านทนายรณรงค์ กล่าวว่า กรณีนี้มีการชักชวนไปลงทุนไม่ได้ต่างจากตามโซเชียล ร้านที่ลงทุนไม่ได้มีอยู่จริง ใครก็ตามเห็นคนเด่นคนดังมาชักชวนลงทุนแล้วเห็นกำไรเกินร้อยละ 15 ต่อปี ขนาดแบงค์ยังให้ไม่ถึง 5% อันนี้ให้ตั้ง 48%ต่อปี คงต้องคิดวิเคราะห์ให้ดีว่าเขาจะได้กำไรมาจากไหน เพราะฉะนั้นการลงทุนทุกการลงทุนมีความเสี่ยงทั้งหมด เมื่อโดนหลอกแล้วให้ไปแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดี กรณีนี้ไม่ใช่คดีแพ่งเป็นคดีอาญาเรื่องของ พ.ร.ก การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน เป็นการเอาเงินของคนลงทุนมาจ่ายคนลงทุน ไม่ได้ไปทำร้านแล้วมีกำไรมาจ่ายคนลงทุน แต่อันนี้ไม่ได้ลงทุนอะไรเลยแล้วเอาเงินของคนลงทุนมาจ่ายซึ่งมีความผิด สุดท้ายอยากจะเตือนชาวบ้านว่าหากมีการเชิญชวนให้ลงทุนไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที่มีกำไรมากถึงร้อยละ 15 ต่อปี มากกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายกำหนด ให้ระวังการถูกโกงให้ดีๆ ควรเตือนสติ ศึกษาให้ดีๆก่อน อย่าหลงเชื่อเพียงแค่มีโปรไฟล์ดีมียอดติดตามเยอะ หรือไปออกรายการดังทีวีต่างๆ ในวันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. จะพาผู้เสียหายเดินทางไปร้อง เรียนกับ ทางกองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีจับกุมตัวเน็ตไอดอลชื่อดังรายนี้

คุณอาจสนใจ