สังคม

วอนช่วย 4 พี่น้องกินข้าวราดน้ำแกงประทังชีวิต ชาวบ้านตั้งชื่อให้ 4 ยอดกุมารเวทนาบ้านไฟฟ้าถูกตัด

โดย taweelap_b

18 ต.ค. 2566

18.7K views

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่ที่ 5 ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร แจ้งผ่านสื่อว่ามีครอบครัวที่น่าสงสาร โดยเฉพาะเด็ก ๆ 4 คนที่อายุยังน้อย ต้องอยู่กันตามลำพัง จนชาวบ้านขนานนามให้ว่าเป็น 4 ยอดกุมาร เนื่องจากมีความอดทน และแข็งแกร่งมากกว่าเด็ก ๆ ทั่วไป


จากการเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังกล่าวเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ขนาดใหญ่ มีประตูเหล็กที่หน้าบ้าน ภายนอกพบเด็ก ๆ รูปร่างขนาดตัวเท่ากัน เมื่อเข้าไปดูภายในบ้านก็ต้องผงะกลิ่นเหม็นอับ และยังกลิ่นปัสสาวะที่ตลบอบอวล มีอาหาร แกงเน่า และข้าวบูด กองอยู่เกลื่อนพื้นบ้าน เสื้อผ้าทิ้งเรี่ยราดอยู่ตามมุมห้อง ส่วนบนที่นอนมีมุ้งกางอยู่ ไฟฟ้าถูกตัดไปนานแล้ว จึงไม่มีไฟฟ้าใช้


ทั้งนี้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของวัดกุฏิการาม ซึ่งสร้างไว้แต่ไม่มีใครมาอาศัยอยู่ จึงให้นายชัยรัตน์ อายุ 46 ปี ผู้เป็นพ่อมาพักอาศัยย เนื่องจากนายชัยรัตน์ ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง กระทั่งต่อมาประมาณ 5 เดือนที่แล้ว ภรรยานายชัยรัตน์ ได้เลิกไปมีสามีใหม่ นายชัยรัตน์จึงต้องเลี้ยงลูก 4 คน ประกอบด้วย ด.ญ.จุฑารัตน์ อายุ 6 ขวบพี่สาวคนโต ส่วนรองลงเป็นฝาแฝดชาย ด.ช.นพพล และ ด.ช.นพพันธ์ อายุ 4 ขวบ และน้องชายคนเล็ก ด.ช.เอกรัฐ อายุ 3 ขวบ


ในตอนเช้า นายชัยรัตน์ จะออกไปหาทำงานรับจ้างทั่วไป และจะบอกกับลูก ๆ ทั้ง 4 คนว่า อย่าออกไปเล่นข้างนอกบนถนน ถ้าหิวข้าวให้ไปหายายอิ่ม เพื่อนบ้านข้างเคียง ให้ไปขอข้าวยายอิ่มกิน จากนั้นก็ออกไปทำงาน ลูก ๆ ก็ยืนมองอยู่ที่ประตูเหล็กหน้าบ้าน หลังจากพ่อไปทำงานแล้วพี่สาวคนโตก็พาน้อง ๆ มาเล่นกันตามประสาเด็ก เมื่อหิวข้าวพี่สาวก็จะพาน้อง ๆ เดินมุดไปตามป่าละเมาะที่มีหญ้าสูงท่วมหัว เพื่อไปขอข้าวยายอิ่ม เด็ก ๆ จะบอกยายอิ่มว่าหิวข้าวแล้ว ขอข้าวกินหน่อย ยายอิ่มก็ใจดีไปตักข้าวใส่ชามใบใหญ่ ราดด้วยน้ำแกงหมูใส่ช้อนไว้ 4 คันมาวางให้เด็ก ๆ ที่ตั้งวงรออยู่แล้ว ทันทีที่ยายอิ่มวางข้าวลง เด็ก ๆ ก็กินอย่างอร่อย เพียงไม่นานก็หมดเกลี้ยง เมื่ออิ่มแล้วก็พากันเดินกลับทางเดิมที่รกจากวัชพืช กลับมาเล่นกันที่บ้านตามประสาพี่น้อง 4 ชีวิต


นางอิ่ม สิงห์ใส อายุ 73 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ตนรู้สึกสารเวทนาเด็ก ๆ มาก ทั้ง 4 คนจะมาขอข้าวกินวันละ 2 มื้อ เช้ากับเที่ยง ส่วนตอนเย็นพ่อเด็กกลับมาก็จะหาให้กินเอง น้ำก็ต้องคอยอาบให้ เสื้อผ้าก็ต้องซักให้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ลูกใช่หลาน แต่ตนทำไปเพราะว่ารักและสงสารเด็ก ๆ เพราะก็ยังไม่มีใครได้เข้าโรงเรียน


นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ภรรยาของตนแยกทางไปมีครอบครัวใหม่ เมื่อประมาณ 5 เดือนแล้ว เห็นลูก ๆ ก็รู้สึกสงสารมาก ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อยากให้ลูก ๆ ไปโรงเรียน ตนจะได้ไปทำงานได้อย่างสะดวกใจ เพราะบางครั้งต้องพาลูก ๆ ไปด้วย อากาศก็ร้อน แต่ก็ต้องพาไป เพราะไม่มีใครดูแล ทั้งนี้ อดีตตนเคยติดคุกในคดีครอบครองยาเสพติดต้องโทษ 8 ปี หลังจากที่พ้นโทษออกมาก็มาได้ภรรยา ในช่วงนั้นตนก็ถูกจับในคดีเสพอีก ต้องโทษจำคุก 8 เดือน หลังจากพ้นโทษออกมาก็มีเรื่องทะเลาะกับภรรยาประจำ ภรรยาจึงหนีไปมีครอบครัวใหม่ ตนจึงต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง และยืนยันว่าได้เลิกเสพยาเสพติดมาตั้งแต่ภรรยาหนีไป ส่วนไฟฟ้าที่บ้านก็ถูกตัดไป 5-6 เดือนแล้ว เพราะค้างค่าไฟไม่มีเงินไปจ่าย เวลาจะหุงข้าวต้องถือหม้อหุงข้าวไฟฟ้าไปขอเสียบหุงข้าวที่บ้านของชาวบ้าน


อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ใจบุญที่ต้องช่วยเหลือเด็ก ๆ ทั้ง 4 คน สามารถบริจาคได้ที่ธนาคารออมสิน สาขาพรานกระต่าย ชื่อบัญชีทุนการศึกษาเพื่อเด็กหญิงจุฑารัตน์ บดีรัฐ หมายเลขบัญชี 020-426097-695 บัญชีนี้ผู้ที่จะเบิกได้ต้องผ่าน 3 คน คือกำนันในพื้นที่ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และครูในพื้นที่ทั้ง 3 คนเท่านั้น ส่วนนายชัยรัตน์ ผู้เป็นพ่อไม่มีสิทธิเบิก เพื่อป้องกันการใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์

คุณอาจสนใจ

Related News