แรงงานไทยชุดแรกกลับจากอิสราเอลแล้ว ท่ามกลางความดีใจของญาติ ด้านจนท.ส่งตรวจสุขภาพ

คนไทยจากอิสราเอล ซึ่งมีทั้งที่ซื้อตั๋วเดินทางกลับเอง และที่ประสานผ่านรัฐบาลไทย รวม 41 คน เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้วก่อนเที่ยงวันนี้ ท่ามกลางการเฝ้ารอรับของญาติ และทันที ที่มาถึงก็เข้ารับการตรวจสภาพร่างกายและจิตใจ โดยผู้บาดเจ็บจากการถูกยิงที่เข่าและที่ขา รวม 2 คน ก็สมัครใจกลับไปรักษาตัวที่บ้าน เหมือนกับแรงงานคนอื่นๆ ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาทันที



แรงงานไทยที่ประสานงานผ่านรัฐบาล 15 คน และแรงงานที่ซื้อตั๋วเดินทางกลับเอง รวม 41 คน เดินทางด้วยสายการบินแอลอัล เที่ยวบินที่ LV 083 จากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อ 11 นาฬิกา 30 นาที โดยมีนายจักรพงศ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ / นาย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าไปต้อนรับถึงภายในสนามบิน โดยแรงงานไทย 15 คน ที่ประสานการเดินทางกลับผ่านรัฐบาลนั้น เป็นกลุ่มที่ไปทำงานผ่านกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ส่วนใหญ่ทำงานเกษตรกรรมอยู่ในพื้นที่เมืองนิริม ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง อยู่ห่างจากชายแดนฉนวนกาซา เพียงแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น



หลังจากนั้นนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ รวมถึงนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นต้น ร่วมกันแถลงข่าวต้อนรับแรงงานไทยกลับประเทศ และให้ความมั่นใจว่าจะหาทางนำแรงงานไทยที่เหลือกลับประเทศโดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงกรณีร่างของแรงงานไทย ที่เสียชีวิต ซึ่งได้ให้เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ประสานพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลแล้ว เบื้องต้น ทางการอิสราเอลจะนำร่าง ของแรงงานทุกสัญชาติที่ไม่ใช่อิสราเอลไปรวมกันไว้ในห้องเย็น โดยยังไม่มีการเคลื่อนย้าย เพราะต้องรอการพิสูจน์ตัวด้วยดีเอ็นเอให้ถูกต้อง



ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น แรงงานไทยได้เข้าไปพบบครอบครัว ที่มารอรับ เช่นนาย สมมา แซ่จ๊ะ ที่มีแม่และภรรยา เดินทางจากจังหวัดตากมารอรับและทั้งสองฝ่ายต่างสวม กอดกัน ด้วยความดีใจ



ส่วนนายกิตติพงษ์ ไชยโก ชาวจังหวัดหนองบัวลำภู ได้เข้าก้มกราบพ่อ ก่อนที่พ่อจะทำพิธีผูกข้อไม้ข้อมือรับขวัญ



ขณะที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ระบุว่าแรงงานที่ได้รับบาดเจ็บ จะได้รับเงินเยียวยา 15,000 บาท / แรงงานที่เสียชีวิต ได้เงินเยียวยา 40,000 บาท / และค่าทำศพอีก 40,000 บาท



ขณะที่รัฐบาลอิสราเอล จะดูแลครอบครัวของแรงงานไทยที่เสียชีวิต กรณีที่มีภรรยา และบุตร ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ส่วนแรงงานที่ไม่มีภรรยาและบุตร จะดูแลพ่อแม่ ไปตลอดชีวิต



สำหรับแรงงานบาดเจ็บ รัฐบาลอิสราเอลจะดูแล โดยหากแพทย์ประเมินว่าได้รับบาดเจ็บ 10-19% จะเยียวยาด้วยเงินประมาณ 1,440,000 บาท จำนวน 1 ครั้ง แต่หากได้รับบาดเจ็บเกินกว่า 20% ขึ้นไป รัฐบาลอิสราเอลจะ ให้การดูแลตลอดชีวิต โดยคิดเปอร์เซ็นต์สัดส่วนจากค่าแรง ที่ได้รับในอิสราเอล



ส่วนแรงงานที่เดินทาง กลับมาแล้ว แต่สัญญาจ้างยังเหลืออยู่ หลังสถานการณ์สงบและอยากกลับไปทำงานอีก ก็สามารถไปทำงานได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม



จากนั้นแรงงานไทยทั้ง 15 คน ถูกส่งไปตรวจสุขภาพที่สถาบันบำราศนราดูร ภายในกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพบว่าทั้ง 15 คน มีสภาพจิตที่ดี ส่วน 2 คน ที่บาดเจ็บจากการถูกยิงที่เข่าและขา ได้เข้ารับการตรวจเพื่อรับการรักษาแล้วเช่นกัน จากนั้นทั้งหมดได้เดินทางกลับภูมิลำเนา



ขณะที่ปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุว่าได้ตั้งวอร์รูมในสำนักงานแรงงานทุกจังหวัด เพื่อให้ญาติตรวจสอบรายชื่อแรงงาน ที่สูญหายหรือติดต่อไม่ได้ พร้อมกับชี้แจงข้อเท็จจริงว่า กรณีแรงงานในอิสราเอลเปลี่ยนนายจ้างความด้วยสมัครใจทั้งสองฝ่ายเป็นสิ่งที่ทำได้ และไม่ใช่การค้ามนุษย์แต่อย่างใด