สังคม

โฆษก สตช. แจง 'ระเบียบทรงผม' ใหม่ ยังเป็นแค่ 'ฉบับร่าง' บิ๊กต่อยังไม่ได้ลงนาม

โดย nattachat_c

12 ต.ค. 2566

24 views

วานนี้  (11 ต.ค. 66) เพจพระจันทร์ ลายกระต่าย V2 ได้โพสต์ข้อความว่า “กราบขอบพระคุณในความเมตตาของ ผบ.ตร. พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่ท่านจะปรับเปลี่ยนทรงผมของกำลังพลครับ”


พร้อมโพสต์ภาพเอกสารระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อแต่งเครื่องแบบ พ.ศ. 2566 โดยสาระสำคัญคือ ข้อ 3 คือให้ยกเลิกระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อแต่งเครื่องแบบ พ.ศ. 2561


และข้อ 4 ข้าราชการตำรวจชาย เมื่อแต่งเครื่องแบบให้ไว้ผมสั้น โดยผมด้านบน ความยาวไม่เกิน 5 เซนติเมตร ด้านข้าง และด้านหลังความยาวไม่เกิน 1 เซนติเมตร (จากระเบียบเดิม ที่เคยกำหนดให้ตัดผมสั้น ขาวทั้ง 3 ด้าน ความยาวด้านบนไม่เกิน 3 เซนติเมตร)


ส่วนข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยที่ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ตำแหน่งผู้บังคับการขึ้นไปกำหนด หรือที่ปฏิบัติหน้าที่การสืบสวนหรือการข่าวหรือการป้องกันปราบปรามยาเสพติด เมื่อแต่งเครื่องแบบ ให้ไว้ผมรองทรงสูงได้ กรณีที่ไม่สามารถไว้ผมตามที่กำหนดได้ ให้ผู้บังคับบัญชาการตั้งแต่ตำแหน่งผู้กำกับการขึ้นไปเป็นผู้อนุญาต โดยการไว้ผมดังกล่าวจะต้องมีความเหมาะสม สะอาด และเรียบร้อย


ทั้งนี้ มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม กองกฎหมาย สำนักงานกฎหมายและคดี ได้รับการประสานจาก พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) ว่า ได้รับข้อสั่งการด้วยวาจาจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ปรับแก้ไขระเบียบ ให้มีความเหมาะสมกับการปฎิบัติหน้าที่ราชการ ได้ปรึกษาหารือกันแล้ว โดยเห็นชอบด้วยกันว่าควรจะผ่อนคลายการไว้ผมให้กับข้าราชการตำรวจชายเมื่อแต่งเครื่องแบบ  โดยกองกฎหมายได้ดำเนินการยกร่างระเบียบดังกล่าว ตามที่ได้รับการประสานจากผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล พร้อมยกร่างระเบียบแล้ว


ทั้งนี้ เห็นควรมอบหมายให้สำนักงานจเรตำรวจ ในฐานะหน่วยงานเจ้าของเรื่องดำเนินการเวียนร่างระเบียบดังกล่าวให้ผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. เพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ตลอดจนแจ้งผู้บัญชาการ และผู้บังคับการ ในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อทราบและถือปฏิบัติและแจ้งให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดต่อไป

-----------

เดิม ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติตนของข้าราชการตำรวจเมื่อแต่งเครื่องแบบ พ.ศ. 2561 ลงนามเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 ในสมัย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น


เดิม

ทรงผม ข้าราชการตำรวจชาย  เมื่อแต่งเครื่องแบบ ให้ตัดผมสั้น ด้านข้างขาวทั้ง 3 ด้าน ด้านบนยาวไม่เกิน 3 เซนติเมตร


ใหม่

ผมด้านบน ความยาวไม่เกิน 5 เซนติเมตร ด้านข้าง และด้านหลังความยาวไม่เกิน 1 เซนติเมตร


ส่วน ข้าราชการตำรวจชาย ที่ปฎิบัติหน้าที่การสืบสวนหรือการข่าวหรือป้องกันปราบปรามยาเสพติด “เมื่อไม่แต่ง” เครื่องแบบ ให้ไว้ผมรองทรงสูง

แต่ระเบียบใหม่ พ.ศ.2566 ระบุว่า ข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัย ที่ผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ตำแหน่งผู้บังคับการขึ้นไปกำหนด หรือที่ปฏิบัติหน้าที่การสืบสวน หรือการข่าวหรือการป้องกันปราบปรามยาเสพติด “เมื่อแต่งเครื่องแบบ ให้ไว้ผมรองทรงสูงได้”


ส่วนของข้าราชการตำรวจหญิง

ระเบียบยังคงเหมือนเดิม คือ “ไม่ปล่อยให้ผมยาวประบ่าหรือปรกบ่าจนปิดอินทรธนู หากไว้ผมยาวต้องขมวดปลายผมให้เรียบร้อย ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการขมวดปลายผม ให้ใช้สีดำเพียงสีเดียว  หากจำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์ตกแต่งทรงผมประกอบ ก็ควรให้ใช้กิ๊บหรือริบบิ้นขนาดเล็กสีดำเพียงสีเดียว”

--------------

ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับประกาศที่เห็นเผยแพร่ตามสื่อโซเชียลถือเป็นแบบร่างคำสั่งเท่านั้น ยังไม่ใช่ฉบับทางการที่ลงนามโดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)


สำหรับร่างประกาศนี้ถือเป็นแนวคิดของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่เกิดจากการลงพื้นที่ตรวจราชการและได้สอบถามความคิดเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาจากนั้นได้มีดำริให้สำนักงานกำลังพล ศึกษาแนวทางและผลกระทบจึงเกิดมาเป็นแบบร่างตามที่ได้เห็น


พล.ต.ท.อาชยน กล่าวต่อว่า สำหรับจุดประสงค์ในการแก้ไขระเบียบเรื่องนี้เนื่องด้วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต้องการปรับประยุกต์ทรงผมของข้าราชการตำรวจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ลักษณะงานสถานที่พิเศษและพื้นที่พิเศษซึ่งระเบียบนี้หากถูกประกาศใช้จะมีผลกับตำรวจทุกนาย


เมื่อถามว่าประกาศอย่างเป็นทางการจะประกาศเมื่อใด พล.ต.ท.อาชยน ระบุว่า คาดว่าจะประกาศใช้เร็ว ๆ นี้ และขอย้ำว่า แบบร่างที่ได้เห็นเป็นเพียงตัวล่างเท่านั้นไม่ใช่ทางการ

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/FVTrQ5WxrSs

คุณอาจสนใจ

Related News