แรงงานไทยเผยเริ่มขาดแคลนอาหาร ด้านเมียคาใจสามีอยู่ห่างจุดสู้รบ 5 กม. จนท.แจ้งไม่ใช่พื้นที่เร่งด่วน

เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (11 ต.ค. 66) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านนายอุดม หมู่ 11 ซึ่งเป็นบ้านของแรงงานไทยที่ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล พบกับ นางสาวสุจิตรา อายุ 33 ปี กล่าวว่า สามีคือ นายวิทยา อายุ 37 ปี ไปทำงานภาคการเกษตร ที่ประเทศอิสราเอล ได้ประมาณปีกว่าๆ เสียค่าเครื่องบิน ค่าตรวจโรค ดำเนินการต่าง ๆ ประมาณ 150,000 บาท ผ่านกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ทำสัญญากับนายจ้าง 5 ปี 3 เดือน ได้เงินเดือนประมาณเดือนละ 70,000 บาท ส่งเงินกลับมาให้ที่บ้าน เดือนละ 50,000 บาท แฟนเก็บไว้ใช้ 20,000 บาท



ปกติจะวิดีโอคอลคุยกับแฟนทุกวัน ช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็นของบ้านเรา ที่อิสราเอลก็จะอยู่ที่ประมาณช่วงเที่ยง ๆ วันที่มีเหตุการณ์ความรุนแรง สามีก็ยังวิดีโอคอลมาคุย บอกว่ายิงกันแล้ว แล้วก็แพลนกล้องก็เห็นเป็นภาพยิงจรวด ตอบโต้กันไปมา มีการยิงสกัดกันทางอากาศ ตนก็ได้แต่บอกสามีให้ระวังตัว



ซึ่งตอนนี้ก็ยังติดต่อกันได้ตลอด แต่สามีจะเป็นฝ่ายวีดีโอคอลมาหา ยังได้คุยกันทุกวัน ซึ่งล่าสุดที่คุยกัน คือช่วงเวลา 10 โมงเช้าบ้านเรา ทางอิสราเอลคือ 6 โมงเช้า สามีบอกว่าวันนี้นายจ้างให้ไปทำงาน เพราะทุกวันพุธต้องไปส่งผัก ส่วนสถานการณ์วันนี้สามีว่ายิงกันน้อยลง โดยเมื่อวานนายจ้างเอาไข่มาให้ 1 แผง กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 4 ซอง ก็ได้เอามาแบ่งกับเพื่อนๆ ไว้กิน



ซึ่งจุดที่สามีอยู่คือเมือง Yakhini อยู่ห่างจากฉนวนกาซา 5 กิโลเมตร เป็นพื้นที่สีแดง ตอนนี้อยู่กับเพื่อน 5 คน มีจังหวัดชัยภูมิ อุดรธานี และเชียงราย ทั้งหมดตอนนี้พักอยู่ที่แคมป์คนงาน เป็นห้องเล็กๆ คนละห้อง ลักษณะเหมือนตู้คอนเทนเนอร์ ส่วนนายจ้างอยู่ในบังเกอร์



ตนร้อนใจเพราะสามีอยู่พื้นที่สีแดงที่มีการสู้รบ ก็ได้ติดต่อไปที่สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ เพื่อลงทะเบียนและขอความช่วยเหลือ ให้รีบเข้าไปช่วยสามี ให้ออกมาในที่ปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอชื่อนามสกุล และพิกัดที่สามีอยู่ ตนก็ส่งไปให้ ก็ได้รับคำตอบมาว่า พื้นที่ที่สามีตนอยู่ไม่ใช่พื้นที่เร่งด่วน ให้ใจเย็นๆ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า อยู่ห่างจากฉนวนกาซาแค่ 5 กิโลเมตร จะไม่เร่งด่วนได้อย่างไร



ซึ่งเท่าที่คุยกับสามีก็บอกอยากจะกลับประเทศไทย ไม่อยากอยู่แล้วเพราะไม่ปลอดภัย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่ หากกลับมาได้ก็ไม่ไปอีกแล้ว คงไปหางานทำที่ประเทศอื่นแทน



ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวอยู่ที่บ้าน นายวิทยา ก็ได้วิดีโอคอลมาหาภรรยาพอดี ก็ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า วันแรกที่ยิงกันนั้น เกือบชีวิตไม่รอด เพราะกลุ่มฮามาสที่บุกเข้ามาก็กราดยิงไปทั่ว แต่ว่าทหารก็เข้ามาช่วยเหลือทันพอดี ทำให้กลุ่มผู้ฮามาสถูกยิงเสียชีวิตไป 4-5 คน ซึ่งจุดที่ตนเองอยู่เป็นพื้นที่สีแดง อยู่ห่างฉนวนกาซา 5 กิโลกว่าๆ จุดที่อยู่อยู่ระหว่างซันเดย์โรดกับเนตี้วู๊ด



ในด้านความปลอดภัยตอนนี้ก็ถือว่าปลอดภัยประมาณนึง มีรถทหารอิสราเอลลาดตระเวนอยู่ แต่อาหารการกินเริ่มจะขาดแคลน นายจ้างเอาไข่มาให้ 1 แผง กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำดื่ม ต้องแบ่งกันกิน 5 คนกับเพื่อนคนไทย โดยพักอยู่ในแคมป์คนงาน ไม่ได้ไปหลบในบังเกอร์ เพราะบังเกอร์ไม่ปลอดภัย



ตอนนี้ได้แจ้งกับสถานฑูตไทยไปแล้ว ทางสถานทูตแจ้งว่าจะดำเนินการให้ โดยทยอยออกไปเรื่อย ๆ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าตอนนี้ออกไปไหนไม่ได้ เพราะไม่มีรถวิ่ง ทางการห้ามรถวิ่งนอกจากรถทหาร



ด้านนางสาวอิงอร นายอำเภอชื่นชม กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากทางแรงงานจังหวัดมีแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลจำนวน 459 คน ในส่วนของอำเภอชื่นชม มีจำนวน 5 คน จากการตรวจสอบพบว่าย้ายออกนอกพื้นที่ไปแล้ว 2 คน จึงเหลืออยู่ในพื้นที่จำนวน 3 คน โดยมี 1 คน อยู่ใกล้กับพื้นที่จุดเสี่ยงมากที่สุด คือนายวิทยา มหาวงค์ จึงได้ลงพื้นที่มาหาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ ถามไถ่ความเป็นอยู่ของคนในครอบครัว โดยได้ประสานกับทางแรงงาน ทางกงศุล และ ส.ส.ในพื้นที่เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งจากการพูดคุยกับแรงงานที่ได้วิดีโอเข้ามา ก็มีการให้กำลังใจ ขอให้ดูแลตัวเอง และขอให้ปลอดภัย