สุดช็อก! 2 คนไทยในอิสราเอลถูกบังคับไปเก็บผลไม้ เจอระเบิดลง ดับสลด

แรงงานไทยอีกกลุ่ม ถูกนายจ้างบังคับทำงาน ถูกระเบิดลงกลางไร่ เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 3 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวอุดรธานี 1 คน ภรรยาไปทำงานด้วยกันรอดตาย เผยทั้งน้ำตา อยากพาร่างสามีกลับเมืองไทย



แรงงานชาวอุดรธานีรายนี้ คือ นายศักดิ์สิทธิ์ หรือ ชาโด้ อายุ 37 ปี ชาวบ้านดงแสนสุข ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ถูกระเบิดทิ้งลงจากฟากฟ้าใส่ร่าง ขณะเข้าไปทำงานในไร่ ทางตอนใต้ของอิสราเอล ห่างจากฉนวนกาซ่าประมาณ 5 กิโลเมตร โดยนายชาโด้ ถูกระเบิดนอนแน่นิ่งพร้อมด้วยชื่อนายก๋อม ชาวจังหวัดศรีสะเกษ เหตุเกิดเมื่อช่วง 4 โมงเย็น หรือตามเวลาในประเทศไทยประมาณ 2 ทุ่มที่ผ่านมา



ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านนายชาโด้ พบแม่และพี่สาว ต่างพากันร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา หลังรู้ข่าวร้าย โดยมีชาวบ้านและญาติๆ มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ และแจ้งสิทธิที่ภาครัฐจะช่วยเหลือ เบื้องต้นรัฐบาลจะนำศพกลับมาบ้านโดยไม่มีค่าใช้จ่าย



ด้านครอบครัวนายชาโด้ ได้วิดีโอคอลหา น.ส.นุ้ย ภรรยานายชาโด้ ซึ่งไปทำงานที่อิสราเอลด้วย ซึ่งรอดชีวิต โดย น.ส.นุ้ย ยังคงร้องไห้อยู่ตลอดเวลา พร้อมบอกว่า หัวใจแตกสลายแล้ว ขนาดศพสามียังไม่กล้าไปดู เพื่อนส่งรูปสามีมาให้ดูก็ไม่กล้าดู ตอนนี้พูดอะไรไม่ออก ขอทำใจก่อน ก่อนเกิดเหตุนายจ้างได้ให้คนงานกว่า 30 คน ไปเก็บซูกินีในไร่ ซึ่งปกติตนเองจะไปด้วย แต่วันนั้นตนเองไม่สบายจึงไม่ได้ไป สามีไปกับเพื่อนไม่นาน ก็ได้ยินเสียงระเบิด ไม่คิดว่าคนที่เจอจะเป็นสามี เสียใจมาก อยากให้ทางการนำศพสามีกลับบ้านด้วย



ขณะที่ น.ส.แป๋ว อายุ 39 ปี พี่สาวนายชาโด้ บอกว่า รู้ข่าวจากน้องในหมู่บ้าน ว่าน้องชายถูกระเบิดเสียชีวิต ตนเองที่อยู่กาฬสินธุ์รีบกลับมาที่บ้านเลย เสียใจมากร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตา เขาเป็นคนรักแม่มาก กว่า 30 ปี ไม่ค่อยอยู่บ้านไปทำงานต่างประเทศ เพื่อหาเงินส่งมาให้แม่ เพราะฐานะครอบครัวไม่ดี ชาโด้ไปทำงานที่อิสราเอล 7 ปีแล้ว ส่งเงินมาให้แม่ทุกเดือน สร้างบ้านให้แม่ ซื้อรถยนต์ และไปสร้างบ้านภรรยาที่บึงกาฬอีก น้องชายรักและห่วงแม่มาก บอกให้แม่ไม่ต้องทำอะไร เขาจะดูแลแม่เอง แต่เมื่อรู้ข่าวแบบนี้ ทำอะไรไม่ถูกเลย อยากวิญญาณน้องรับรู้ อยากจะบอกว่า ไม่ต้องห่วงแม่แล้ว ขอให้ไปสู่สรวงสวรรค์ น้องเป็นคนกตัญญูรักแม่มาก ขอให้น้องอย่าห่วง พี่สาวจะดูแลแม่เอง แม่มีลูกแค่ 2 คนนี้ อยากจะให้ทางการเอาศพมาที่เมืองไทย เพื่อให้ได้เห็นหน้าครั้งสุดท้ายด้วยเถิด



ด้านนางบัวแพร อายุ 60 ปี แม่นายชาโด้ บอกว่า ลูกชายเป็นคนขยันมาก บากหน้าไปทำงานต่างประเทศ เพื่ออยากให้แม่สบาย ส่งเงินมาให้ลูก มาสร้างบ้านให้แม่ สร้างบ้านให้พ่อตาแม่ยาย ส่งงวดรถยนต์ ทุกอย่างให้ครอบครัวสบาย ออกพรรษายังบอกกับแม่ว่า จะให้แม่เป็นแม่งานทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ที่บึงกาฬ แต่มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก่อน เมื่อวาน 6 โมงเย็น ยังคุยกับลูกชายอยู่เลย แม่ก็เป็นห่วง ลูกชายก็บอกว่าไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่เป็นไรครับแม่ เห็นลูกชายพูดแบบนั้นก็สบายใจ คุยกับแม่ชั่วโมงกว่าๆ จากนั้นวางสายกับแม่ไม่ถึง 10 นาที เพื่อนเขาก็โทรมาบอกชาโด้ถูกระเบิดตายแล้ว หัวใจแม่สลาย แม่อยากจะตายแทนลูก แม่อยากได้ศพลูกกลับมาเมืองไทย ไม่อยากได้กระดูกลูกกลับมา หากช่วยแม่ได้ช่วยเอาศพลูกชายมาให้แม่เห็นหน้าครั้งสุดท้ายด้วย



ขณะที่นายภูชิต เพื่อนแรงงานไทยในอิสราเอล วิดีโอคอลกับนักข่าวว่า พวกตนทำงานในไร่ซูกินี ห่างจากฉนวนกาซ่าประมาณ 10 กม. ก่อนเกิดเหตุนายจ้างให้ไปเด็ดต้นซูกินีออก เพื่อเตรียมแปลงปลูกใหม่ เขาก็ไม่พูดเชิงบังคับ แต่บอกว่า ถ้าพวกคุณไม่ไปทำงาน ก็จะไม่ได้ทำงานที่นี่นะ แรงงานไทยกว่า 30 คนก็เลยพากันไปไร่ซูกินี ทำงานได้ไม่นานปรากฎว่าระเบิดลงตรงพี่ชาโด้เลย ตนอยู่ห่างแค่ 10 เมตรวิ่งหนีหลบระเบิดกับเพื่อนๆ สักพักชะเง้อไปดูปรากฎว่าพี่ชาโด้ถูกระเบิดเสียชีวิตพร้อมเพื่อนรวม 2 ศพบาดเจ็บอีก 1 คน ส่วนจะเป็นฝ่ายไหนโจมตียังไม่รู้ เพราะเป็นระเบิดจากบนท้องฟ้า



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีคลิปออกทางทีวีที่ทางการอิสราเอลยิงอาวุธจากโดรนเล็งไปที่เป้าหมายในพื้นที่โล่งกว้าง โดยในภาพจะเห็นกลุ่มคนประมาณ 4 คนจากนั้นก็มีเป้าเล็งไปที่กลุ่มคนภาคพื้นและมีระเบิดทันที โดยชาวบ้านเชื่อว่าชาโด้และแรงงานไทยที่เสียชีวิตอาจจะเกิดจากกรณีก็เป็นได้ สำหรับแรงงานไทยในอิสราเอลรายงานจากทางจังหวัดอุดรธานี พบว่ามีแรงงานเสียชีวิตแล้วจำนวน 8 ราย

https://youtu.be/U4f6dvPhrYM