กต.เตรียมแผนรับตัวประกันคนไทยกลับจากอิสราเอล - ศพ 8 แรงงาน ถึงไทยแล้ว

กระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์อิสราเอล-กาซา ขั้นตอนการปล่อยตัวประกัน หากได้รับการปล่อยตัวว่าได้ประสานงานกับทางอิสราเอลและอียิปต์เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ร่างแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลจำนวน 8 ราย กลับถึงไทยวันนี้



ที่สนามบินสุวรรณภูมิวันนี้ ผู้แทนกระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ และนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย ร่วมพิธีรับศพแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลจำนวน 8 ราย พร้อมร่วมวางพวงหรีดแสดงความอาลัย ณ บริเวณอาคารคลังสินค้า ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ



นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่าเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดได้ เข้าแจ้งสิทธิประโยชน์แก่ครอบครัวของแรงงานในส่วนของรัฐบาลไทยเรียบร้อยแล้วโดยหลังจากร่างผู้เสียชีวิตไปถึงภูมิลำเนา กระทรวงแรงงานจะนำเงินช่วยเหลือไปมอบให้กับทายาทของแรงงานไทยที่เสียชีวิตจำนวน 40,000 บาท ซึ่งเป็นเงินสิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรณีเสียชีวิตในต่างประเทศ



นอกจากนี้มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประกันสังคมอิสราเอลซึ่งในกรณีนี้ บิดา มารดา ภรรยาตามกฎหมายและบุตรของผู้เสียชีวิตทุกคนจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกเดือนจนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่หรือลูกมีอายุครบ 18 ปี นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคม โดยครอบครัวของแรงงานไทยซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลจะได้รับเงินเยียวยาจากสำนักงานประกันสังคมตามมาตราที่แรงงานเป็นสมาชิก



สำหรับแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลทั้งหมด 34 ราย ซึ่ได้รับการยืนยันจากทางการอิสราเอล ขณะนี้สถานทูตไทยในกรุงเทลอาวีฟ ได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดมาครบแล้ว



ส่วนการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของกระทรวงการต่างประเทศวันนี้ มีนางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และนายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล ร่วมแถลงข่าว ในส่วนที่ข้องกับสถานการณ์ในอิสราเอล-กาซา



ในส่วนของขั้นตอนการปล่อยตัวประกัน นางกาญจนาแถลงว่า หากมีการปล่อยตัวประกัน เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ประสานงานกับทางการอิสราเอลไว้แล้ว โดยขั้นตอนประกอบด้วย การรับตัวโดยเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ จากนั้นจะมอบตัวให้กับทางการอิสราเอล และมีการตรวจสุขภาพ จากนั้นจะมีการติดต่อของสถานเอกอัครราชทูตของตัวประกันนั้น ๆ ซึ่งไม่ได้มีแค่เฉพาะคนไทย ซึ่งถือเป็นคนแนวทางปกติที่ตั้งไว้ในการรับตัวประกัน และ

เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงไคโร ได้มีการประสานงานกับทางการอียิปต์ เกี่ยวกับจุดผ่านแดนราฟาห์ไว้แล้ว



นางกาญจนาชี้แจงเพิ่มเติมว่าหากญาติที่มีแรงงานไทยทำงานที่อิสราเอล และไม่ได้รับการติดต่อจากแรงงานไทยในอิสราเอลตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา สามารถแจ้งได้ที่กรมการกงสุล หรือสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อรวบรวมข้อมูลและติดตามต่อไป