เด็กชายวัย 14 แอบขโมยปืนของตามาเล่น พลาดลั่นใส่เพื่อนเสียชีวิต

ร.ต.อ.ชนวีร์ ชุมจุล รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุ เด็กชายวัย 14 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ ที่บ้านพักในซอย 1 ถนนสุนทรอุทิศ ในเขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น บริเวณโถงติดกับบันไดและติดกับห้องนอนชั้น 2 พบคราบเลือดถูกเช็ดแล้วติดอยู่บนพื้นไม้ ใกล้กันพบกระเป๋าสะพาย ด้านในมีอาวุธปืนชนิดออโตเมติก ขนาด 11 มม.  1 กระบอก ภายในรังเพลิงมีเครื่องกระสุนปืนขนาด .45 พร้อมใช้งานบรรจุอยู่ 1 นัด พบแม็กกาซีน 1 อัน ถูกถอดแยกกันอยู่กับตัวปืน และในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืตกอยู่ 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่บนฝาผนังปูนพบร่องรอยคมกระสุนเจาะเข้าฝาอีก 1 รอย


ส่วนร่างของเด็กชายผู้เสียชีวิต ถูกนำส่งโรงพยาบาล ไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะมาถึงจุดเกิดเหตุ จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปชันสูตรพลิกศพที่ รพ.ย่านตาขาว ผู้เสียชีวิตเป็นนักเรียนระดับชั้น ม. 2 ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิต อายุ 14 ปีเท่ากัน


พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว เปิดเผยว่า เด็กทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน และได้นัดกัน พร้อมเพื่อนรวม 4 คน มานั่งพบปะพูดคุยกันที่ชั้น 2 ของบ้านหลังที่เกิดเหตุ โดยที่เด็ก 1 ใน 4 ได้นำอาวุธปืนซึ่งเป็นของคุณตา ที่เป็นตำรวจเกษียณอายุราชการ โดยที่ผู้ก่อเหตุได้ขโมยปืนของคุณตา มาแอบซ่อนไว้นาน 3 เดือน หลังไปเยี่ยมคุณตาที่บ้าน จ.พัทลุง โดยที่คุณตา ไม่รู้ และได้ไปแจ้งความอาวุธปืนสูญหายไว้ในพื้นที่ จ.พัทลุง


ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้นำอาวุธปืนมาเล่น แต่ปรากฏว่าปืนได้ลั่นใส่เพื่อน ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยที่กลุ่มเพื่อนได้โทรแจ้ง 1669 ว่าถูกประทัดระเบิดใส่ ภายหลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพมารับตัวเด็กที่ถูกยิงส่งโรงพยาบาล ทางผู้ก่อเหตุและกลุ่มเพื่อนที่เหลือ ได้หลบหนีออกจากบ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปนำตัวมาสอบสวนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ โดยที่ผู้ก่อเหตุและกลุ่มเพื่อน ยังอยู่ในอาการตกใจ รับสารภาพว่าทำปืนลั่น ไม่มีมูลเหตุ หรือสาเหตุโกรธเคืองใดๆกันมาก่อน และด้วยความตกใจได้ใช้ผ้าเช็ดเลือด

ด้าน นายวิรัตน์ สะดะ อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ ตนนั่งขายของอยู่ชั้น 1 ของบ้าน เตรียมที่จะปิดร้านกลับบ้าน แต่จังหวะนั้นได้ยินเสียงดังสนั่นขึ้น 1 นัด และตามมาด้วยเสียงร้องของเด็ก แต่ตนไม่ได้เอะใจว่าจะเป็นเสียงปืน เพราะมีคนงานก่อสร้างมาทำกำแพงอยู่ข้างบ้าน คิดว่าเป็นเสียงตีของช่างก่อสร้าง ประกอบกับตนเปิดทีวี และกลุ่มของเด็กๆมักจะเล่นและร้องกันเสียงดังบ่อยครั้ง ปกติตนเห็นหน้าและรู้จักกับเด็กที่เสียชีวิต เพราะเป็นเพื่อนของหลานชาย มักจะมาที่บ้านนี้เป็นประจำทุกวัน ที่ผ่านมาไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าเด็กที่มาเล่นที่บ้านกับหลานชายมีอาวุธปืนติดตัว แต่ทราบและได้ยินมาตลอดว่ามักจะชอบเล่นประทัดและระเบิดปิงปองจนเสียงดังสนั่นมาแล้วหลายครั้ง และได้ตักเตือนอยู่ตลอดว่าอย่ามามั่วสุมและส่งเสียงดัง จนมาทราบภายหลังว่า เพื่อนของหลานได้นำมาอาวุธปืนมาเล่นที่บ้าน และลั่นใส่เพื่อนอีกคนที่นั่งอยู่ด้วย