พ่อเลี้ยงเดี่ยว ตายแล้วรีบเผา ปล่อยลูกสาวซึมเศร้า อยู่กับเพื่อนพ่อ ชาวบ้านหวั่น ไร้ผู้ปกครองที่แท้จริง

ชาวบ้านข้องใจ พ่อเลี้ยงเดี่ยวตายแล้วรีบเผา ปล่อยลูกสาววัย 13 ปีป่วยซึมเศร้าอยู่ลำพังกับคนขับรถบรรทุก กลุ่มเพื่อนของพ่อ ทิ้งสมบัติรถบรรทุกและบ้านเอื้ออาทร หวั่นไม่มีผู้ปกครองดูแล ชาวบ้านร้องสื่อประสาน พม.จังหวัดเข้าดูแล

เหตุการณ์นี้ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาจากชาวบ้านที่วัดพยอม ตำบลพะยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้นำคลิปพิธีเผาศพนายธีรัตน์ ผลิตคุณ อายุ 59 ปี คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว เป็นชาวจังหวัดสมุทรปราการ แต่มาเช่าห้องพักอาศัยอยู่ที่ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย กับลูกสาวน้องหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ตามลำพัง 2 คน ส่วนคุณแม่แยกทางกันไปตั้งแต่เล็ก ซึ่งเป็นการเผาอย่างเร่งด่วน

โดยนายธีรัตน์ เป็นอัมพฤกษ์ป่วยติดเตียง จากเส้นเลือดสมองตีบ เสียชีวิตเมื่อเช้าวันที่ 24 กันยายน 2566 ในเวลา 9:00 น. และได้ทำการเผาอย่างเร่งรีบ ประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันเดียวกัน ในเวลา 15.30 นาที ที่เมรุวัดพะยอม ตำบลพยอมอำเภอวังน้อย โดยอ้างว่าไม่มีญาติ ต้องขอบริจาคโลงศพจากวัด สร้างความสงสัยให้กับชาวบ้าน

โดยในงานศพไม่มีญาติมาร่วมงาน มีเพียงลูกสาววัย 13 ปี มีอาการซึมเศร้า กับเพื่อนๆของผู้ตาย ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุก 10 ล้อ ประมาณ 20 คน มาการประกอบพิธีเผา ซึ่งชาวบ้านไม่เคยพบเห็นพิธีเผาศพเร่งรีบอย่างนี้มาก่อน จึงสงสัยว่าอาจมีเรื่องผิดปกติ และกลัวว่า น้องหนึ่ง ลูกสาวผู้ตายจะไม่ปลอดภัย ไร้ผู้ปกครองที่แท้จริง

ที่สำคัญชาวบ้านบอกว่า ผู้ตายมีทรัพย์สินเป็นรถบรรทุก 10 ล้อ 1 คัน บ้านเอื้ออาทร 1 หลัง ซึ่งสมบัติทั้งหมด ตกเป็นของลูกสาววัย 13 ปีคนเดียว ช่วงผู้ตายป่วยติดเตียงอยู่ในห้องเช่ายังมีชีวิตอยู่ ผู้ตายได้ว่าจ้างคนขับรถบรรทุกสิบล้อแทนเพื่อหารายได้เลี้ยงลูกและไว้ใช้จ่าย หลังพิธีเผาศพเสร็จสิ้นลง ทราบว่าคนขับรถบรรทุก 10 ล้อ จะพาลูกสาวผู้ตายไปดูแล ชาวบ้านเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้ปกครองที่แท้จริง จึงร้องผู้สื่อข่าวเป็นสื่อกลางดูแลช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่วัดพะยอม พบนายยอด เลี่ยมเงิน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ตำบลพยอม เปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความจริง แต่ทราบว่าวันเผาพบมีนายอาทิตย์ ไม่ทราบนามสกุล เป็นลูกพี่ลูกน้อง กับนายธีรัตน์ ผู้ตายเดินทางมาร่วมเผาศพด้วย แต่ก็นับว่าเป็นการเผาศพกระทำการอย่างเร่งรีบภายในวันเดียว ไม่ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลเหมือนกับศพทั่วไป ย้ายศพมาจากบ้านเช่าก็ใส่โลงที่วัดบริจาค ใส่ขึ้นเมรุเผาเลย นิมนต์เพียงพระ 4 รูปสวดหน้าไฟเท่านั้น ซึ่งการเผามีใบอนุญาตการชันสูตรอนุญาตให้เผาศพที่วัดพยอม ของตำรวจโรงพักวังน้อยมายืนยันถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งมีนายประสาน เณรเอี่ยม เป็นสัปเหร่อทำหน้าที่เผา

นายยอด เลี่ยมเงิน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บอกว่าวันนี้น้องหนึ่ง ลูกสาวผู้ตายได้เดินทางไปทำใบมรณบัตรคุณพ่อ กับคนขับรถสิบล้อเพื่อนของพ่อ ที่สำนักงานอำเภอวังน้อย แล้วติดต่อไม่ได้ คาดว่าน่าจะไปอยู่ในความดูแลของคนขับรถบรรทุกสิบล้อแล้ว จากการพูดคุยกับเพื่อนผู้ตายทราบว่า คนขับรถบรรทุกสิบล้อจะรับลูกสาวของผู้ตายไปดูแล จึงได้รายงานเรื่องทั้งหมดให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นให้ทราบเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้ว

ต่อมาผู้สื่อข่าวประสานงานไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้ามาดูแลติดตามช่วยเหลือลูกสาวผู้ตาย ให้มาอยู่ในความดูแลของญาติพี่น้องเพื่อความปลอดภัย โดยตรวจสอบประวัติของนายธีรัตน์ พ่อเลี้ยงเดี่ยวและลูกสาว ตามประวัติสำนักงานทะเบียนราษฎร์ทั้ง 2 คนในสารบบ ทราบว่า แม่ของเด็กที่แยกทางกับนายธีรัตน์ ได้ไปมีครอบครัวใหม่ พักอาศัยอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา

ต่อมานางสาวอรพยา พลอยทับทิม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวพระนครศรีอยุธยา สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ประสานเรื่องดังกล่าวไปยังปลัดอำเภอวังน้อยทราบว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ นายอาทิตย์ ซึ่งเป็นญาติของลูกสาวผู้ตาย ได้เดินทางมาทำใบมรณบัตร ได้ทำการสอบเบื้องต้นไปแล้วทราบว่า ทั้งคู่เป็นญาติกัน โดยนายอาทิตย์จะพาน้องหนึ่งไปอยู่ในความดูแลของแม่ ที่บ้านพักอีกแห่งในจังหวัดบุรีรัมย์ จึงเชื่อว่าน้องหนึ่งอยู่ในที่ปลอดภัย โดยสำนักงานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะติดตามเก็บข้อมูลต่อไป