ข่าวโซเชียล

หัวหน้างานแจง สื่อสารคลาดเคลื่อน ดรามาหนุ่มโรงงานลาบวชหน้าไฟ แล้วโดนไล่ออก

โดย nattachat_c

19 ก.ย. 2566

780 views

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ภาพ และข้อความ ตัดพ้อจากกรณีที่ตนเองขอลางานเพื่อไปบวชหน้าไฟให้กับยายที่เสียชีวิตกะทันหัน หัวหน้าตอบกลับมาว่า ตามสบายค่ะ แต่หลังจากนั้นกลับถูกไล่ออกจากงาน ทั้งที่แจ้งให้หัวหน้างานรับทราบแล้วว่าประสงค์ขอลางาน


อีกทั้งผู้โพสต์ได้เปิดเผยข้อความแชทสนทนากับหัวหน้างานยืนยันว่า ได้แจ้งให้หัวหน้ารับทราบแล้ว โดยมีข้อความระบุว่า วันนี้กับพรุ่งนี้ผมไปทำงาน แล้ววันศุกร์ เสาร์ ผมหยุดได้ไหมครับ ต้องบวชให้ยายด้วย จากนั้นทางหัวหน้าตอบกลับมาว่า ตามสบายค่ะ จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก


ล่าสุด บ่ายวานนี้ (วันที่ 18 ก.ย.) นายนิสัย สุขระ สวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจแรงงานลงพื้นที่ไปพบผู้บริหาร และหัวหน้าฝ่ายบุคคลของโรงงานดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบว่า นายบุญฤทธิ์ ชิดดีนอก หรือ ตั้ง อายุ 20 ปี หนุ่มลูกจ้างโรงงานที่เป็นข่าวนั้น เป็นลูกจ้างของบริษัทซัพคอนแทรค ซึ่งเป็นบริษัทที่รับจ้างหาคนเข้ามาทำงานภายในโรงงานอีกที โดยทางบริษัทซัพคอนแทรคยอมรับว่า ได้โทรศัพท์ไปบอกเลิกจ้างงานกับทางน้องตั้งจริง เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า น้องตั้งไม่ผ่านการทดลองงาน


แต่หลังจากเจ้าหน้าที่ได้พูดคุยก็ได้ข้อสรุปว่า ทางตัวแทนของโรงงาน และบริษัทซัพคอนแทรค จะลงพื้นที่ไปที่บ้านของน้องตั้ง เพื่อยื่นข้อเสนอในการกลับเข้าทำงานทันที โดยนับอายุงานต่อเนื่องจากเดิม แต่ถ้าหากน้องตั้งไม่อยากที่จะทำงานต่อทางบริษัทซัพคอนแทรคก็ยินดีที่จะจ่ายเงินชดเชย ซึ่งประกอบด้วย เงินค่าจ้าง เงินค่าล่วงเวลา เงินค่าข้าว เงินค่ากะ เงินค่าทำงานวันหยุด และเงินค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า โดยเงินค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้านั้น จะจ่ายให้กับกรณีที่ทางนายจ้างบอกเลิกจ้างลูกจ้างทันที โดยที่ไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้าก่อน โดยค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้านี้ ทางบริษัทจะต้องจ่ายตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. จนไปถึงวันที่ 28 ก.ย.66 ซึ่งเป็นรอบการจ่ายเงินค่าจ้างของน้องตั้ง


สำหรับเรื่องนี้นั้นน่าจะเกิดจากความเข้าใจผิด และการสื่อสารที่ไม่ตรงกันระหว่างบริษัทซัพคอนแทรค และตัวของน้องตั้งเองในเรื่องการลางาน จึงทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น จึงอยากฝากไปยังนายจ้าง และลูกจ้างทุกแห่ง อยากให้พูดคุย และสื่อสารกันให้เข้าใจก่อน เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นเหมือนเหตุการณ์นี้อีก


ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สัมภาษณ์หญิงสาวหัวหน้างาน ที่เป็นคนตอบแชทไลน์ว่า ตามสบายค่ะ ซึ่งได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นหัวหน้างานคนหนึ่ง ได้ให้คำแนะนำน้องพนักงานอย่างตรงไปตรงมา โดยพนักงานสามารถลางานได้ตามสิทธิ์ และกฎของโรงงาน เพียงนำเอกสารที่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของยายแนบมาด้วยกันพร้อมกับใบลา


ส่วนในเรื่องของการพิมพ์คำว่า ตามสบายนั้น หลังจากที่ตนได้พูดคุยแจ้งน้องเรื่องเอกสารที่จะต้องนำมาแนบกับใบลาเรียบร้อยแล้ว ตนจึงพิมพ์ตอบข้อความแชทกลับไปในแอพพลิเคชั่นไลน์ว่า ตามสบายค่ะ


ทั้งนี้โรงงานที่ตนทำงานอยู่ มีหัวหน้างานหลายคน ซึ่งตนยืนยันว่าในการพูดคุยระหว่างตนกับน้องบุญญฤทธิ์เป็นไปด้วยดี โดยในส่วนของตนได้แจ้งให้น้องทราบแล้วว่า มีสิทธิ์สามารถลางานได้ และในกรณีที่เกิดขึ้นก็เชื่อว่าทางโรงงานไม่มีทางปลดพนักงานออกด้วยเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน


ซึ่งในส่วนของการสื่อสาร ตนยอมรับว่าบางครั้งก็ไม่ได้รับโทรศัพท์หรือตอบข้อความทางแชทอย่างละเอียด เนื่องจากตนต้องเร่งทำงาน และแต่ละวันก็มีแชทข้อความเข้ามาหาตนเป็นจำนวนมากหลายร้อยข้อความ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้การสื่อสารกันคลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตามในเรื่องที่มีโทรศัพท์แจ้งให้ออกจากงานนั้น ตนไม่ทราบเรื่องจริงๆ ว่าใครเป็นผู้ที่โทรไปแจ้งกับน้อง และสาเหตุที่ให้ออกจากงานเป็นเพราะอะไร เนื่องจากหัวหน้างานมีด้วยการหลายส่วน


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นายบุญญฤทธิ์ ชิดดีนอก หรือ ตั้ง อายุ 21 ปี หนุ่มพนักงานโรงงานผู้โพสต์เรื่องดังกล่าว เพื่อสอบถามกรณีการที่หัวหน้างานให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกอย่างไรนั้น โดยนายบุญญฤทธิ์บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นได้ให้สัมภาษณ์ไปหมดแล้ว และไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์สื่ออีก

-----------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/y2s0zhxNfw0

คุณอาจสนใจ

Related News