อาชญากรรม

ผัวโหดยิงเมีย ก่อนปิดบ้านเงียบ ยิงขาตัวเอง คอมมานโดปิดล้อมนับร้อย ขังตัวเองร่วม 6 ชม. ก่อนมอบตัว

โดย nattachat_c

18 ก.ย. 2566

298 views

วานนี้ (17 ก.ย. 66) เวลา 15.00 น. เกิดเหตุระทึกภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง โดยเป็นเหตุยิงกันภายในทาวน์เฮ้าส์อยู่เกือบท้ายซอย ท้องที่ อำเภออุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา มีผูู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย


ต่อมา ทราบชื่อ นางสาวพิศมัย อายุ 31 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง ในนิคมโรจนะ ถูกสามี คือนายกฤษฎา ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่หน้าท้อง และซี่โครงซ้าย รวม 2 นัด อาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลราชธานี เบื้องต้น ยังอยู่ในการดูแลรักษาของแพทย์


โดยกล้องวงจรปิดของบ้านหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้าน บันทึกภาพนาทีชีวิตของภรรยาสาวเ หยื่อเคราะห์ร้าย หลังถูกยิงได้วิ่งหนีออกจากบ้านไปปากซอย พร้อมเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ โดยวิ่งไปไกลถึงซอย 8 ห่างกันถึง 4 ซอย ก่อนจะมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือ นำส่งโรงพยาบาล ส่วนสามีวิ่งไล่ตามมาติด ๆ แต่ไม่ทัน ก่อนย้อนกลับเข้าบ้านไป


จากนั้น ผู้ก่อเหตุได้ปิดบ้านเงียบขังตัวเองอยู่ในบ้านทาวน์เฮ้าส์สีเขียวอ่อน จากนั้นไม่นาน ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน ยิงเข้าที่บริเวณต้นขาซ้าย จำนวน 2 นัด ตามที่ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนครั้งสุดท้ายดังขึ้น ก่อนเก็บตัวเงียบภายในบ้าน


ซึ่งขณะนั้น กำลังตำรวจโรงพักอุทัย และกำลังตำรวจหน่วยคอมมานโด จากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นับ 100 นาย พร้อมอาวุธตรึงกำลังรอบจุดเกิดเหตุ และกั้นพื้นที่จุดเกิดเหตุรัศมีกว่า 100 เมตร ห้ามไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาเด็ดขาด


ต่อมา ตำรวจเชิญตัวน้องสาวผู้ก่อเหตุ ใช้โทรโข่งเจรจาพูดคุยกับพี่ชาย แต่ยังไม่เป็นผล ตำรวจยังคงตรึงกำลังประเมินสถานการณ์วินาทีต่อวินาที


จากนั้น ตำรวจได้เตรียมความพร้อมประชุมวางแผนศึกษารูปผังในตัวบ้าน เพื่อเตรียมจู่โจม หรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้องสาวผู้ก่อเหตุ โทรศัพท์ติดต่อเข้าไปหา ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ได้รับสายพูดและคุยกัน ขณะที่ เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าระวังอยู่ด้านนอก สามารถถ่ายภาพผู้ก่อเหตุไว้ได้ พบว่ายังมีชีวิตอยู่


ต่อมา เจ้าหน้าที่เรียก นายโยธิน ซึ่งเป็นหัวหน้าของผู้ก่อเหตุ ให้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ โดยนายโยธิน เผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นพนักงานที่นิสัยดี นิสัยตลก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวให้ไปเกลี้ยกล่อม แต่ไม่เป็นผล

----------

มาถึง เวลา 19.30 น. กำลังตำรวจอีกชุดได้เข้าตรวจสอบสภาพผังบ้านของทาวน์เฮ้าส์ข้างเคียง เพื่อประเมินสถานการณ์ หากมีการจู่โจมเข้าจับกุม ก่อนเวลาจะขยายนานไปกว่านี้


พร้อมกันนี้ ให้ศูนย์กู้ชีพเตรียมความพร้อมรถพยาบาลเตียงขนย้ายคนไข้ฉุกเฉินไว้รับมือ หากเกิดเหตุสุดวิสัย จะได้สามารถเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือปฐมพยาบาลได้ทันที


สำหรับบรรยากาศบ้านของผู้ก่อเหตุ กองกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และน้องสาวผู้ก่อเหตุยั งคงปักหลักคอยเจรจากับผู้ก่อเหตุทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ผู้ต้องหาคลายความเครียดและอบอุ่น แต่ยังไม่ยอมมอบตัว แต่ก็ยังพบว่า ผู้ต้องหาได้เปิดไฟห้องพักสว่างออกมา ทำให้ทุกคนสบายใจ

----------

นางนวรัตน์ รุ่งแสง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลอุทัย อำเภออุทัย เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับผู้กำกับโรงพักอุทัย และเพื่อนสนิทของผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ผู้ต้องหาเริ่มผ่อนคลาย แต่ยังไม่ขอมอบตัว ขอให้โอกาสตั้งสติทำใจก่อน แต่ยืนยันว่า จะมอบตัว และจะไม่ทำร้ายใคร และหากมอบตัว ผู้ต้องหาตั้งข้อสงสัยว่า ภรรยาที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จะทำใจรับเขาได้ไหม ที่ก่อเหตุทำอย่างนี้


เวลาผ่านไป เกือบ 6 ชั่วโมง ในที่สุดเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. นายกฤษฎา ยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนายกฤษฎา ได้ลงมาจากชั้นบนของบ้าน  และเดินไปเปิดประตูหน้าบ้าน พร้อมกับชูมือขึ้นเหนือศีรษะ เพื่อแสดงตัวในการขอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ทันทีที่ นายกฤษฎา ยอมมอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับพี่สาว ได้เข้าไปรับตัว นายกฤษฎานำข้าวกล่องน้ำดื่มให้กินเพื่อคลายความเครียด และมีการพูดคุยกัน


โดย พบว่า นายกฤษฎา มีบาดแผลที่ขาข้างซ้าย จากการใช้อาวุธปืนยิงขาตัวเอง จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยึดอาวุธปืนพกไว้ 1 กระบอกขนาด.38  ที่ใช้ก่อเหตุ


จากนั้น ได้นำตัวนายเหน่ง ขึ้นรถตู้ที่จัดเตรียมไว้ นำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุทัย เสร็จแล้ว ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพักอุทัย

----------

เบื้องต้น ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สาเหตุมาจากความหึงหวง มีเรื่องระหองระแหงมาโดยตลอด


ผู้ก่อเหตุถูกภรรยาบอกเลิก ไล่ออกจากบ้าน ทำให้เหน่งไม่พอใจ และเกิดการหึงหวง ได้ขับรถกระบะเข้ามาเคลียร์ปัญหาใจกับภรรยาในบ้านพัก และเกิดทะเลาะเสียงดังหลายครั้ง จนมาถึงช่วงบ่าย ได้ก่อเหตุยิงภรรยาด้วยความโมโหคับแค้นใจ


นางนวรัตน์ รุ่งแสง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลอุทัย รับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เกิดเหตุ เข้าร่วมเจรจากับตำรวจ เปิดเผยว่า


นายกฤษฎา ผู้ต้องหา ใช้อาวุธปืนแบบลูกโม่ ไม่ทราบขนาดก่อเหตุ ส่วนสาเหตุจูงใจที่ใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงต้นขาตัวเองหลังก่อเหตุนั้น เพื่อเป็นการประชดภรรยา และให้รู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการถูกยิงเหมือนกับภรรยา ที่ผู้ก่อเหตุยิงได้รับบาดเจ็บปางตายเช่นเดียวกัน


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่าไว้ก่อน หากพบความผิดเพิ่ม ก็จะตั้งข้อหาเพิ่ม เพื่อดำเนินคดีลงโทษต่อไป


ส่วนอาการของภรรยาผู้ก่อเหตุ ล่าสุด อาการปลอดภัยแล้ว

-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/WlbkLXoDz6A












คุณอาจสนใจ

Related News