อาชญากรรม

สอบเข้ม 10 ชม. รปภ.ถือปืนอารักขา 'กำนันนก' ในงานเลี้ยง พบเป็นญาติกัน เจ้าตัวอ้าง ถือปืนป้องกันตัว

โดย petchpawee_k

15 ก.ย. 2566

415 views

คุมตัว รปภ.อยู่ในคืนเกิดเหตุเค้นสอบ กล้องวงจรปิดชัดเห็นถือปืนไปมาภายในงานเลี้ยงคอยอารักขากำนันนก พบเป็นญาติกัน ยอมรับได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงนำปืนออกมาป้องกันตัว - ด้าน พฐ. ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกรอบ ก่อนส่งข้อมูลกล้องวงจรปิดให้ภาค 7 อดีตกำนัน เจ้าของร้านกล้องวงจรปิด เมืองนครปฐม ยอมรับ ลูกชาย เป็นคนติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด ให้กำนันนก 2 แห่ง ยันกล้องรุ่นนี้กู้คืนข้อมูลได้แน่นอน 

หากนับตามเวลาที่ปรากฎ คาดว่า นายโบ้ท ธิตินันท์ อดีตเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางราชบุรี นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดภายในบ้านกำนันนก ขี่รถจักรยานยนต์ไปโยนทิ้งน้ำช่วง 4 ทุ่มกว่าของคืนวันที่ 6 ก.ย. ก่อนจะเปิดปากรับสารภาพกับตำรวจในคืนวันที่ 9 ก.ย. ว่าเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดมี 2 ตัว เขาโยนทิ้งน้ำ 2 จุด คือ บริเวณหัวสะพานวัดตาก้อง และจุดที่สองอยู่ที่บริเวณหลังวัดตาก้อง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยห่างจากบ้านกำนันนกเพียง 800 เมตร


ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถไปงมเซิฟเวอร์ทั้ง 2 ตัวขึ้นมาจากคลองได้ ช่วง 3 ทุ่มของคืนวันที่ 9 ก.ย. นั่นเท่ากับว่าเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดจมอยู่ในน้ำนานเกือบ 72 ชั่วโมงโดยประมาณ จากนั้นผู้เชี่ยวชาญนำเซิร์ฟเวอร์ไปกู้ข้อมูลตั้งแต่คืนวันที่ 9 ก.ย. จนมาถึงวันนี้ 14 ก.ย. รวม 5 วัน พบว่ามีกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่รอบบ้านกำนันนกมากถึง 15 ตัว


ทีมข่าวพูดคุยกับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถกู้ไฟล์จากเซิร์ฟเวอร์ได้เพียง 1 ตัวเท่านั้น ส่วนเซิร์ฟอีก 1 ตัวอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อกู้อีกครั้ง โดยเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถกู้ได้นั้น ไลฟ์ยังไม่สามารถเปิดได้ จึงต้องทำการโคลนนิ่งไฟล์มาอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ที่สมบูรณ์แบบก่อน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง สาเหตุที่ต้องทำการโคลนนิ่งก่อนนั้น เนื่องจากหากเปิดไฟล์ในเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่สมบูรณ์อาจจะทำให้ไฟล์หรือภาพบางช่วงบางตอนหายไป จึงอยากให้รอขั้นตอนให้สมบูรณ์ที่สุด คาดเย็นนี้จะได้เห็นภาพเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุได้อย่างครบถ้วน


มีรายงานจากชุดกู้ข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับเซิร์ฟเวอร์มาแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำเซิร์ฟเวอร์ให้แห้ง เนื่องจากมีน้ำเข้าไปในถุงดำเป็นจำนวนมาก เพราะหากเปิดเซิร์ฟเวอร์โดยที่เครื่องยังมีความชื้นจะทำให้เครื่องช๊อต และข้อมูลทั้งหมดอาจเสียหาย  เจ้าหน้าที่จึงนำเซิร์ฟเวอร์ตัวอื่นซึ่งเป็นรุ่นเดียวกันกับของที่บ้านกำนันนก ไปแช่น้ำแล้วหาวิธีไล่ความชื้นออกจากเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้ได้วิธีที่ได้ผลและถูกต้องที่สุด ซึ่งพบว่าต้องใช้วิธีการอบเพื่อให้ให้เซิร์ฟไม่มีความชื้น เมื่อได้วิธีที่ถูกต้องแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้เริ่มทำการอบเซิร์ฟเวอร์ จนสามารถเปิดภาพได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ระหว่างการไล่ดูเพื่อหาภาพในวันเกิดเหตุที่ยิงสารวัตรศิว ส่วนเซิร์ฟเวอร์อีกหนึ่งตัว เบื้องต้นพบว่าเข็มอ่านข้อมูลเสีย อยู่ระหว่างนำไปให้โรงงานผลิตแก้ไข ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา


ขณะที่ทีมข่าวอาชญากรรมลงพื้นที่ร้านที่รับติดตั้งกล้องวงจรปิดให้บ้านกำนันนก ตั้งอยู่บริเวณถนนมาลัยแมน-กำแพงแสน ขาเข้า อยู่ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ตำบลวังตะกู อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม แต่ไม่พบเจ้าของร้าน


พนักงานในร้านจึงต่อสายให้คุยกับ นายทองพงษ์ อดีตกำนัน ซึ่งเป็นพ่อของ นายพงษ์พัฒน์ ณัฐวุฒิ ปัจจุบันเป็นผู้ใหญ่บ้าน และเป็นเจ้าของร้านดังกล่าวนายทองพงษ์ ยอมรับว่า ลูกชาย เป็นคนไปติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งที่บ้าน และที่ทำการของกำนันนันนก แต่เป็นการไปเปลี่ยนของเก่าที่หมดสภาพ โดยมีการอัพเกรดรุ่นของกล้องให้ทันสมัยมากขึ้น ติดตั้งใหม่ทั้งหมด แต่ไม่ทราบว่าติดตั้งไปกี่ตัว แต่ราคาเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 1 แสนบาท


ครั้งแรกคือ ปลายปี 2565 ติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บ้านกำนันนก  ต่อมาคือเดือนมีนาคม 2566 ไปติดตั้งที่ทำการ ในฐานะที่เป็นช่าง ยืนยันว่า อุปกรณ์ และเซิร์ฟเวอร์ ที่ตำรวจตรวจค้นเจอ เป็นของร้านลูกชาย ส่วนการที่นำไปโยนทิ้งน้ำ ยืนยัน ว่า สามารถที่จะกู้คืนข้อมูลได้ 100% เนื่องจากกล้องรุ่นดังกล่าวที่กำนันนก เป็นกล้องรุ่นใหม่ ที่มีระบบลูกยางกันน้ำ ทำให้น้ำไม่สามารถรั่วซึมเข้าไปในส่วนสำคัญของอุปกรณ์  แผ่นดิสก์ จะเป็นอะคลีลิค ที่มีความแข็งแรงทนทานมาก โอกาสกู้ข้อมูลคืนมีความเป็นไปได้สูง เพราะการไปถอดปลั๊กไฟออก โดยไม่ได้ลบข้อมูล แล้วโยนทิ้งน้ำ ไม่น่าจะใช่เรื่องยาก สำหรับเจ้าหน้าที่ในการกู้ข้อมูล
--------------------------------------

ขณะเดียวกันวานนี้ ตำรวจ ได้คุมตัวนายประสงค์  อายุ 62 ปี รปภ.ที่อยู่ในงานเลี้ยงสำนักงานของกำนันนก ในคืนเกิดเหตุ คุมตัวออกจากห้องสอบปากคำ กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 7


โดยระหว่างที่ตำรวจคุมตัว รปภ.ไป สื่อมวลชนได้พยายามสอบถาม ชายคนดังกล่าวถึงข้อเท็จจริงในคืนวันเกิดเหตุว่าได้อยู่บริเวณใดในคืนนั้น และเห็นเหตุการณ์อะไรบ้าง แต่ชายคนดังกล่าวเกินก้มหน้าตลอดเวลาและไม่ตอบคำถามใด ๆ


เมื่อถามว่าพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำตัวเองทุกวันมีความเครียดหรือไม่ หรือกังวลอะไรหรือไม่ ชายคนดังกล่าวก็ไม่ตอบเช่นเดิม จากนั้นผู้สื่อข่าวก็พยายามถามเจ้าที่ว่าจะคุมตัวไปที่ไหน พาไปชี้จุดหรือไปที่ใด เจ้าหน้าที่ตอบสั้นๆว่า จะนำตัวไปสอบสวนที่อื่น จากนั้นก็คุมตัวขึ้นรถกระบะขับออกไป


ต่อมาเวลา 15.40 น. ชุดสืบสวนได้คุมตัวนายประสงค์ รปภ.กลับมาที่ห้องสอบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 อีกครั้ง พร้อมกับอาวุธปืนออโตเมติก 1 กระบอก และสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างเคร่งเครียด โดย รปภ.คนดังกล่าว มีสีหน้าท่าทีที่กังวลเล็กน้อย



นายประสงค์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นชายในภาพวงจรปิดจริงที่ต้องถือปืนเดินตามกำนันนก ก็เพื่อดูแลความปลอดภัยและเป็นญาติกัน โดยจากการสอบถามนายประสงค์ อ้างว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจึงนำอาวุธปืนของตนเองออกมาเพื่อป้องกันตัว



มีรายงานว่านายประสงค์ รปภ.คนดังกล่าวยอมรับมีปืนจริง อ้างยืมของเพื่อนมาเป็นปืนสวัสดิการของกรมการปกครอง โดย รปภ.รายนี้ก็เป็นคนที่เดินถือปืนกร่างพยายามขัดขวางเจ้าหน้าที่ ที่ถือหมายค้นเข้าไปขอตรวจค้นบ้านกำนันนก



ชุดสืบสวนให้ข้อมูลว่า ปืนที่ตรวจยึดมาจาก รปภ.บ้านกำนันนก เป็นกระบอกที่ สมาชิก อบต.คนหนึ่ง ใช้สิทธิข้าราชการในการไปซื้อและนำมาให้ รปภ.ของบ้านกำนันนก ใช้ ซึ่งจากการเข้าตรวจยึดปืนในครั้งนี้ เกิดจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ เห็นภาพชัดว่า รปภ.คนดังกล่าว ถือปืนกระบอกนี้เดินไปเดินมาในงานเลี้ยงวันเกิดเหตุด้วย


19.50 น. ภายหลังสอบปากคำนายประสงค์  นานกว่า 10 ชั่วโมง ชุดคลี่คลายคดีได้คุมตัวออกจากห้องสอบสวนโดยใช้ประตูด้านหลังอาคาร ผู้สื่อข่าวได้ไปดักรอเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่พอนายประสงค์เห็นนักข่าวก็ไม่กล้าเดินออกมา วิ่งกลับเข้าไปในห้องสอบสวนเหมือนเดิม



จนกระทั่งชุดสืบสวนต้องไปคุมตัวออกมาขึ้นรถ โดยนักข่าวพยายามยื่นไมค์สอบถามนายประสงค์ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงกรณีที่เดินถือปืนในงานเลี้ยงทำไม อาวุธปืนเป็นของใคร แต่นายประสงค์ ไม่ตอบคำถามใด ๆ


จากนั้นได้นำตัวนายประสงค์ ไปส่งที่ สภ.เมืองนครปฐม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดครอบครองอาวุธปืนผิดมือ ส่วนพฤติการณ์ที่ถือปืนในวันเกิดเหตุ ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนสมาชิก อบต.ที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครองปืน ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ต้องรอสอบสวนก่อนว่าปืนกระบอกดังกล่าวไปอยู่กับนายประสงค์ ได้อย่างไร


ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม รปภ. จะต้องถือปืนในวันเกิดเหตุด้วย จึงมีการสอบประเด็นนี้อย่างละเอียด /ทั้งนี้ชุดสืบสวนยังได้นำตัว สมาชิก อบต. ที่เป็นเจ้าของปืนกระบอกนี้ เข้ามาสอบปากคำด้วย เพราะยังไม่เคยเรียกมาสอบปากคำ


รายงานข่าวแจ้งว่า นายประสงค์ ไทรไกรกระ รปภ. บ้านของกำนันนก ที่ปรากฏภาพอยู่ในกล้องวงจรปิด กำลังถือปืนไปมาอยู่ในบ้าน สืบทราบแล้วพบว่าเป็นญาติของกำนันนก และเป็นญาติของนายณัฐพล ไทรไกรกระ เลขา นายก อบจ.

คุณอาจสนใจ

Related News