เหยื่อสุดช้ำ ถูก ‘นุ่น’ สาววงแชร์หลอกโอนเงิน อ้างสารพัดอย่าง สูญ 5.7 ล้าน

วันที่ 6 ก.ย. 66 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ กนกวรรณ (ตุ๊ก)  ผู้เสียหาย พร้อมเหยื่ออีกหลายรายที่พูด “นุ่น” สาววงแชร์หลอกยืมเงิน อ้างสารพัดอย่าง จนสูญเงิน 5.7 ล้าน

จากกรณีคุณกนกวรรณ หรือ ตุ๊ก อยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนว่า เธอไปเริ่มเล่นวงแชร์ออนไลน์ได้ไม่นาน ปรากฏว่าแชร์ล้ม ทำให้ได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อนุ่น เข้ามาตีสนิท ทำทีเห็นอกเห็นใจและชักชวนไปร่วมวงแชร์อีกวง ด้วยความที่ต้องการหาเงินก้อนมาใช้หนี้ จึงเข้าร่วมวงแชร์วงที่ 2 ต่อมาแชร์วงใหม่ล้มอีกทำให้ตัวเองต้องเป็นหนี้สินเพิ่มขึ้นกว่า 300,000 บาท

นางสาวนุ่นก็ชวนให้ลงทุนขายของออนไลน์เพื่อที่จะหาเงินมาจ่ายหนี้ที่ค้างค่าแชร์ แต่ยังไม่ทันได้ตอบรับลงทุนขายของออนไลน์ด้วย นางสาวนุ่นก็มาบอกอีกว่า กำลังจะถูกดำเนินคดีฉ้อโกงที่ศาลจังหวัดสกลนครและศาลจังหวัดปราจีนบุรี หากถูกดำเนินคดีเงินที่ค้างไว้ก็จะไม่ได้ เรียกร้องความน่าสงสารไม่อยากติดคุกเพราะมีลูกเล็กอีก 2 คนที่ต้องดูแลจึงขอยืมเงิน 150,000 บาทเพื่อไปประกันตัว โดยอ้างว่าแม่กับน้าจะได้เงินจากกองทุนสหกรณ์ 300,000 บาทจากนั้นจะนำมาคืนให้

คุณตุ๊กก็หลงเชื่อและสงสารจึงโอนเงินไปให้ 150,000 บาทเพื่อประกันตัว พอถึงกำหนดวันชำระคืนนางสาวนุ่นก็ผลัดวันมาโดยตลอด และบอกว่าต้องไปขึ้นศาลอีกรอบ รอบนี้ต้องเสียค่าทนาย 50,000 บาท ทางคุณตุ๊ก ก็โอนเงินไปช่วยอีก 50,000 บาท เพราะหวังว่าจะได้เงินก้อนคืนมาทีเดียวทั้งหมด

หลังจากนั้นคุณตุ๊กบอกว่านุ่นก็สร้างเรื่องต่างๆ มาเพื่อขอยืมเงิน อ้างชื่อสามีที่ข้าราชการหน่วยงานหนึ่ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และบอกอีกว่า พี่สาวเครียดจนกินยาฆ่าแมลง ต้องล้างท้องและเสียค่าหมออีกหลักแสนบาทพร้อมส่งบิลและใบรับรองแพทย์มาให้ดู เธอก็หลงเชื่อและสงสารจึงยอมโอนเงินไปช่วยเหลือ

นอกจากนี้ นุ่น กล่าวว่า กำลังจะขายที่ดินได้ แต่ที่ดินติดกับที่ดินของคนอื่นและต้องวางเงิน 100,000 บาท เพื่อเคลียร์กับเจ้าของที่ดินข้างๆ คุณตุ๊กก็หลงเชื่อโอนเงินไปให้อีก รวมแล้ว 117 ครั้งเป็นเงิน 5,739,000 บาท และมาตรวจสอบภายหลัง พบว่าเอกสารเกี่ยวกับที่ดินถูกปลอมแปลงขึ้นมาทั้งหมด

คุณตุ๊ก กล่าวว่า เธอเครียดมากหลังจากทราบเรื่องทั้งหมด เชื่อว่านุ่น ตั้งใจมาหลอกเธอตั้งแต่แรก ที่ผ่านมาพยายามติดต่อขอเงินคืนจากนุ่น ก็จ่ายคืนมาบ้างครั้งละ 500 บาท หรือ 1,000 บาท ไม่พอที่เธอจะไปใช้หนี้ทั้งบัตรเครดิต หนี้นอกระบบ และการกู้หนี้ยืมสินญาติพี่น้อง รวมถึงนำเงินเก็บทั้งชีวิตหมดตัวไปแจ้งความดำเนินคดีแต่ก็ไม่มีความคืบหน้า