รวบแล้ว! เสี่ยเต็นท์รถ หลอกซื้อ-ขายผ่านเฟซบุ๊ก พบมีคดีติดตัวกว่า 200 คดี

ตำรวจ สภ.เมืองบัว จ.สุรินทร์ ตามหารถของกลาง ของเสี่ยเต็นท์รถที่บุรีรัมย์ หลังถูกตำรวจจับ เพราะเป็นผู้ต้องหลายคดี แม้เจ้าตัวถูกส่งฟ้องศาลไปแล้ว แต่กลับให้คนเอากุญแจสำรอง มาขับรถของกลางออกจากโรงพัก ตำรวจเจ้าของคดีรับ ผู้ต้องหาขาใหญ่จริง ตั้งแต่จับมา ถูกข่มขู่สารพัด



เมื่อวานนี้ ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ อ่านหมายศาลจังหวัดรัตนบุรี ขณะเข้าควบคุมตัวนายสมบูรณ์ ยือรัมย์ อายุ 49 ปี ชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และนางสาวกมลพร อายุ 39 ปี ชาว อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ ซึ่งกำลังขับรถยี่ห้อฟอร์ด เอเวอร์เรส ป้ายแดง สีขาว เข้ามาในพื้นที่ อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งทั้ง 2 ตกเป็นผู้ต้องหาคดี ร่วมกันชิงทรัพย์  ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่น  ข่มขืนใจผู้อื่น หรือใช้กำลังประทุษร้าย ให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด  และพาอาวุธ(สนับมือ) ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร จากนั้นถูกนำตัวไปสอบสวน สภ.เมืองบัว อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงพักต้นเรื่อง



ปรากฏว่า มีผู้เสียหายที่เคยแจ้งความจับนายสมบูรณ์ในคดีฉ้อโกง กว่า 20 คน มารอดูหน้านายสมบูรณ์ ที่ สภ.เมืองบัว พร้อมขอค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่านายสมบูรณ์ จะกลับไปก่อเหตุหลอกลวงชาวบ้านอีก โดยนายสมบูรณ์ มีคดีติดตัวกว่า 200 คดี โดยคดีล่าสุดคือ ไปหลอกซื้อรถตู้ รถแบ็คโฮ และรถเทรลเลอร์ ของชาวบ้าน รวม 3 คัน ตกลงราคา 1,900,000 บาท แต่จ่ายเงินเพียง 80,000 บาท ก็โยกรถหนีไป แล้วไม่ยอมจ่ายส่วนที่เหลือ และผู้เสียหายยังไม่ได้เซ็นโอนรถให้ จึงไปแจ้งความไว้ กระทั่งต่อมาไปเจอรถจอดอยู่ที่เต็นท์รถของนายสมบูรณ์ ที่ อ.สตึก จึงแจ้งตำรวจ สภ.สตึก พร้อมนำกุญแจสำรองไปขับรถออกจากเต็นท์ แต่นายสมบูรณ์ กับลูกน้องรวม 3 คน ขับรถตามมาทัน ที่อู่รถแห่งหนึ่งในเขต อ.ชุมพลบุรี แล้วทำร้ายตน พร้อมชิงรถไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 มิถุนายนที่ผ่านมา



ล่าสุด พันตำรวจโท พรหมพิริยะ พันสีเงิน สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองบัว เจ้าของคดี เผยว่า พนักงานสอบสวนได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 ฝากขังที่ศาลไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว แต่ตอนนี้รถฟอร์ด เอเวอร์เรส ทะเบียนป้ายแดง ของผู้ต้องหา ซึ่งรถของกลาง หายไปจากที่โรงพัก โดยมีมือมืดนำกุญแจสำรอง มาขับหนีไปในช่วงที่เจ้าหน้าที่กำลังชุลมุนกันอยู่ ซึ่งได้ประสานสถานีตำรวจใกล้เคียง พร้อมประกาศตามหารถคันดังกล่าวแล้ว โดยเชื่อว่า รถของกลางที่หายไม่ใช่รถใหม่ป้ายแดง น่าว่าจะเอาป้ายแดงเก่ามาสวม ซึ่งอาจจะเป็นรถที่ไปฉ้อโกงเขามา หากใครพบเห็นช่วยแจ้ง สภ.เมืองบัว ด้วย



ซึ่งตำรวจยอมรับว่า "เสี่ยบูรณ์" ขาใหญ่จริง เพราะหลังจากจับกุมมา มีแรงกดดันหลายด้านเข้ามาหา โดยเฉพาะหลังคัดค้านการประกันตัว ก็มีเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ โทรเข้ามาเป็นจำนวนมาก คาดว่า น่าจะมาวิ่งเต้นให้ได้ประกันตัว แต่ตนไม่รับสาย เพราะตนกำลังทำงานเพื่อประชาชน โดยจะไม่ขอเจรจากับใครใด ๆ ทั้งสิ้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/6KsubLhccMk