ผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่าฮาวาย พุ่ง 89 คน คาดอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่ความเสียหายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำนักจัดการภาวะฉุกเฉินกลาง (Federal Emergency Management Agency) หรือ ฟีมา (FEMA) ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมืองลาไฮนา เมืองพักตากอากาศและประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่บนเกาะเมาวี ของรัฐฮาวาย มีมูลค่าสูงถึง 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 192,885 ล้านบาท) หลังถูกไฟป่าเผาวอดเกือบทั้งเมือง มีสิ่งปลูกสร้างเสียหายกว่า 2,000 แห่ง


จนถึงขณะนี้ ไฟป่าทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 89 คนแต่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากยังมีผู้สูญหายที่ติดต่อไม่ได้อีกเกือบ 1,000 คน เจ้าหน้าที่เชื่อว่าบางส่วนอาจปลอดภัยแล้วแต่ยังติดต่อกันไม่ได้ด้วยเหตุผลต่าง ๆ


ด้านนายจอช กรีน (Josh Green) ผู้ว่าการรัฐฮาวายเผยว่า เหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวาย โดยไฟป่าเผาผลาญพื้นที่ไปทั้งหมด 2,170 เอเคอร์ หรือ 5,490 ไร่ โดย 86% ที่ได้รับผลกระทบเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชน


ขณะเดียวกัน ทางการให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับระบบแจ้งเตือน เนื่องจาก มรประชาชนบางส่วนตั้งคำถามว่าทางการสามารถแจ้งเตือนประชาชนได้มากกว่านี้หรือไม่ก่อนที่ไฟจะลามเข้ามาไหม้บ้านของพวกเขาจนวอด มีรายงานว่าขณะเกิดเหตุพบว่าเสียงไซเรนเตือนภัยไม่ทำงาน


ด้านฮาวาย อิเล็กทริก (Hawaii Electric) ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภคที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับชาวฮาวาย 95% ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่มีการตัดไฟ แม้จะมีคำเตือนว่ากระแสลมแรงอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้


ขณะนี้ กลุ่มต่าง ๆ ในท้องถิ่นกำลังพยายามจัดหาอาหาร, น้ำดื่ม, และที่พักพิงให้กับผู้ประสบภัยที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน โดยได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรต่าง ๆ เช่น สภากาชาดอเมริกัน


ทางการได้อนุญาตให้ประชาชนกลับเข้าไปสำรวจความเสียหายบ้านเรือนของตัวเองแล้ว ตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีการปิดกั้นพื้นที่บางส่วนเอาไว้อยู่เนื่องจากอาจมีควันพิษที่เป็นอันตราย


ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของฮาวายเริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณหลังเที่ยงคืนของวันอังคารที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่าไฟป่าปะทุขึ้นที่เมืองคูลา (Kula) ห่างจากเมืองลาไฮนาประมาณ 56 กิโลเมตร


ประมาณ 5 ชั่วโมงต่อมา ไฟฟ้าในเมืองลาไฮนาก็ดับ เพราะมีไฟป่าลามเข้ามาแต่ก็สามารถดับได้ ทำให้ตอนนั้น เจ้าหน้าที่มุ่งปฏิบัติการดับไฟไปที่เมืองคูลาแทน


ทว่า ในเวลาต่อมา ไฟป่าในเมืองลาไฮนากลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง แล้วลามอย่างรวดเร็วเพราะกระแสลมแรง ประชาชนเก็บข้าวของอพยพ สถานการณ์ในตอนนั้นอันตรายและน่าวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว


บางส่วนที่อพยพทางบกไม่ทันก็ตัดสินใจลงเรือและขับออกไปในทะเล บางคนกระโดดลงน้ำไปเลยเพื่อเอาชีวิตก่อนจะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ยามฝั่ง สุดท้าย เมืองลาไฮนาก็ถูกไฟป่าเผาจนราบเป็นหน้ากลอง