รับศพเหยื่อวินคลั่ง ฆ่ายกครัว อดีตเมียเผยปมหึงหวงหลังหย่า – ลูกสาววอนฟังความ 2 ข้าง ยันฝ่ายหญิงมีชู้ก่อนหย่าพ่อ

รับศพเหยื่อเขยคลั่ง อดีตภรรยาเผยปมเหตุมาจากความหึงหวง หลังจากหย่าเพียง 1 เดือน โดนขู่ตลอด จะทำให้เสียใจเหมือนตายทั้งเป็น

ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุสลดเขยคลั่งใช้อาวุธปืนยิงผู้อาศัยอยู่ในคอนโดเสียชีวิต 4 คนก่อนจะยิงตัวตายตาม โดยมีเด็กรวมอยู่ในนั้นด้วยจำนวน 2 คน

ช่วงเย็นวานนี้ นางสาววิระยา หรือชมพู่ อายุ 39 ปี ภรรยาของนายสมชาย ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงลูกเลี้ยง พร้อมป้าและแม่ยายเสียชีวิต 4 ศพ ก่อนยิงตัวเองตายตามรวม 5 ศพ เดินทางมาพร้อมนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี เพื่อมาติดต่อรับศพ ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลศพที่วัดเกาะสุวรรณาราม

ทันทีที่เจ้าหน้าที่นำร่าง ลูกชาย ป้า และแม่ ออกจากแผนกนิติเวชมาขึ้นรถ นางสาววิระยา ร่ำไห้และโผเข้ากอดศพลูกชายคนเล็กและอุ้มขึ้นรถของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ด้วยตัวเอง

จากนั้น นางสาววิระยา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ขณะเกิดเหตุโทรศัพท์เข้ามาพบว่าเป็นเบอร์ จากลูกชายคนโตแต่ไม่ได้ยินเสียงสนทนาจากปลายสาย เป็นช่วงเวลาประมาณ  19.30 น. จึงพยายามโทรกลับไปยังมือถือของป้า แต่ไม่มีใครรับจึงโทรไปหาเพื่อนบ้านให้ช่วยไปดูที่ห้องพักแต่ประตูล็อค ก่อนตำรวจจะเข้ามาตรวจสอบและพบเป็นศพไปแล้ว

ส่วนความสัมพันธ์กับนายสมชายผู้ก่อเหตุ ปัจจุบันได้หย่ากันไปแล้ว โดยฝ่ายชายเป็นคนขอหย่าและยอมจากกันโดยดี แต่ต่อมานายสมชาย พยายามขอคืนดี แต่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอมคืนดีด้วย จนต้องหนีออกจากที่พักไปอยู่ที่อื่น ฝ่ายชายพยายามติดต่อเพื่อขอคืนดี แต่ตัวเองได้บล็อคช่องทางติดต่อไป แต่ยังติดต่อทาง facebook ได้ เพราะยังต้องติดตามทรัพย์สินซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่เป็นชื่อของตัวเองคืน จำนวน 4 คัน แต่เมื่อ 2-3 วันก่อนได้เปลี่ยนเบอร์มือถือ ไม่สามารถเล่น facebook ได้ ทำให้นายสมชายติดต่อไม่ได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝ่ายชายไม่พอใจ และก่อเหตุ

ซึ่งก่อนหน้านี้นายสมชาย ยังเคยข่มขู่ว่า "ถ้าไม่คืนดีจะทำให้ช้ำใจที่สุด จะทำให้ เหมือนตายทั้งเป็น” แต่ไม่ติดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง

นางสาววชมพู่ บอกอีกว่า นายสมชาย เป็นคนอารมณ์ร้อน มักทำร้ายร่างกายตัวเองอยู่บ่อยครั้ง

ส่วนอาวุธปืนที่ก่อเหตุ ตัวเองไม่ทราบว่าซื้อมาจากไหน หรือเก็บเอาไว้ไหน แต่เคยนำออกมาใช้ข่มขู่ตัวเองถึง 4-5 ครั้ง ซึ่งเวลาฝ่ายชายอารมณ์ร้อนตัวเองก็จะพูดดีด้วยค่อยๆ พูดให้เขาใจเย็นลง ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากตัวเองอยู่ในที่เกิดเหตุ เชื่อว่าเขาจะไม่ลงมือทำร้ายทุกคนแบบนี้


ส่วนประเด็นที่ถูกกระแสสังคมโจมตีทิ้งฝ่ายชายไปมีแฟนใหม่ และมาหลอกให้เลี้ยงดู นางสาววชมพู่ยืนยันไม่เป็นความจริง หากคิดจะหลอกคงไม่อยู่สร้างครอบครัวด้วยกันมาถึง 5-6 ปี อีกทั้งเงินประกันที่ได้จากติดโควิด ก็เอามาซื้อห้องอยู่ด้วยกันโดยให้เป็นชื่อของฝ่ายชาย


น.ส.ชมพู่ยืนยันด้วยว่า ตนไม่ได้ไปงัดห้องพัก แต่ไปเอากุญแจรถของตน อีกทั้งห้องที่พักก็ซื้อด้วยกันกับนายสมชายจากเงินประกันโควิด โดยยืนยันปมก่อเหตุมาจากนายสมชายจะให้ตนกลับไปอยู่ด้วย แต่ตนไม่กลับไป สาเหตุมาจากแต่ละคนต้องดูแลครอบครัวตัวเอง โดยคนที่ชวนหย่าคือนายสมชาย ไม่ใช่ตน ตอนหย่าก็ไม่มีอารมณ์โมโหต่อกัน


น.ส.ชมพู่ กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุที่ตนย้ายออกมา ตนได้บล็อกไลน์และเบอร์โทร.ไป ทำให้ติดต่อไม่ได้และอาจทำให้โมโห กระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้ จากเหตุการณ์นี้เชื่อว่านายสมชายตั้งใจไปก่อเหตุ เพราะเคยพูดว่าถ้าจะเอาก็จะเอาไปทั้งหมด และจะทำให้เสียใจ 100 เท่า ซึ่งการกระทำครั้งนี้โหดร้ายไป เพราะก่อเหตุกับเด็กด้วย


“ตลอดเวลา 6-7 ปีที่อยู่ด้วยกัน เคยโดนทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง และใช้ปืนจ่อหัวด้วย ทำให้เคยแจ้งความไว้ แถมยังเคยใช้ปืนมาทุบกระจกรถด้วย” น.ส.ชมพู่กล่าว 

-------------------------

ลูกสาว ผู้ก่อเหตุ ขอโทษที่พ่อยิงเด็กยันปมปัญหาชู้สาวเพราะฝ่ายหญิงมีชายอื่น ก่อนหย่าและหลังหย่าก็กลับมาคบกันอีก

ทีมข่าวสอบถามลูกสาวของนายสมชาย เล่าทั้งน้ำตาว่าอยากให้สังคมฟังความจากครอบครัวตนบ้างอันดับแรกขอยอมรับผิด และขอโทษกับสิ่งที่พ่อก่อเหตุยิงเด็กสองคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้

ซี่งปมปัญหาของเรื่องนี้ เกิดจากเรื่องชู้สาว โดยพ่อรักชมพู่มาก หึงมาก และยอมทุ่มเททุกอย่างให้กับนางสาวชมพู่มาตลอด ส่วนนางสาวชมพู่ก็รักพ่อ อยู่ด้วยกันมา 5-6 ปี ก็ไม่เคยเกิดปัญหาความรุนแรงหรือหึงหวงใดใด จนกระทั่งมาพบว่าช่วงเดือนมิถุนายนมีภาพใน Facebook ว่านางสาวชมพู่ ไปเที่ยวกับผู้ชายคนนึง ถ่ายรูปลักษณะเชิงชู้สาว ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้หย่ากับพ่อ ก็ถือว่านางสาวชมพู่คบซ้อน  พอพ่อจับได้ จึงขอหย่าเมื่อเดือนกรกฎาคม  

และตั้งแต่หย่ากันมาก็พบว่าพ่อและนางสาวชมพู่กลับไปมีความสัมพันธ์กันอีกครั้ง ทุกคนในครอบครัวก็ทราบดี แต่ระยะหลังนางสาวชมพู่มีปัญหาปากเสียงกับพ่อบ่อยครั้งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว และพ่อไม่พอใจที่นางสาวชมพู่ นอกใจ ก่อนที่จะหย่า จึงมีความเจ็บแค้นในใจ

วันเกิดเหตุพ่อออกตามหาเพื่อที่จะพูดคุยกับนางสาวชมพู่ แต่ไม่พบตัวและติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งมาหาที่คอนโด และพบกับแม่ของนางสาวชมพู่ ได้ไล่ให้พ่อออกไป โดยบอกว่าชมพู่ได้แต่งงานมีแฟนใหม่แล้วให้ออกไป ทำให้พ่อที่มีความโกรธมาก บวกกับความแค้นสะสมในใจอยู่แล้วจึงก่อเหตุยิงทุกคน

ซึ่งหากย้อนเวลาไปได้เชื่อว่า พ่อไม่ทำร้ายคนอื่น แค่ต้องการคุยกับนางสาวชมพู่ เท่านั้น  แต่ติดต่อไม่ได้ พ่อสติแตกควบคุมตนเองไม่ได้ ตนจึงอยากขอโทษสังคมและขอให้เข้าใจในมุมอีกมุมของครอบครัวตน ก็สูญเสียเช่นกัน

---------------------------------------------

ครอบครัวนำร่างผู้เสียชีวิต รดน้ำศพวัดเกาะ สุดสลดทุกศพถูกยิงหน้าผากและศรีษะ อดีตภรรยา ไม่ขออโหสิกรรม ขณะที่น้องสาว เผยอดีตพี่เขยอารมณ์ร้อนและขู่มาตลอดเคยใช้ปืนจี้พี่สาวจากรถขึ้นห้อง

จากนั้นช่วงเย็น กู้ภัย ปอเต็กตึ้ง ได้นำร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง4รายมาที่วัดเกาะ ศาลาหก เพื่อทำพิธีรดน้ำศพ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ในศาลา ตั้งศพทั้ง 4 รายยู่ด้วยกัน มีคุณแม่ (ยาย) คุณป้า เด็กชาย 9 ขวบ เด็กชาย 7 ขวบ

ขณะที่ช่วงทำพิธีรดน้ำศพบรรยากาศก็เป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ โดย นางสาวชชมพู่ ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ โดยเริ่มตั้งแต่รดน้ำศพคุณแม่ของตนเอง คุณป้าและลูกสองคน  ญาติต้องเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด

ทีมข่าวได้พูดคุยกับน้องสาวของนางสาวชมพู่ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวตนเอง ซึ่งรู้มาตลอดว่าพี่สาวและอดีตพี่เขยนั้นมักมีปัญหาเรื่องหึงหวงกันเป็นประจำ โดยครั้งที่หนักที่สุดคือพบว่าอดีตพี่เขยใช้อาวุธปืนมาดักรอพี่สาวตรงลานจอดรถของคอนโดและใช้ปืนจี้ให้ลงจากรถและจ่อที่ตัวนำขึ้นมาที่ห้องพัก โดยปืนนั้นจ่ออยู่ที่ตัวพี่สาวตลอดเวลาซึ่งตนก็ตำหนิไปว่าหากทำแบบนี้คงอยู่ด้วยกันไม่ได้

วันเกิดเหตุช่วงเช้า พบว่าอดีตพี่เขยส่งข้อความทาง Messenger มาให้ตนแต่ยังไม่ทันได้อ่านก็ยกเลิกข้อความ

ช่วงเย็นก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตนไม่เข้าใจว่าเหตุใด “อดีตพี่เขยมีปัญหากับพี่สาวแต่ต้องมาทำร้ายหลาน ทำร้ายแม่และคนอื่น ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง! มันเกินจะพูดหากจะบอกว่าหึงหวงก็ไม่ใช่เพราะหย่ากับพี่สาวไปแล้ว”

หลังจากหย่าไป 1 เดือน อดีตพี่เขย มีพฤติกรรมหึงหวงและพยายามที่จะคืนดีกับพี่สาวและรุนแรงมากขึ้นด้วยการ ใช้อาวุธปืนซึ่งไม่คาดคิดว่าจะมายิงหลาน แม่และป้าของตนเองเสียชีวิตแบบนี้

ส่วนการอโหสิกรรมตนไม่ขอออกความเห็น แต่คิดว่า การที่อดีตพี่เขย เสียชีวิตเหมาะสมแล้วกับเพราะชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Pm-aVRYBMhI