ผงะ! พบศพชายถูกสังหารโหด ศีรษะขาด หลังหายตัวหลายวัน ญาติเชื่อถูกฆาตกรรม

เมื่อเวลา 10.00 วันที่ 26 ก.ค.2566 ร.ต.อ.สฤษฎ์ชัย ตะริสูนย์ รอง สว.(สอบสวน)สภ.โนนศิลา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพผู้เสียชีวิตไม่มีศีรษะ ภายในไร่อ้อยของทางทิศใต้ของบ้านหนองแวงน้อย หมู่ 12 ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น ริมถนน บ้านหนองแวงน้อย-บ้านโจดหนองแก อ.พล จ.ขอนแก่น และพบกะโหลกศีรษะห่างจากจุดที่พบศพในไร่อ้อยประมาณ 50 เมตร เป็นที่นาชาวบ้านที่แจ้งเจ้าหน้าที่ หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลโนนศิลา ร่วมกันชันสูตร


เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นไร่อ้อยของชาวบ้าน โดยจุดที่พบศพอยู่ห่างจากถนนประมาณ 10 เมตร มีคราบเลือดสีดำกองอยู่ที่พื้น ห่างจากจุดนี้ไปอีกประมาณ 50 เมตร พบกะโหลกศีรษะคน ซึ่งสุนัขคาบมาอยู่ภายในที่นาของชาวบ้าน ก่อนที่ชาวบ้านจะแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะ ติดตามประชาสัมพันธ์หาญาติ ซึ่งมีครอบครัวชาวบ้านในพื้นที่บ้านแวงน้อย หมู่ 10 ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น


หลังทราบข่าวว่ามีคนพบศพ ก็ได้ลงพื้นที่มาดู เพราะได้ประกาศตามหาคนหายเอาไว้ตามสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา คือนายคมสัน อายุ 45 ปี ชาวบ้านหนองแวง ม.10 ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น หลังจากหายออกจากบ้านไปหลายวัน และพบว่ามีคนเห็นศพ


เมื่อทางญาติมาถึงและเข้าไปดูก็ยืนยันว่าคือศพนายคมสัน เพราะมีผ้าห่มของนายคมสันที่จะชอบนำมาคลุมกายเป็นประจำห่ออยู่ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ก่อนส่งศพตรวจพิศูจน์อย่างละเอียด ที่นิติเวชโรงพยาบศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นตามขั้นตอน ก่อนที่ญาติบางส่วนจะเดินทางกลับ


ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านของนายคมสัน พบนางเครือวัลย์ อายุ 44 ปี น้องสาวคนตาย ซึ่งอยู่บ้านเดียวกัน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนก็ลงพื้นที่ไป แต่เจ้าหน้าที่กันไว้ ไม่อนุญาตให้เข้าไปดู ซึ่งจะมีญาติบางส่วนที่เข้าไปดูและบอกว่าจำผ้าห่มของพี่ชายได้


ตอนนี้ส่วนตัวไม่อยากเชื่อว่าเป็นพี่ชายจริง ๆ ต้องรอผลพิสูจน์จากทางโรงพยาบาล อีกทั้งพี่ชายก็ไม่เคยไปบริเวณนั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ปกติจะอาศัยนอนที่บ้าน ทำไร่อ้อย ไร่มัน หาเงินเลี้ยงตัวเองมาตลอด พี่ชายชอบดื่มสุราเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีเรื่องบาดหมางกับใคร ปกติก็จะไม่ยุ่งกับใคร และไม่ได้มีอะไรผิดปกติ


ด้าน นางบัวเงิน อายุ 59 ปี น้าสาวคนตาย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังทราบว่ามีชาวบ้านเห็นศพคนตายก็พากันออกมาดูกับญาติ ๆ และเพื่อนบ้าน พอมาถึงก็มั่นใจว่าเป็นศพหลานชาย เพราะจำผ้าคลุมได้ หลานชายจะคลุมเป็นประจำ และเชื่อว่าจะถูกฆาตกรรม เนื่องจากผู้ตายไม่เคยมีเรื่องกับใคร โลกส่วนตัวสูง ทำงานหาเงินใช้เอง ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใครในหมู่บ้าน นิสัยชอบดื่มสุราเป็นประจำ มีเรื่องของยาเสพติดมาเกี่ยวข้องแต่เป็นพวกเสพ แต่ก็ไม่รู้ว่ายุ่งเกี่ยวนานยัง เพราะเป็นเพียงข้อสงสัย


นอกจากนี้สถานที่พบศพคนตายนั้น หลานชายไม่เคยเที่ยวไปทางนั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ที่นาตัวเองในหมู่บ้าน และห่างจากจุดพบศพไกลเกือบ 10 ก.ม. และไม่ได้มีการใช้ยานพาหนะที่ตัวเองมี ทั้งรถไถ รถจักรยานยนต์ รถกระบะ ซึ่งกุญแจรถทั้ง 3 คันยังวางอยู่ที่เดิม กุญแจบ้าน กุญแจห้องของผู้ตายก็อยู่ที่เดิน แปลกไปจากปกติที่ผู้ตายจะเก็บติดตัวตลอดเวลา


ส่วนตัวหากเป็นการฆาตกรรม เชื่อว่าจะต้องเป็นการแอบเข้ามาอุ้มฆ่าแล้วนำศพไปทิ้ง ในไร่อ้อยดังกล่าว ซึ่งที่บ้านคนตายนั้นจะมีประตูด้านข้างหน้าประตูทางเข้าห้องนอนหลานชายด้วย เชื่อว่าจะเข้ามาประตูนี้และอุ้มหลานไปฆ่า แต่ก็ต้องรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน