สังคม

ภูมิธรรม” ไม่กลัวทัวร์ลง หลังเห็นต่างก้าวไกล ซัด “พิธา” แถลง 2 สมรภูมิ มัดมือชกเพื่อไทย

โดย onjira_n

17 ก.ค. 2566

52 views

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบสอง ระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป แต่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล กลับออกมาให้ความเห็นว่าจะต่อสู้ใน 2 สมรภูมิ คือ การโหวตนายกฯ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ซึ่งไม่เข้าใจว่าสิ่งดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะการเปิดสมรภูมิใหม่ของพรรคก้าวไกล เป็นการเสนอประเด็นที่อยู่นอกเหนือเอ็มโอยูที่ 8 พรรคเซ็นร่วมกัน การเสนอเรื่องนี้และบอกว่าจะต่อสู้จนกว่าจะประสบความสำเร็จ จนไม่สามารถไปได้แล้ว แล้วจะมอบอำนาจให้กับพรรคอันดับ 2 การพูดเช่นนี้ฟังดูดี แต่ทั้ง 2 ประเด็น ยากลำบากและไม่มีกรอบเวลาชัดเจน การแก้ไขมาตรา 272 เราเคยพูดแล้วว่าเป็นได้เพียงสัญญาลักกษณ์ ไม่ได้รับชัยชนะ แต่การเร่งตั้งรัฐบาล จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่พรรคเพื่อไทย ได้เสนอเป็นนโยบายไว้ว่าจะแก้ทั้งระบบ นี่ถือเป็นวาระสำคัญแต่การเปิดวาระใหม่ ของพรรคก้าวไกล เป็นการเสนอนอกเหนือเอ็มโอยู ตนเห็นว่าการที่นายพิธา และพรรคก้าวไกลนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อสาธารณชน จึงคิดว่ามันไม่ใช่วาระของทั้ง 2 พรรค เราตกลงกันว่าจะกลับไปคุยในพรรคตัวเองแต่ที่นายพิธาออกมาพูดเช่นนี้ เหมือนมัดมือชกเรา เราจึงจำเป็นต้องออกมาพูดความจำเป็น และความเป็นจริงให้ทราบ



นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันว่าสิ่งที่ตนกล่าวว่าไม่ใช่ความขัดแย้งหรือโกรธกัน แต่การพบกันวันนี้เราจะเสนอความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่าวาระประเทศและวาระประชาชนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่วาระของพรรคก้าวไกล หรือวาระของนายพิธา เพราะวันนี้ภาคธุรกิจอยากได้รัฐบาลที่ชัดเจน ภาคการท่องเที่ยวอยู่ในฤดูกาลท่องเที่ยว เป็นโอกาสนำเงินเข้าประเทศ แต่ถ้ารัฐบาลไม่ชัดเจนจะมีปัญหา ถึงขั้นเสนอว่ารัฐบาลประกอบด้วยอะไรก็ได้ เพียงแต่ให้มีความชัดเจนเรื่องนโยบาย และมีอำนาจเต็ม ปัญหาต่างๆไม่สามารถแก้ไขได้ถ้ายังไม่มีรัฐบาลตัวจริง ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ วันนี้อยากให้เปิดใจให้กว้าง แล้วเอาวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง วาระประเทศเป็นที่ตั้งถูกต้องหรือไม่ การที่นายพิธา พูดว่าเวลานี้ อนาคตของพรรคก้าวไกล และอนาคตของประชาชนอยู่ในมือของประชาชนแล้ว ตนคิดว่าอย่าเอาประชาชนเป็นตัวประกัน วันนี้ประเทศชาติและปัญหาประชาชนอยู่ในมือพรรคก้าวไกล และนายพิธา จึงต้องหยิบเอาปัญหาและวาระของประชาชนเป็นที่ตั้งแล้วตัดสินใจ ถ้าการตัดสินใจครั้งนี้ผิดพลาด ปัญหาประชาชนจะลำบากต้องอยู่กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ไปอีกนาน และจะรักษาการไปเรื่อยๆ แต่ถ้าตัดสินใจถูกต้องปัญหาจะคลี่คลาย อยากให้นายพิธา และพรรคก้าวไกลนำไปคิด



นายภูมิธรรม กล่าาวอีกว่า พรรคเพื่อไทยขอให้เอาวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง แล้วหาทางออกร่วมกันอย่างรวดเร็ว เพราะเราห่วงโรคแทรกซ้อน หากรัฐบาลเดิมจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เราจะสู้เขาไม่ได้เพราะเขามี 188 เสียง และส.ว.อีก 250 เสียงสามารถตั้งรัฐบาลได้เลย เราต้องอยู่กับลุงไปอีก 4 ปี ประชาชนยินดีเช่นนั้นหรือไม่ ถ้าไม่ยินดีก็ต้องหาทางออก



เมื่อถามว่า ได้คิดเรื่องการเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯไว้บ้างหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีเสียงสำรอง แผนแรกแผนเดียว เราอยากจับมือกับ 8 พรรคร่วม เดินหน้าไปให้ถึงที่สุด แต่ต้องมีคำตอบที่ชัดเจน ไม่ใช่ปล่อยให้มีการเลือกไปเรื่อยๆ โดยที่ประเทศไม่รู้ว่าทางออกจะเป็นอย่างไร เรารอไปถึงต้นปีหน้าไม่ได้ เพราะปัญหาประเทศตอนนี้รุนแรงมาก ไม่ต้องห่วงเรื่องแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีแคนดิเดตอยู่แล้ว 3 คน หากวันไหนชัดเจนให้พรรคเพื่อไทยเสนอ เราสามารถเสนอได้ แต่ไม่ใช่วาระสำคัญเราไม่คิดเรื่องนี้ก่อน เราคิดถึงการหาทางออกให้กับประเทศ โดย 8 พรรคการเมืองเสนอนายพิธา ถ้าไม่ได้จะมีวิธีไหนที่ 8 พรรค จะดำเนินการร่วมกันให้ชนะ



เมื่อถามว่า การพูดคุยกันวันนี้ จะต้องเตรียมแคนดิเดตนายกฯสำรองไว้เลยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง ความเป็นจริง เรารู้อยู่แล้วว่าแคนดิเดตของเราเป็นอย่างไร ถ้าบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้คิดเลย ก็เท่ากับโกหก เราคิดทางออกแต่ยังพูดไม่ได้ เพราะอยากให้ชัดเจนถึงความมุ่งหน้าสนับสนุนของความร่วมมือของ 8 พรรค จนถึงเวลาจำเป็นแล้วถึงจะเสนอ และชัดเจนจะไม่มีคนนอก ขอให้สบายใจว่าหากถึงเวลาต้องเสนอ พรรคเพื่อไทยมีคนเข้าไปทำงานแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับแคนดิเดตทั้ง 3 คน เพราะเรามุ่งหน้าทำ

เรื่องการเสนอนายพิธา เป็นเรื่องหลัก



“สิ่งที่ผมพูดอาจทำให้เกิดความไม่สบายใจของใครก็ตสม อาจมีรถทัวร์ลงก็ได้ แต่ผมคิดว่าเรายืนอยู่บนความเป็นจริง และอยากให้ความเป็นจริงประสบความสำเร็จ เราไม่อยากเห็นความเชื่อทำให้เกิดความจริง เราอยากเห็นความจริง เอามาคลี่คลาย และทำให้ความเชื่อประสบความสำเร็จ“



เมื่อถามถึงกระแสข่าวส.ส.พรรคเพื่อไทยและก้าวไกล ไปพูดคุยกับรัฐบาลเดิม ประมาณ 50-60 เสียงนายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้มีข่าวลือมาก เราได้ยินข่าวดังกล่าว แต่เมื่อเป็นข่าวลือเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ สิ่งที่สำคัญคือกลับไปตรวจสอบคนของตัวเอง เพราะประวัติศาสตร์การเมืองไทย เรื่องการแจกกล้วย เรื่องงูเห่าเคยเกิดมาแล้ว เราเสนอให้เกิดการระมัดระวัง เราต้องให้เกียรติส.ส.ทั้ง 2 พรรค และในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้ให้แกนนำแต่ละส่วนไปพูดคุยกับส.ส.เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น

คุณอาจสนใจ

Related News