เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' ป้อง 'อุ๊งอิ๊ง' ไม่ได้บังคับแบงก์ชาติ - 'ภูมิธรรม' ร่ายยาวออกตัวแทน ปมพูดถึง ธปท.บนเวที

โดย weerawit_c

5 พ.ค. 2567

90 views

5 พ.ค. 2567 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กองทัพอากาศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกระฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงธนาคารแห่งประเทศไทย บนเวที 10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10 จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียล ว่า ตนคิดว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน ทุกคนปฏิเสธไม่ได้ เรื่องภาวะดอกเบี้ยสูง ที่เป็นประเด็ยสำคัญ ทำให้รายจ่ายของประชาชนเดือดร้อน ตนมองว่าเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนมากกว่า และเข้าใจในความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทย เราพยายามทำงานร่วมกัน ผมมั่นใจและผมก็ให้เกียรติธนาคารแห่งประเทศไทย


เวลามีข้อเรียกร้องผมก็ร้อง เวลามีการพูดคุยผมก็คุย ไม่ว่าจะเรื่องอัตราดอกเบึ้ยที่ต้องลดลงมา ตนพูดตลอด ไม่ได้ปฏิเสธตรงนี้ แต่ท่านก็มีเหตุผลของท่าน ผมก็เดินหน้าของผม ไม่ว่าการพูดคุยกับ 4 ธนาคารใหญ่ที่ลดดอกเบี้ยลงมา นี่คือการยึดโยงกับประชาชนมากกว่า


ทั้งนี้ การลงพื้นที่ จ.มหาสารคามและร้อยเอ็ด ก็ไปรับฟังความเดือดร้อนของประชาชน และสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ 4 บุรี เรื่องความอิสระเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การที่เรามาอยู่ตรงนี้ ไม่ว่าจะข้าราชการ สถาบันการเงิน นักการเมือง สส. ผู้บริหารพรรค เรามาอยู่เพื่อประชาชน ซึ่งจะมีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไป ทุกคนมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ แต่ต้องขอยึดโยงกับประชาชนเป็นหลัก


เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาจะทำให้การทำงานของรัฐบาลกับธนาคารแห่งประเทศไทยจะยิ่งฉีกกันออกไป นายกฯ ระบุว่า เรามีการตกลงทุกเรื่อง เราไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง ตนพยายามที่แก้ไขปัญหาในส่วนที่ทำได้ เชื่อว่าการที่ผู้ว่าแบงก์ชาติแนะนำ การประสานงานระหว่างรัฐบาลกับธนาคารแห่งประเทศไทย ควรทำผ่าน สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สคล.) หรือหน่วยงานของกระทรวงการคลัง ก็จะพยายามพูดคุยต่อไป


เมื่อถามว่า จะได้มีโอกาสพูดคุยผู้ว่าแบงค์ชาติหรือไม่ นายกฯ เผยว่า ถ้าเจอก็จะมีการพูดคุย แต่ผู้ว่าแบงค์ชาติบอกให้คุยผ่าน สคล. ตนจึงคิดว่าอาจจะต้องไปปรึกษา นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้ดีขึ้น ยืนยันว่าเราจะทำงานทุดองค์กร ไม่สร้างความขัดแย้ง หากขัดแย้งกันและประชาชนเดือดร้อนก็ไม่ใช่เรื่องดี


ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้าไม่เจอตัวปัญหาก็ไม่ได้แก้ไข นายกฯ ตอบทันทีว่า มีวิธีหลายอย่างที่เราสื่อสารกันได้


เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมองว่าเป็นการบีบ เวทีที่พรรคเพื่อไทยจัดเป็นการบีบผู้ว่าแบงก์ชาติ ให้เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทย นายกฯ ระบุว่า ผมไม่เคยบีบอะไรใคร ไปฟังจากสปีชก็ได้ เราสะท้อนความต้องการของประชาชน ว่าจะมีวิธีไหนแก้ไขปัญหาได้


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทยร่ายยาวผ่าน Facebook ถึงธนาคารว่าการแห่งประเทศไทย ว่า


“แบงค์ชาติ”ไม่ใช่องค์กร

หรือสถาบันที่“ประชาชน”จะกล่าวถึงหรือ“วิพากษ์ วิจารณ์ ”

หรือ“แตะต้อง” ไม่ได้


เจตจำนงพรรคเพื่อไทยที่หัวหน้าพรรค นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้สื่อสารกับสังคมถึงกรณีแบงค์ชาติในวันประชุมของพรรคที่ผ่านมา


สำหรับผมคือการแสดงออกอย่างเปิดเผย จริงใจ และห่วงใยที่แบงค์ชาติยังยืนยันที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้อย่างเดิมโดยไม่พิจารณาถึงผลกระทบด้านต่าง ๆ ซึ่งประชาชน (ที่เป็นลูกหนี้แบงค์และประชาชนทั่วๆไป) กำลังเผชิญชีวิต ดิ้นรนอยู่ภายใต้ ภาวะเศรษฐกิจที่กำลังซ้ำเติมชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาอย่างแสนสาหัส


สื่อมวลชนเองก็รับรู้กระแสข่าวเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ความคิดของคนในสังคมต่อประเด็นนี้ก็มีความหลากหลาย และประเด็นการตัดสินใจของแบงค์ชาติก็เป็นกระแสความเห็นต่างกันอย่างกว้างขวางในสังคม


แต่แปลกใจว่าทำไมเมื่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทยสะท้อนความคิดบ้าง จึงเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์ วิจารณ์ แบบมุ่งโจมตีด้วยอคติอย่างไร้เหตุผล


การแสดงความเห็นต่อกรณีแบงค์ชาติในวันประชุมของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา ผมเชื่อมั่นว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกำลังทำหน้าที่สะท้อนความเห็นอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมาต่อแบงค์ชาติ ในฐานะที่องค์กรนี้เป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของการพัฒนาและดูแลระบบเศรษฐกิจของประเทศ


ความเห็นดังกล่าวมีนัยยะที่สะท้อนถึงความห่วงใยต่อผลกระทบจากภาระทางเศรษฐกิจที่บีบคั้นชีวิตของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งกำลังเดือดร้อน และแบกรับความยากลำบากอยู่


ท่าทีของการแสดงความคิดทางการเมืองของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจึงเป็นไปตามวิถีประชาธิปไตย และสำนึกความรับผิดชอบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน


อีกทั้งยังเป็นการนำเสนอในเวทีของพรรคการเมือง ประกอบด้วยกรรมการและสมาชิกพรรค ที่ต่างต้องมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการแสวงหาแนวทาง มาตรการ ทางเลือก เพื่อช่วยกันคิด และจัดการภาวะเศรษฐกิจของประเทศ


จึงเป็นสิทธิที่สามารถพูดได้

ออกความเห็นได้ และเป็นเรื่องที่พึงกระทำได้ ไม่ว่าจะในฐานะพลเมือง หรือหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีความห่วงใยประชาชน ห่วงใยบ้านเมือง ผมเห็นว่าการแสดงความเห็นโดยสุจริตใจในครั้งนี้จะเป็นการกระตุกให้สังคมและผู้เกี่ยวข้องได้ช่วยกันคิด ไตร่ตรองหาเหตุผลให้เห็นทางออกมากขึ้น


ความเป็นจริง


แบงค์ชาติไม่ใช่สถาบันที่อยู่เหนือการเมือง ไม่ใช่องค์กรที่ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ตรงข้าม แบงค์ชาติคือกลไกของระบบเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศ ที่ประชาชนทุกฝ่ายเข้าถึง เสนอความคิดเห็นได้


แม้จะมีขอบเขตหน้าที่หลักทางเศรษฐกิจ ก็ไม่ได้หมายความว่าแบงค์ชาติไม่ข้องเกี่ยวกับการเมือง และชีวิตของประชาชน


การที่ประชาชนทั่วไปหรือพรรคการเมืองกล่าวถึงแบงค์ชาติ หรือวิพากษ์วิจารณ์ เสนอความเห็นต่อแบงค์ชาติ ก็ ไม่ใช่การแทรกแซง แต่เป็นการเสนอเพื่อให้มุมมองทางเลือกอื่นๆที่เหมาะสมมากกว่าในบริบทสถานการณ์ที่เป็นอยู่


การที่สื่อบางบุคคล บางสำนักมีอคติต่อพรรคเพื่อไทย และนำความเห็นบางส่วนของหัวหน้าพรรคมาวิพากษ์อย่างรุนแรง และขยายความตามอคติของตนบวกด้วยการใส่สีตีข่าว เป็นการทำข่าวด้วยอคติมากกว่าข้อเท็จจริง


ผมเฝ้ามองคนข่าวหรือสำนักข่าวบางคนบางส่วน ที่ยังติดยึดอยู่กับอคติเดิมแล้วการใช้พื้นที่ข่าวของตนเป็นพื้นที่ละเลงอคติและขยายความขัดแย้งอยู่เนืองๆ ก่อและปั่นกระแสขัดแย้งในสังคม โดยไม่คำนึงถึงสิทธิและความเป็นมนุษย์ของบุคคลที่ตกเป็นข่าว


ผมขอยืนยันว่า กรณีแบงค์ชาติยังเป็นประเด็นที่สังคมยังสะท้อนความเห็นและสื่อสารกันได้ โดยใช้ความรู้และปัญญาที่รอบด้านมากกว่าการใช้จินตนาการที่มีแต่อคติ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับการขับเคลื่อนทั้งเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม


https://youtu.be/nFV85YFzOo0

คุณอาจสนใจ

Related News