เศรษฐกิจ

รถบรรทุกสินค้าภาคอีสาน จ่อปรับขึ้นราคาค่าขนส่ง หลังรัฐไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล

โดย passamon_a

17 ก.ค. 2566

78 views

ตามที่ นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ออกมาพูดว่าถึงกรณีรัฐบาลจะไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล ตั้งแต่ 21 ก.ค.66 เพื่อไม่ให้เกิดผลผูกพันเป็นภาระงบประมาณไปถึงรัฐบาลใหม่ ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง


ทำให้ราคาน้ำมันดีเซล ณ โรงกลั่นในประเทศลดลง ซึ่งผลของการนำเงินกองทุนมาพยุงราคาน้ำมันดีเซลอีก ทำให้ต้นทุนน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 5 บาทต่อลิตร ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ ทำให้ต้นทุนขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นด้วยประมาณ 10% และจะกระทบไปยังราคาสินค้า ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนไปด้วย


เมื่อวันที่ 16 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สัมภาษณ์ นายสมคิด กิ่งกรดกลาง นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน เปิดเผยว่า การที่รัฐไม่เอาเงินกองทุนน้ำมัน ไปพยุงราคาน้ำมันดีเซลต่อ ย่อมจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการขนส่ง เพราะรถขนส่งส่วนใหญ่จะใช้น้ำมันดีเซล แต่ภาครัฐจะปรับขึ้นราคาน้ำมันเท่าไร ต้องรอดูอีกที ถ้าปรับขึ้นเป็นขั้นบันได เราก็ขยับค่าขนส่งเพิ่มขึ้นตามแบบขั้นบันได เพราะราคาค่าขนส่งในปัจจุบันก็อยู่กันลำบากอยู่แล้ว ถ้าราคาน้ำมันปรับขึ้นอีก ก็จะยิ่งลำบากกันมากขึ้น


และงานขนส่งในช่วงนี้ก็เงียบ ไม่ค่อยมีงาน เพราะเพิ่งจะเริ่มฤดูเพาะปลูก ไม่ใช่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต การว่าจ้างรถบรรทุกไปขนส่งผลผลิตทางการเกษตรจึงมีน้อย ก็คาดหวังกันว่า จะได้รัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อช่วยปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น เพราะจะรู้ที่ไปที่มาของพลังงานเชื้อเพลิง


แต่หากการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรียังยืดเยื้อออกไป จนทำให้การฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า ทางสมาคม-สมาพันธ์ฯ ก็ต้องไปหารือกับบริษัทคู่ค้า ว่าจะสามารถรับมือกับค่าขนส่งที่ต้องปรับขึ้นได้มากน้อยเพียงใด เนื่องจากผู้ประกอบการต้องแบกภาระต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น ทำให้จำเป็นต้องปรับค่าขนส่งเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งราคาน้ำมันอาจจะปรับขึ้นที่ละ 1 บาท 2 บาท


ขณะที่ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลคงคลัง น่าจะอยู่ที่ลิตร 31 บาทกว่า แต่ราคาขายปลายทาง จะอยู่ที่ลิตร 32 บาทกว่า ส่วนค่าขนส่งจะอยู่ที่ตันละ 500 บาท ซึ่งพอจะวิ่งกันไหว ยังพอรับได้ ถ้าปรับราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะต้องปรับค่าขนส่งขึ้นตามเช่นกัน โดยถ้าราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นลิตรละ 1 บาท ก็อาจจะเพิ่มค่าขนส่งขึ้นอีกตันละ 50 บาท เป็นต้น


นอกจากนี้ ก็ต้องไปหารือกับกองทุนน้ำมันและบริษัทผู้ค้าน้ำมันด้วย เพราะส่วนใหญ่ก่อนมีการปรับขึ้นราคาน้ำมัน บริษัทผู้ค้าน้ำมันเหล่านี้ มักจะมีน้ำมันสำรองเอาไว้ในสต๊อก ก็ต้องไปหารือว่า พอจะช่วยผู้ประกอบการขนส่งด้วยการขายน้ำมันในสต๊อกให้ในราคาเก่า ก่อนจะปรับขึ้นราคาได้หรือไม่ ถ้าตกลงกันได้ ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการขนส่งได้ในระดับหนึ่ง


ซึ่งวันที่ 19-20 ก.ค.66 จะเดินเข้าไปหารือร่วมกับทางสมาพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เพื่อหาแนวทางรับมือ และหาทางออกร่วมกัน โดยคาดหวังว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อช่วยดึงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับขึ้นต่อไปอีกระยะ


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/BYJCP4Li5n0

คุณอาจสนใจ