รู้จัก 'รัฐคะเรนนี' และผลกระทบ 2 ปีการสู้รบในรัฐกะเหรี่ยง

สงครามการสู้รบในรัฐคะเรนนี เป็นการสู้รบครั้งล่าสุด ต่อเนื่องมาจากรัฐกะเหรี่ยง ในช่วง 2 ปี หลังการรัฐประหาร กลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา มีการตั้งกองกำลังพิทักษ์ประชาชน หรือ PDF เข้ารับการฝึกอาวุธกับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ ทั้งกองทัพคะเรนนี KNPP และกอง



ชาติกะเหรี่ยง KNU เป็นส่วนหนึ่งที่รัฐบาลทหารเมียนมา เริ่มกวาดล้างกลุ่มต่อต้าน ขณะที่กลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อสู้เพื่อสันติภาพมากกว่า 70 ปี ก็จับมือกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เปิดสงครามปฏิวัติเพื่อล้มรัฐบาลทหารเมียนมา จนเกิดการสู้รบขึ้นตามแนวชายแดนไทย คุณฐปณีย์ เอียดศรีไชย จะพาไปรู้จักรัฐคะเรนนี และผลกระทบการสู้รบ 2 ปีที่ผ่านมาในรัฐกะเหรี่ยง



หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกองกำลังดาวแดง KNPLF ที่ร่วมกับกองทัพคะเรนนี Kareeni Army พรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะเรนนี KNPP ยึดฐานทหารพม่า ที่อยู่ห่างไปไม่ถึงกิโลเมตร แม้จะต้องอพยพไปยังชายแดนไทย แต่ชาวคะเรนนีทุกคนพร้อมสู้ตามเป้าหมายกำหนดชะตากรรมตนเอง เช่นเดียวกับทุกชาติพันธุ์ที่จับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลทหารเมียนมา



บ้านที่ไร้ผู้คนในรัฐคะเรนนี เป็นสิ่งที่ชาวคะเรนนี ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางการต่อสู้ ตลอด 66 ปี นับจากก่อตั้ง กองทัพคะเรนนี Karenni Army กองกำลังทหารของพรรคก้าวหน้าแห่งชาติกะเหรี่ยงแดง KNPP เมื่อปี 2500 แต่ความเป็นรัฐคะเรนนี ที่ไม่ยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของพม่าในยุคอาณานิคมอังกฤษ เพราะมีอิสระในการปกครองตนเองมาก่อน แม้จะถูกรวมเป็นรัฐหนึ่ง ชื่อรัฐคะยา หลังได้รับเอกราชของสหภาพเมียนมา แต่ชาวคะเรนนี ก็ไม่เคยยอมรับชื่อ รัฐคะยา และยังคงจับอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่ามาโดยตลอด แม้ในปี 2538 และปี 2555 ได้เคยลงนามหยุดยิงกับกองทัพพม่ามาก่อน แต่ KNPP ไม่ได้ลงนามหยุดยิง NCA ในปี 2558



หลังการรัฐประหารในปี 2564 กลายเป็นจุดเปลี่ยน หลังประชาชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ได้ตั้งกองกำลังพิทักษ์ประชาชน หรือ PDF เข้ารับการฝึกอาวุธกับกลุ่มชาติพันธุ์ หนึ่งในพื้นที่ที่เข้าฝึกมากที่สุดนอกจาก กองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU แล้ว คือพื้นที่ของกองทัพคะเรนนี KNPP ในรัฐคะเรนนี จนเกิดความร่วมมือระหว่างกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ และ PDF ที่ร่วมมือประกาศสงครามปฏิวัติ เพื่อล้มรัฐบาลทหารเมียนมา ออกจากการเมือง เพราะเป็นหนทางเดียวที่ทำให้กระบวนสันติภาพในเมียนมาเริ่มต้นใหม่ได้ ซึ่งตามเป้าหมายให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ หรือกลางปีหน้า รัฐคะเรนนี จึงเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของรัฐบาลทหารเมียนมา ที่แพ้ไม่ได้เช่นกัน



หมู่บ้านชายแดนรัฐกะเหรี่ยง กับรัฐคะเรนนี ก็ได้รับผลกระทบจากการสู้รบครั้งนี้ ชาวบ้านต่างพากันอพยพอีกครั้ง เพราะเพิ่งเกิดเหตุเครื่องบินรบของทหารเมียนมา มาทิ้งระเบิดในหมู่บ้านของรัฐกะเหรี่ยงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพเมียนมา บ้านหลายหลังยังปิด มีแต่ผู้ชาย ส่วนผู้หญิงและเด็กต้องไปนอนตามป่า การสู้รบครั้งใหม่ จึงต้องระดมอาหาร เพื่อรับมือกับสถานการณ์สู้รบที่ยังไม่ยุติ



สถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย จึงเป็นสิ่งที่รัฐไทยต้องเตรียมรับมือ นอกจากการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้ลี้ภัยจากรัฐคะเรนนี ยังต้องประเมินสถานการณ์สงคราม การปฏิวัติที่ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า