สังคม

ประเมินสถานการณ์สู้รบรัฐกะเหรี่ยง รบ.ไทยเตรียมคิกออฟ ระเบียงมนุษยธรรมช่วยเหลือ

โดย panwilai_c

21 มี.ค. 2567

45 views

รัฐบาลไทยเตรียม คิกออฟ ระเบียงมนุษยธรรมช่วยเหลือสถานการณ์ในเมียนมา วันที่ 25 มีนาคมนี้ ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ผู้นำทหาร KNU ห่วงการจัดการที่เข้าไม่ถึงผู้ได้รับความเดือดร้อนที่แท้จริง พร้อมเปิดเผยสถานการณ์ภายในรัฐกะเหรี่ยงในปีนี้ จะมีการสู้รบต่อเนื่อง เพราะเป็นเป้าหมายที่ต้องเอาชนะรัฐบาลทหาร ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญของทุกชาติพันธ์ต่อการสร้างสันติภาพในเมียนมา



แม่น้ำสาละวิน ชายแดนระหว่างจังหวัดแม่ฮ่องสอนของไทย ด้านอำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย กับรัฐกะเหรี่ยง ยังอยู่ในความสงบ ประชาชนสองฝั่งสามารถเดินทางในแม่น้ำสาละวินได้อย่างปลอดภัย เราเห็นเรือชักธงชาติสหภาพกะเหรี่ยง KNU และป้ายต้อนรับสู่ดินแดนกะเหรี่ยง กลอทูเล หลังกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง KNLA โดยกองพล 5 ที่นำโดย พลเอกบอจ่อแฮ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด KNLA ได้ยึดฐานทหารพม่าริมน้ำสาละวินไปเกือบทั้งหมดแล้ว การสู้รบเพื่อขับไล่ทหารพม่าออกจากพื้นที่



จึงเป็นเป้าหมายสำคัญ​ที่พลเอก บอจ่อแฮ ยอมรับว่า จำเป็นต้องสู้รบให้ชนะ เพราะหากยังมีทหารพม่า กลุ่มชาติพันธ์ในแต่ละรัฐ จะไม่สามารถจัดการพื้นที่หรือจัดการปกครองภายในได้ ความเป็นหนึ่งเดียว ที่จะนำไปสู่การเจรจาทางการเมืองเพื่อนำไปสู่สหพันธรัฐ จึงจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้



โรงพยาบาลทหาร ที่สร้างขึ้นใหม่ หลังทหารเม่าเริ่มเปิดฉากโจมตีทางอากาศในพื้นที่กองพล 5 หลังการรัฐประหารในปี 2564 ทำให้ที่นี่กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับทหารและประชาชนกะเหรี่ยง ที่สามารถรักษาโรคทั่วไปและผ่าตัดได้บางส่วน เพื่อรองรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ซึ่งนอกจากความต้องการทางการแพทย์แล้ว อาหารสิ่งของความช่วยเหลือต่างๆ ยังมประชาชนที่เดือดร้อนและเข้าไม่ถึงอีกจำนวนมาก



ผู้นำทหาร KNU จึงยินดีที่ไทยจะเปิดระเบียงมนุษยธรรมช่วยเหลือสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งจะเริ่มคิกออฟในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งทาง knu ได้รับการประสานงานแล้วว่าจะมีการส่งความช่วยเหลือไปในพื้นที่กองพล 7 ยังไม่มีการประสานมายังพื้นที่กองพล 5 และรัฐคะเรนนี ที่อยู่ทางฝั่งแม่ฮ่องสอน ซึ่งรองผู้ัญชาการทหารสูงสุด knla เปิดเผยว่าพื้นที่ฉุกเฉินที่สุดขณะนี้น่าจะป็นกองพล 3 ซึ่งการประสานงานของไทยต้องประสานความร่วมมือเพื่อให้ถึงผู้เดือดร้อนที่แท้จริง



รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด KNLA/KNU ประเมินสถานการณ์การสู้รบในรัฐกะเหรี่ยงในช่วงปีนี้ จะรุนแรงขึ้น เพราะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกชาติพันธ์จะต้องเอาชนะกองทัพพม่าให้ได้แน่นอนว่า ย่อมส่งผลต่อสถานการณ์ชายแดนไทยที่ต้องรับมือ ส่วนในพื้นที่กลุ่มชาติพันธ์อื่น พลเอกบอจ่อแฮ เชื่อว่าการสู้รบยังเป็นเป้าหมายหลักส่วนการเจรจาทางการเมืองก็เกิดขึ้นพร้อมกันได้ แต่จะไม่มีทางเกิดขึ้นหากยังไม่มีการหยุดยิง ซึ่งล่าสุดเหตุการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ฝั่งติดอำเภออุ้งผาง จังหวัดตาก ก็เริ่มมีผู้อพยพลี้ภัยมาฝั่งไทยแล้วเช่นกัน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ไทยต้องรับมือในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News