เลือกตั้งและการเมือง

'ส.ว.เสรี' ย้ำส่วนใหญ่ไม่โหวตพิธา ไม่เชื่อมีพลังเงียบ - 'วิโรจน์' เชื่อได้เสียง ส.ว.เกือบร้อย

โดย passamon_a

9 ก.ค. 2566

313 views

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.66 นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวถึงกรณี ส.ว.บางส่วนมีความเห็นไม่ให้นำชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มาเสนอชื่อโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นครั้งที่ 2 หากการโหวตรอบแรกไม่ได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา ว่า


แม้ตามรัฐธรรมนูญจะไม่มีข้อห้ามให้ผู้ที่เสนอชื่อโหวตนายกฯรอบแรกไม่ผ่าน ไม่ให้กลับมาเสนอรอบสอง แต่ในทางปฏิบัติควรเสนอชื่อบุคคลอื่นแทน เพราะมีความชัดเจนไปแล้วว่าที่ประชุมรัฐสภาไม่เห็นด้วยกับรายชื่อที่เสนอ ถ้ายังให้นำกลับมาเสนอชื่อซ้ำได้จะถูกตั้งคำถามมากว่าทำเพื่ออะไร จะเพื่อไปติดต่อ วิ่งเต้นขอคะแนน หรือให้ผลประโยชน์อะไรหรือไม่


"ตามมาตรฐานสากล หากมีการโหวตเลือกใครไปแล้วไม่ได้รับความเห็นชอบถือว่าควรจบไปในรอบเดียว แล้วไปจัดทัพรวบรวมเสียงหาคนมาเลือกใหม่ ถ้าให้เลือกซ้ำคนเดิมได้ก็ไม่รู้จะโหวตเลือกกันไปกี่รอบ ยิ่งการโหวตเลือกรอบแรกไปแล้วทำให้รู้ว่าใครโหวตเลือก หรือไม่เลือก อาจจะมีการล็อบบี้ หรือข่มขู่เจ้าตัว หรือลูกเมีย ให้เกิดความกลัวเพื่อให้เลือกในรอบต่อไป ที่ผ่านมา ส.ว.ก็โดนข่มขู่ลักษณะนี้ แต่เราไม่กลัว" นายเสรี กล่าว


นายเสรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ส.ว.หลายคนเปลี่ยนใจจากเดิมจะสนับสนุนเป็นไม่สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ หลังได้รับฟังเหตุผลต่าง ๆ จนเปลี่ยนใจ แม้พรรคก้าวไกลยังเชื่อว่ามีพลังเงียบจาก ส.ว.จะโหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ แต่ตนอยู่วงใน ทราบอะไรได้ชัดและเยอะกว่า เชื่อว่าไม่มีพลังเงียบ ส.ว. ถ้ามีก็แค่บวกลบ 5 คน ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนไปก็คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพราะช่วงหลังเริ่มข่มขู่กันเยอะขึ้น ทั้งผ่านคนในครอบครัว ผ่านไลน์ ถึงความไม่ปลอดภัย ตนก็โดนข่มขู่ระวังลูกเมียไม่ปลอดภัย


นายเสรี กล่าวอีกว่า ส่วนกระแสข่าวแจกเงินซื้อ ส.ว.ในการโหวตนายกฯมีได้ยินมาบ้าง แต่ไม่รู้มีจริงหรือไม่ แต่ใครให้ก็เสียเงินเปล่า เพราะ ส.ว.ส่วนใหญ่ยืนยันไม่หนุนนายพิธา เพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 และกฎหมายอื่น ๆ ไม่ต้องมาโทษ ส.ว. ทุกอย่างทำตัวเองทั้งนั้น


ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายพิธาไปไม่รอด พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกล ส.ว.พร้อมโหวตให้แคนดิเดตนายก พรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ส.ว.เคยหารือกันถึงกรณีถ้าเปลี่ยนตัวนายกฯเป็นของพรรคเพื่อไทย แต่ยังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ เสียง ส.ว.ส่วนใหญ่ก็ไม่สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคก้าวไกลยังร่วมรัฐบาลและจะแก้มาตรา 112 อยู่ ส.ว.ก็ไม่สบายใจ ดังนั้นก้าวไกลควรไปเป็นฝ่ายค้าน


แม้ขณะนี้การเสนอแก้มาตรา 112 ยังเป็นแค่ขั้นตอนทางกฎหมาย อาจไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาในที่สุด แต่ ส.ว.อยากแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม เพราะไม่อยากให้เข้ามาอภิปราย เสนอความเห็น มีคนวิพากษ์วิจารณ์ จะทำให้ปัญหาลามไปสู่ภายนอกได้ เกิดความขัดแย้งยิ่งขึ้นอีก


"ดังนั้นหากพรรคก้าวไกลยังร่วมรัฐบาล และไม่ลดราวาศอก ไม่หยุดแก้ไขมาตรา 112 ส.ว.ก็ไม่เลือก ไม่ว่าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯก็ตาม ถ้าก้าวไกลไม่ถอยแก้มาตรา 112 วุฒิสภาก็ไม่ถอย ถ้าพรรคเพื่อไทยข้ามขั้วไปจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ตั้งรัฐบาลโดยไม่ไปแตะต้องมาตรา 112 ก็ถือเป็นการเมืองปกติ ส.ว.พร้อมโหวตสนับสนุน ปัญหาจะไม่มีเลย"


นายเสรี กล่าวว่า ส่วนหากอดีตพรรคฝ่ายรัฐบาลเดิมจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยมาสู้ หากการโหวตนายกฯ ไม่สำเร็จสักทีนั้น เชื่อว่า ส.ว.ก็ไม่น่าโหวตให้คนฝ่ายเสียงข้างน้อยเป็นนายกฯ รัฐบาลเสียงน้อยตั้งไปไม่มีประโยชน์ เพราะไม่มีเสียงสนับสนุนถึง 250 เสียง การบริหารประเทศจะไม่ได้รับความร่วมมือในการออกกฎหมายสำคัญ ๆ ได้แค่แก้ปัญหาของตัวเองก็เหนื่อยพอแล้ว แต่ไม่มีเวลาบริหารประเทศ ส.ว.ต้องคำนึงเรื่องเหล่านี้ด้วย ดังนั้น โอกาสไปหนุนเสียงข้างน้อยเป็นนายกฯแทบจะไม่มี แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่คงไม่ได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.



https://youtu.be/ShERXtUHIio

คุณอาจสนใจ

Related News