เลือกตั้งและการเมือง

'พิธา' กำหนดการแน่น เดินสายขอบคุณปชช. ก่อนโหวตนายกฯ ปัดปลุกระดมมวลชน

โดย passamon_a

9 ก.ค. 2566

94 views

'พิธา' กำหนดการแน่น เดินสายขอบคุณประชาชน 5 จังหวัด ก่อนโหวตนายกฯ 13 ก.ค.นี้ - ปฏิเสธลงพื้นที่แน่นปลุกระดมมวลชนก่อนโหวตนายกฯ รับเลี่ยงไม่ได้ถูกวิจารณ์ ยันไม่ลดเพดานแก้ 112 แต่เชื่อ ส.ว.เข้าใจมากขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินสายขอบคุณประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ก่อนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค.นี้


โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ค.66 นายพิธาเดินทางไปขอบคุณประชาชนที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดที่ชนะการเลือกตั้ง 3 เขตจาก 16 เขต ส่วนคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลได้มาเป็นอันดับ 2 โดยนายพิธาจะลอดประตูชุมพล และขึ้นรถแห่หน้าลานย่าโม ไปยังปราศรัยยังลานหน้าศาลากลางจังหวัด


จากนั้นวันนี้ (9 ก.ค.66) ช่วงเช้า นายพิธาเดินทางไปขอบคุณประชาชนที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีเขตเลือกตั้ง 5 เขต แม้จะไม่ได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต แต่พรรคก้าวไกลได้รับคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมากที่สุด กว่า 180,000 คะแนน โดยนายพิธาจะปราศรัยที่บริเวณสนามหญ้าหน้าโรงเรียนอนุบาลวัดป่าเลไลก์


หลังจากนั้นในวันเดียวกัน จะมุ่งหน้าเข้า กทม. เพื่อขอบคุณประชาชนร่วมกับ ส.ส.ของพรรค ที่ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์


ส่วนในวันที่ 10 ก.ค.66 เวลา 16.00 น. นายพิธามีกำหนดการเดินทางไปขอบคุณประชาชนที่จังหวัดปทุมธานี โดยพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง 6 เขต จาก 7 เขต และคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ได้มาเป็นอันดับ 1


และในวันที่ 11 ก.ค.66 นายพิธา จะเดินทางไปขอบคุณชาวสมุทรปราการเป็นครั้งที่ 2 หลังจากชนะเลือกตั้งยกจังหวัด 8 เขต โดยนัดหมายรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด เวลา 17.00 น.


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.66 นายพิธา ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่พบปะมวลชนที่ลานย่าโม จังหวัดนครราชสีมา ถึงการตั้งข้อสังเกตการลงพื้นที่เดินสายยาวจนถึงวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการปลุกมวลชนไม่ได้เป็นการปลุกระดม แต่ยังมีเวลาว่าง และมีหลายพื้นที่ที่ได้ลงไปขอบคุณประชาชนแล้ว ที่นครราชสีมาก็มีการเรียกร้อง วันที่มีการเลือกประธานสภา ส.ส.โคราชก็ถามว่าเมื่อไหร่จะมาโคราช วันนี้ก็เลยถือโอกาสมา หารือกับภาคเอกชน หอการค้าและสภาอุตสาหกรรมโคราช มีหลายเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน เช่น ปัญหาภัยแล้ง


เมื่อถามว่าดูจากตารางการลงพื้นที่ยาวไปจนถึงก่อนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าปลุกระดมมวลชน นายพิธา กล่าวว่า ก็คงโดนวิพากษ์วิจารณ์ทุกเรื่อง ซึ่งไม่ได้กังวล เพราะเราก็ทำงานของเราไป


เมื่อถามถึงความมั่นใจเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายพิธา กล่าวว่า มีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้เห็น ส.ว.หลาย ๆ ท่าน ส่งจดหมายเปิดผนึกออกมาแสดงจุดยืน ซึ่งท่านก็พูดชัดเจนแม้ไม่ได้เอ่ยชื่อตน และชื่อพรรค


แต่มองว่าเป็นโอกาสที่จะคืนความปกติให้กับระบบการเมืองไทย และให้โอกาสประเทศไทย ที่ไม่ปกติมานาน ที่มีการล้มล้างทางการเมือง และรัฐประหาร นิติสงคราม มีการยุบพรรค เป็นสิ่งที่ไม่ปกติตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญปี 60 เชื่อว่าส.ส.และส.ว. มีโอกาสที่จะคืนความปกติให้การเมือง โดยเลือกมติของรัฐบาลเสียงข้างมาก 312 เสียง ถือเป็น 75% ของ ส.ส.ทั้งหมด เป็นวาระสำคัญของประเทศที่จะบอก ว่าเราจะไปทิศทางไหน


เมื่อถามถึงเงื่อนไขของส.ว. เรื่อง 112 ในฐานะหัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล จะยืนยันเดินหน้าแก้ไขหรือลดเพดานลง เพื่อให้ได้รับเสียงโหวตจาก ส.ว. นายพิธา กล่าวว่า เป็นเงื่อนไขที่อ่อนลงเรื่อย ๆ เมื่อได้รับฟังคำชี้แจง และคำอธิบายถึงเหตุผล ส.ว.หลายท่านจะเริ่มเข้าใจ ว่าเรื่องนี้ไม่ได้อิงกับพรรคการเมืองหรือนโยบายของพรรค แต่เป็นเรื่องหลักการที่จะทำให้ระบบกลับมาปกติ ที่เหลือก็ต้องใช้สภาซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางความคิด และไม่มีใครผูกขาดนโยบายทางความคิดได้ ขณะเดียวกันก็ยังมีกรรมาธิการเพื่อขับเคลื่อนงานในสภา เมื่ออธิบายให้ ส.ว.หลายท่าน ก็มีความเบาใจและเข้าใจมากขึ้น ว่าการอนุรักษ์หรือรักษา คือทำให้เกิดการพัฒนา เมื่อมีการพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะก็เข้าใจกันมากขึ้น


เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันจะเดินหน้าการแก้ไขมาตรา 112 ตามที่หาเสียงไว้กับประชาชนใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า "ครับ สัญญากับประชาชนไว้ ยังไงก็ต้องทำ"


เมื่อถามว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าจะสามารถได้รับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีผ่านตั้งแต่ครั้งแรก นายพิธา กล่าวว่า คิดว่าพยายามเต็มที่ที่สุด


ทั้งนี้หากไม่ผ่านในครั้งแรกคิดว่าจะให้โอกาสตัวเองกี่ครั้ง นายพิธา กล่าวว่า ตรงนี้ ต้องยึดความคิดของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเท่าที่ฟังนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ก็พูดชัดเจนว่าตอนนี้ยังไม่มีแผนสอง ดังนั้นก็จะโฟกัสเต็มที่ในวันที่ 13 กรกฎาคม


เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าต้องได้รับโอกาสอีกหากไม่ผ่านครั้งแรก นายพิธา ระบุว่า "ให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ พร้อมยกตัวอย่างประธานสภาสหรัฐที่โหวตมากถึง 15 ครั้ง แต่ตนไม่ได้บอกว่าจะมากน้อย หรือตัวเลขควรจะเป็นเท่าไหร่ แต่ในมุมมองของตนมองว่าควรจะยึดมติของประชาชนเป็นหลัก ถ้าประชาชนไม่ถอย ผมก็ไม่ถอย"


ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า มาโคราชจะขอพรอะไรจากย่าโม นายพิธา บอกว่า ขอให้ภัยแล้งไม่หนักมาก เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้ขอให้ตนเองเป็นนายกฯหรอ นายพิธา กล่าวว่า ไม่หรอกครับ ต้องเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ขอให้โคราชผ่านภัยแล้ง และการท่องเที่ยวดีขึ้น



https://youtu.be/SnSW5XHuKPE

คุณอาจสนใจ

Related News