บันเทิง

จบไม่สวย ‘เอ้ ชุติมา - ฟร้อง ศุภกิจ’ อดีตคู่รักแฉลากไส้ เคลียร์ปมไม่ผ่อนบ้าน-รถหรูต่อ

โดย chutikan_o

4 ก.ค. 2566

317 views

ประเด็นร้อนเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) กับการแฉลากไส้ของอดีตคนรัก ‘เอ้ ชุติมา’ กับอดีตแฟนเด็ก ‘ฟร้อง ศุภกิจ’ ที่ก่อนหน้านี้ฟร้องไปร้องขอความเป็นธรรมกับเพจสายไหมต้องรอด บอกว่าถูกอดีตแฟนรุ่นพี่ เอ้ ชุติมา ที่เลิกรากันไปแล้ว กลั่นแกล้งด้วยการไม่ยอมจ่ายเงินค่าผ่อนบ้านและรถ จนถูกไฟแนนซ์เตรียมยึด ทำให้เสียเครดิต เพราะทั้งบ้านและรถเป็นชื่อของฟร้อง และเอ้ก็สัญญาว่าจะเป็นคนจ่ายค่างวดเองทั้งหมด และหลังจากจ่ายหมดแล้ว ก็จะโอนชื่อให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเอ้

ทั้งคู่มาเจอหน้ากันเป็นครั้งแรกในรายการโหนกระแส ก็ได้เล่าตั้งแต่จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ว่า เอ้กับฟร้องคบกันมา 6 ปีกว่า (ตั้งแต่ฟร้องอายุ 19 ปี) และได้เลิกกันไปเมื่อ 8 เดือนก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่เช่าคอนโดอยู่ด้วยกัน จนเมื่อช่วงโควิดที่ผ่านมา ฟร้องก็ปรึกษากับเอ้ว่าซื้อบ้านกันไหม ก็ตั้งใจว่าจะอยู่ด้วยกันยาวๆ ก็เลยตัดสินใจไปซื้อบ้านกันในราคา 4.2 ล้านบาท โดยซื้อเป็นชื่อของฟร้อง แต่เอ้เป็นคนจ่ายเงินเองทั้งหมด ทั้งเงินดาวน์และผ่อนค่างวดรายเดือน ซึ่งเอ้บอกว่าสาเหตุที่ใช้ชื่อฟร้อง เพราะน้องอายุน้อยกว่า เวลาผ่อนจะได้ถูกลง ไม่ได้เกี่ยวว่าเอ้มีเครดิตไม่ดี และอยากให้น้องได้มีทรัพย์สินเป็นของตัวเองด้วย ซึ่งเอ้ก็ผ่อนมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว

ส่วนเรื่องรถ ฟร้อง บอกว่า จริงๆ ที่บ้านซื้อรถมาสด้าให้ 1 คันแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ไปปรึกษากับเอ้ว่าจะเอารถยุโรปไหม เวลาขับไปกองถ่ายหรือไปถ่ายรายการ จะได้ดูดีหน่อย ก็เลยตัดสินใจซื้อรถ BMW ราคา 1.08 ล้านบาท เอ้ก็ใช้เงินดาวน์ 2 แสนกว่าบาท และใช้ชื่อฟร้องเป็นผู้ครอบครองรถ

เอ้ บอกว่า นอกจากค่าผ่อนบ้าน 20,000 ค่าผ่อนรถ 20,000 ที่ตัวเองต้องจ่ายในแต่ละเดือนแล้ว ก็ยังต้องส่งเสียเรื่องค่าเรียนให้ฟร้องด้วย ซึ่งตอนนี้ส่งมา 6 ปีแล้ว ฟร้องก็ยังเรียนไม่จบ

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้น ฟร้อง บอกว่า เกิดจากที่เอ้เอารถ BMW ไป แล้วไม่ยอมผ่อนต่อ ส่วนบ้าน หลังจากเลิกกันไป เอ้ก็ไม่ผ่อนต่อ ทำให้เสียเครดิต ขณะที่เอ้ก็สวนกลับว่า สาเหตุที่ออกจากบ้านหลังนั้นและไม่ผ่อนต่อ เพราะทนพฤติกรรมของฟร้องไม่ไหว ก็เลยขอเลิก และออกจากบ้านไปเลย 3 เดือน โดยที่ไม่กลับไปบ้านหลังนั้นเลย ปล่อยให้ฟร้องอยู่ที่บ้านหลังนั้นต่อ แต่ก็ยังจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟอยู่ ก่อนที่แม่ของฟร้อง จะสวนด่าเอ้ขึ้นมาว่า อย่าสะตอ เพราะเอ้เป็นคนไล่ฟร้องออกจากบ้านเอง พร้อมปรบมือให้เอ้กับการเป็นนักแสดง ซึ่งเอ้ก็ตอบกลับแม่ฟร้องนิ่งๆ ว่า บางอย่างชีวิตจริงก็ไม่ใช่ละคร ไม่จำเป็นต้องแสดงตลอดก็ได้

หลังจากที่ผ่านไป 3 เดือน เอ้กลับไปที่บ้าน ก็พบว่าฟร้องไม่ได้อยู่ที่บ้านแล้ว ก็เลยถามเขาว่า ในเมื่อจะเอาบ้าน เอ้ก็จะไม่ผ่อนแล้ว เอ้จะออกจากบ้าน และขอเวลา 60 วันในการย้ายของและหาที่อยู่ใหม่ แต่ทางแม่ฟร้อง ก็มาสั่งให้ย้ายออกภายใน 30 วัน และเอาไปได้แค่เสื้อผ้าอย่างเดียว อย่างอื่นไม่ให้ย้าย ซึ่งแม่ฟร้อง ก็ยอมรับว่าเป็นคนบอกจริง เพราะตอนเลิกกัน เอ้ผ่อนแค่เดือนเดียว หลังจากนั้นผ่านไป 3-4 เดือนก็ไม่ผ่อน ‘หนุ่ม กรรชัย’ ก็เลยถามกลับว่า แล้วฝั่งแม่ผ่อนไหม แม่ก็บอกว่าไม่ได้ผ่อนเหมือนกัน เพราะตั้งใจจะให้ธนาคารยึดไปเลย ซึ่งตอนนี้บ้านหลังดังกล่าวก็ถูกธนาคารยึดไปเรียบร้อยแล้ว

ส่วนเรื่องรถ เอ้ บอกว่า ไม่ได้อยากได้อยู่แล้ว เพราะขับรถไม่เป็น ที่ซื้อคันนี้เพราะเป็นรถที่ฟร้องอยากได้ และเขาก็เป็นคนพาไปซื้อที่ศูนย์รถมือสอง ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่เพราะกำลังยุ่งเรื่องย้ายออกจากบ้าน และมันก็ต้องมีระยะเวลาในการคืน ซึ่งตอนนี้รถก็อยู่ที่ สภ.คลองหลวงแล้ว เพราะฟร้องไปแจ้งความเอ้ ในข้อหายักยอกทรัพย์

หลังจากนั้น เอ้ก็แฉฟร้องว่า สาเหตุที่ไม่ยอมผ่อนรถต่อ ก็เป็นเพราะว่าฟร้องเอารถไปรีไฟแนนซ์ แล้วเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ก็เลยคิดว่าถ้าผ่อนต่อ ก็ไม่รู้เมื่อไหร่จะผ่อนหมด พร้อมบอกว่าเงินที่ได้มาจากการทำงานทั้งหมด โอนเข้าบัญชีฟร้อง ให้ฟร้องเป็นคนดูแลทั้งหมด และให้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วย จนเอ้แทบไม่มีเงินติดตัวเลย และมารู้ทีหลังว่า ฟร้องโอนเงินให้คนปั่นบาคาร่า (พนันออนไลน์) หมดไป 8.4 แสนบาท พร้อมกับได้โชว์หลักฐานเป็นสลิปที่ฟร้องโอนเงินให้คนปั่นบาคาร่าด้วย

ฟร้องก็ชี้แจงว่า ตัวเองโดนหลอก เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงหลังโควิด แล้วพี่เอ้ไม่มีงานเลย ฟร้องก็อยากหาเงินช่วยพี่เอ้ แต่สุดท้ายก็โดนโกง หลังจากนั้นแม่ฟร้องก็แฉเอ้กลับว่า เอ้ก็เล่นรูเล็ต เล่นพนันออนไลน์ เล่นหวยกับแม่ และยังติดหนี้แม่ด้วย

หลังจากนั้น หนุ่ม กรรชัย ก็ถามถึงสาเหตุการณ์เลิกกัน แม่ฟร้องสวนทันทีว่า เขาไม่มีตังค์ไง เขาหมดตัว มันไม่มีตังค์ เอ้ก็พูดต่อทันทีว่า พอไม่มีเงินก็ไม่มีค่าหรอกค่ะ

หลังจบจากรายการโหนกระแส เอ้และฟร้องก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออีกครั้ง ฟร้องกับคุณแม่ลงมาก่อน ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ยังสงสัยเรื่องที่เอ้ไม่ยอมคืนรถให้ ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามตามจากเพื่อนพี่เอ้ทุกคน จนไม่รู้จะตามยังไงแล้ว เพราะอยากได้รถคืน จนต้องไปร้องเรียนที่เพจ ซึ่งสิ่งที่ต้องการจากพี่เอ้ตอนนี้คือ อยากให้เขารับผิดชอบค่างวดที่ค้างอยู่ 3-4 เดือน (ประมาณ 80,000 บาท) ให้เรียบร้อย จะเอารถมาคืนโดยที่ยังค้างค่างวดอยู่ไม่ได้ และบอกว่าจริงๆ ได้ตกลงกับพี่เอ้ ตั้งแต่ตอนซื้อรถตอนแรกแล้วว่า ถ้าวันนึงต้องเลิกกัน ฟร้องไม่เอาทั้งบ้าน ไม่เอาทั้งรถ เพราะมีทั้งบ้านและรถอยู่ที่กาญจนบุรีแล้ว เวลาเลิกกันก็อยากให้พี่เอ้ มีรถ มีบ้าน มีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเรื่องราวมันกลับกัน ซึ่งก็แล้วแต่คนจะเชื่อ เพราะฟร้องก็เป็นแค่เด็กซื่อๆ ต่างจังหวัดที่หลงคารม

ขณะที่แม่ฟร้อง บอกว่า ที่เลิกกัน เพราะเอ้ไม่มีเงินจริงๆ ซึ่งเธอรู้ปัญหามาตลอด เพราะเอ้มาขอยืมเงินแม่ และฟร้องก็มาบอกแม่ว่า พี่เอ้ไม่มีงาน เงินหมุนไม่ทัน ขณะที่ฟร้องยืนยันว่า ไม่ได้ทิ้งเอ้ ยังรออยู่ที่บ้านตลอด แต่พี่เอ้ต่างหากที่เป็นฝ่ายทิ้งเขา หนีไปกับลูกบุญธรรม ฟร้องยืนยันไม่มีมือที่สาม โดยสาเหตุที่แตกหักกัน เกิดจากมีวันนึงมีปากเสียงกับเอ้ เรื่องที่ลูกบุญธรรมของเอ้ พาเพื่อนมาที่บ้าน และพูดกันว่า ฟร้องเอาผู้หญิงที่มหาลัยขึ้นรถ ฟร้องก็พยายามอธิบายว่าไม่ใช่ หลังจากนั้นก็ยื่นคำขาดให้เอ้เลือกว่า จะเลือกลูกบุญธรรมหรือตัวเอง ถ้าลูกบุญธรรมอยู่ที่บ้าน ฟร้องก็จะไม่อยู่ และยืนยันว่าไม่ได้เลิกกันเพราะพี่เอ้หมดตัว

ขณะที่ เอ้ ชุติมา ก็ได้มาให้สัมภาษณ์กับสื่อบอกถึงเหตุผลที่ไม่ผ่อนบ้าน ผ่อนรถต่อว่า ถ้าเอาตามหลักความเป็นจริง เวลาเลิกกับแฟน เรายังจำเป็นต้องผ่อนต่อไหม เพราะเอ้ก็ดูแลเขามาทั้งชีวิตแล้ว สาเหตุที่เลิกก็มีที่มาที่ไปว่า เขาไม่ได้มีเราคนเดียว น้องเที่ยวทุกอย่าง มีเรื่องผู้หญิงด้วย เคยจับได้ แล้วก็เคยไปปราบมาแล้วที่ลานเบียร์กาญจนบุรี ส่วนที่เขาบอกให้เลือกระหว่างเขากับลูกบุญธรรม เอ้ก็บอกว่ามันเลือกไม่ได้ เพราะลูกบุญธรรมอยู่ดูแลเอ้ยามเจ็บป่วย เพราะเวลาเอ้เป็นอะไร ฟร้องไม่ค่อยอยู่ แต่กับฟร้องก็รักในฐานะแฟน

เอ้ บอกอีกว่า ที่ให้บ้านและรถเป็นชื่อเขา เพราะอยากให้เขามีชีวิตที่ดี ก็เลยดาวน์ให้ ผ่อนให้ด้วย ส่งเรียนด้วย ดูแลตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนลูก เหมือนแฟน เหมือนสามี คืออยู่กันเป็นครอบครัว ก็ไม่คิดว่าสิ่งที่ให้ไป จะกลับมาทำร้ายกันในวันนี้ เอ้ไม่ได้เสียดายเงิน แต่เสียดายความรู้สึก เจ็บทั้งใจ เจ็บทั้งกาย เสียเงิน เสียความรู้สึก เสียทุกอย่าง รู้อยู่แล้วว่าวันนึงเด็กก็ต้องไป เพราะเขายังเด็ก แต่ตัวเองอายุมากกว่า แต่การจะจากไป ก็ไม่ใช่การลุกขึ้นมาฟ้องร้องหรือทำให้เอ้ต้องเป็นข่าวแบบนี้

ส่วนที่แม่ฟร้องบอกว่า เลิกกันเพราะเอ้เงินหมด เอ้ บอกว่า เธอยังมีงานเยอะมาก ยังมีพรีเซ็นเตอร์ ยังมีละคร ยังมีคอนเสิร์ต ซึ่งเงินทั้งหมดของเอ้ก็ยังอยู่ที่ลูกเขา นอกจากจะเลี้ยงลูกเขาแล้ว ก็ยังเลี้ยงครอบครัวเขาด้วย แต่เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เลิกกันแล้ว เขาไม่คืนเงินก็ไม่เป็นไร มันเป็นชื่อเขา เป็นสิทธิ์ของเขา

ถามว่าทำไมถึงไว้ใจให้เขาดูแลเงินทั้งหมด เอ้ บอกว่า เธอเป็นคนเก็บเงินไม่อยู่ ก็เลยให้น้องคอยดูแลการเงินให้ เอ้ดูแลเขาด้วยหัวใจ แต่กลับต้องมาเจอแบบนี้ เหมือนชาวนากับงูเห่า มันเจ็บปวด ตอนนี้เลยทำให้ไม่กล้ามีแฟนอีกเลย ส่วนเรื่องจะฟ้องเขากลับหรือไม่ ต้องไปดูหลักฐานก่อนว่ามีหลักฐานแค่ไหน และตั้งใจจะเอาให้สุด เพราะชื่อเสียงของเอ้ไม่ได้สร้างมาแค่วันเดียว และถ้าเขาไม่ออกมาร้องกับเพจสายไหมต้องรอด เอ้ก็คงไม่ออกมาแฉอะไรด้วยซ้ำ ซึ่งหลังจากนี้ยังมีอะไรให้แฉอีกเยอะ

หลังจากจบสัมภาษณ์ เอ้ก็ได้โชว์ร้องเพลง “สำนึกบุญคุณ” ซึ่งเป็นเพลงที่เอ้บอกว่า อยากร้องบนคอนเสิร์ต THE TIME MACHINE เมื่อวันเสาร์ที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ร้อง ก็เลยมาร้องให้นักข่าวฟังหลังจบสัมภาษณ์

โซเซียลงง ‘แม่หมู พิมพ์ผกา’ อันฟอลโลว์ไอจี ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ และ ‘นาย ณภัทร’



อยู่ๆ ก็เป็นประเด็นถูกพูดถึงกันในโลกโซเซียล หลังจากเพจเจ๊มอย 108 ได้โพสต์ภาพที่หาชื่อไอจี ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ จากไอจีของ ‘แม่หมู พิมพ์กา’ แม่ของ ‘นาย ณภัทร’ แล้วไม่พบว่ามีการติดตามกันอยู่

เจ๊มอยก็โพสต์ว่า “สาเหตุที่แม่หมูอันฟอล ‘ใบเฟิร์น’ เพราะเขาอยากได้กูเป็นลูกสะใภ้ค่ะ จบ” เท่านั้นแหละ ทำเอาโซเซียลร้อนขึ้นมาทันที

และเข้าไปดูในไอจีของแม่หมู ก็พบว่ารูปที่แม่หมูและใบเฟิร์นร่วมเฟรมกัน ก็หายเกลี้ยงจากอินสตาแกรมด้วย ขณะที่ไอจีแม่หมูก็ได้เลิกติกตามไอจีของนายด้วย

ล่าสุด ทางข่าวสดได้โทรศัพท์ไปสอบถามแม่หมูถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “ไม่ได้อันฟอลฯ นะ คือบางทีไอจีมันไปกดอะไรแม่ก็ไม่รู้ แม่มีน้องผู้ช่วยคนหนึ่งก็ให้เขาช่วยดูช่วยตรวจ แต่วันนี้ไม่ได้มา เขาจะมาหาแม่ทุกวันอาทิตย์ อย่างเมื่อวานก็อยู่ด้วยกัน”

ส่วนที่รูปของน้องใบเฟิร์นที่คุณแม่โพสต์อวยพรวันเกิดเมื่อปีที่แล้วก็หายไปนั้น แม่หมู บอกว่า “เดี๋ยวไปดูค่ะ เดี๋ยวแม่ไปดู คือบางทีแม่ลงไอจีก็ไปโพสต์เฟซบุ๊กคือจริงๆ ไม่อยากจะให้คนในเฟซบุ๊กเห็น มันก็ไปโผล่ คือจะเห็นว่าบางทีแม่ลงอะไรไม่รู้ติดๆ กันสองสามครั้ง แม่ก็คือกำลังงงกับระบบ”

นักข่าวถามว่าตอนนี้มีคนตีความไปแล้วว่าคุณแม่มีปัญหากับน้องใบเฟิร์น อยากจะบอกอะไรไหม แม่หมู ตอบว่า “คือคนเป็นแม่ก็ทำได้แค่อยู่เฉยๆ ทำอะไรไม่ได้หรอก”

ในเรื่องของการมีปัญหา แม่หมูยืนยันว่า “ไม่ค่ะ ไม่มีปัญหา แม่ก็ทำหน้าที่ได้แค่อยู่เฉยๆ นิ่งๆ ไม่สามารถพูดอะไรได้”

ขณะที่ ในไอจีของนาย ก็พบว่าไม่ได้ติดตามไอจีของแม่หมู ส่วนใบเฟิร์นยังกดติดตามไอจีคุณแม่อยู่ ซึ่งวานนี้ (3 ก.ค.) นายและใบเฟิร์นก็ได้ลงสตอรี่ไอจีไปทานปิ้งย่างด้วยกัน ด้านแม่หมูลงสตอรี่ ทานข้าวอยู่บ้านคนเดียว

คุณอาจสนใจ

Related News