'พิธา' เชื่อ 'เพื่อไทย' ไม่มีเงื่อนไขต่อรอง ย้ำฉากทัศน์เดียวคือเป็นนายกฯ แจงลงพื้นที่ ปัดเล่นเกมปลุกมวลชน

'พิธา' ยืนยัน ประธานยังอยู่ระหว่างเจรจา ขอรอแถลงอย่างเป็นทางการ เชื่อ 'เพื่อไทย' ไม่มีเงื่อนไขต่อรองยังมีฉากทัศน์เดียวคือพิธา เป็นนายกฯ ระบุ ลงพื้นที่ 2 วันนี้ไม่ได้เป็นการปลุกมวลชน ยังไม่เห็นกระแสข่าว 'บิ๊กป้อม' เป็นนายกฯ คนที่ 30 เชื่อประชาชนคงไม่ยอม

เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ให้สัมภาษณ์ที่วัดใหญ่ถึงความชัดเจนเรื่องตำแหน่งประธานสภาที่มีการหารือกับพรรคเพื่อไทย ว่า ความชัดเจนเรื่องการเจรจากับพรรคเพื่อไทย ยังดีขึ้นเรื่อยๆ และยังเจรจาอยู่ ซึ่งต้องรอวันที่ประชุมและประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และเช้าวานนี้ (30 มิ.ย.) ทางนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกลได้แถลงตามที่ได้พูดคุยกันในพรรค และตนได้เห็นนายแพทย์ชลน่านศรีแก้ว และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคตดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยพูด ถ้าอ่านจากสามคนนี้ ทุกคนก็พูดตรงกันว่าการเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี ก็คงต้องรอผลการเจรจา

ขณะเดียวกันที่มีข่าวออกมา ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้ พวกเราต้องฟังแต่ยังไม่เชื่อ และตนเองได้เช็คสื่อไปจากหลายสำนัก ทุกคนเขียนว่าจากแหล่งข่าว ดังนั้นแหล่งข่าวคือใคร เมื่อตนเห็นปุ๊ป ก็เห็นด้วยกับทางเลขาฯ ชัยธวัช ที่ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อเช้า ซึ่งไม่เชื่อว่าเพื่อไทยจะมีเงื่อนไขออกมาแบบนั้น และเป็นไปตามที่ หมอชลน่าน และคุณเศรษฐาพูด มีฉากทัศน์เดียว คือฉากทัศน์ที่เราจะไปต่อด้วยกันและตนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีตามเจตจำนงค์ของพี่น้องประชาชน

ส่วนจะมีโอกาสเป็นไปตามที่แหล่งข่าวได้พูดไว้ หรือไม่นั้น นายพิธา บอกว่า มีอยู่ฉากทัศน์เดียวคือ พิธาเป็นนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเลือกมา จ.พิษณุโลก เพื่อเป็นการยืนยันอย่างชัดเจนหรือไม่ว่า นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ต้องได้เป็นประธานสภา นายพิธา ตอบว่า ทางพรรคได้ยืนยันไปแล้วเมื่อ 2 วันก่อนทางเฟซบุ๊กว่านายปดิพัทธ์ เป็นแคนดิเดตประธานสภา ไม่ต้องลงพื้นที่ก็ได้ยืนยันไปแล้ว คงไม่เกี่ยวกัน

ส่วนประเด็นที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ จะจบวันนี้ (1 ก.ค.) หรือไม่ เชื่อว่าจบได้ด้วยดีในเวลาที่ต้องจบในลักษณะที่ว่าต้องให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ ปกติแล้วรับรองแล้วสภารับรองแล้ว ก็จะมีรัฐทำพิธีวันที่ 3ก.ค. เลือกประธานสภาวันที่ 4 ก.ค. และวันที่ 14-15 ก.ค.ก็คงจะเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นมีขั้นมีตอนก็คงค่อยเป็นค่อยไป อย่างที่นายเศรษฐา ทวีสิน แกนนำพรรคเพื่อไทยพูดก็ถูกแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า ที่เลือกลงพื้นที่เมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) และวันนี้ (1 ก.ค.) ที่จังหวัดขอนแก่นเป็นการเล่นเกมมวลชลหรือไม่ หากไม่เป็นไปตามฉากทัศน์ที่วางไว้จะปลุกมวลชนหรือไม่ นายพิธา ตอบว่า ไม่เลย เพราะถ้าไม่ลงช่วงนี้ มีประชุมสภาแล้วจะลงพื้นที่ได้ยาก และ 1 เดือนที่ผ่านมา ประชาชนอาจจะคิดว่าไปจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ ซึ่งพิษณุโลกก็เลือกตั้งได้คะแนนมาเยอะทำไมไม่มา จึงใช้โอกาสนี้ขอโทษประชาชน และถ้าดูบัญชีรายชื่อก็จะมี 50 ถึง 60 จังหวัดที่ได้คะแนน ทั้งนีเจะพยายามไปให้ครบทุกพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาไปด้วยหากเข้าสู่ตำแหน่งจะได้เห็นภาพจริงๆ กระบวนการจริงๆ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีแหล่งข่าวพรรคพลังประชารัฐระบุว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 มีการหารือกันอย่างไรบ้าง นายพิธา ระบุว่า ตนยังไม่ได้เห็นข่าว แต่หากเป็นเรื่องจริง ก็เป็นเรื่องที่ตรงกันข้ามกับตอนดีเบตว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้ ทั้งฝืนมติของประชาชน และทั้งการบริหารจัดการไม่ได้ด้วย ส่วนที่บอกว่าจะยื้อเวลา หรือจะทำให้เสาวภาแตก หรือมีงูเห่า ตนเชื่อว่า ประชาชนคงยอมไม่ได้จากภาพที่ลงพื้นที่มาโดยตลอดทุกคนต้องการที่จะก้าวไปข้างหน้าแล้วจริงๆ และอยากที่จะอยู่ข้างอนาคต

ส่วนเสียง ส.ว.ยังมั่นใจเหมือนเดิมหรือไม่ จะถูกดักทางว่า เพื่อไทยจะได้ความเห็นชอบมากกว่าหรือไม่นั้น นายพิธา ระบุว่า สว.ยังมีความมั่นใจขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ นายพิธา ระบุว่า พื้นที่จังหวัดพิษณุโลกเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่พรรคก้าวไกลหวังไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขตของนายปดิพัทธ์ ซึ่งหวังว่าจะรักษาเขตเดิมและเพิ่มเติมเขตใหม่ ซึ่งพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกมีคะแนนเพิ่มขึ้น 88.5% วันนี้จึงมาให้คำมั่นสัญญาว่าแม้จะไม่ได้ ส.ส.เขต ก็จะทำงานให้มากกว่าเดิม แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง ปัญหาแผ่นดินไหวที่เพิ่งเกิดขึ้น ดังนั้นเรื่องภัยพิบัติก็เป็นเรื่องที่เข้าใจดีว่าพี่น้องชาวพิษณุโลกประสบพบเจอมาอย่างไร ก็จะไปแก้ปัญหาตรงนี้

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/6So7saV_XXM