'อ.เฉลิมชัย-รองโฆษกรบ.-สนธิญา' ดาหน้าฉะ ร้องสอบ 'โน้ส อุดม' - 'พิธา' ชวนสังคมตั้งสติ

'อ.เฉลิมชัย' จวก 'โน้ส อุดม' อย่าพาดพิงศิลปินแห่งชาติ - 'คารม' รองโฆษกรัฐบาล ฉะอย่าเอาคำว่าพอเพียงมาหากิน บอกอย่าเอาความไม่รู้หรือความโง่ มาทำให้คนอื่นโง่ตามไปด้วย - 'สนธิญา' ร้องตรวจสอบปมพูดพอเพียง - 'พิธา' ชวนสังคมตั้งสติ บอกเท่าที่ทราบไม่เห็นพูดเศรษฐกิจพอเพียง


เมื่อวันที่ 7 พ.ค.67 เฟซบุ๊ก นรินทร ทามาส ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสนิทของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ โพสต์ขณะที่อาจารย์เฉลิมชัยท่องเที่ยวอยู่ที่ประเทศจอร์เจีย ระบุว่า “ท่านอาจารย์ฝากถึง พี่โน้ส อุดม”


จากคลิป อาจารย์เฉลิมชัย บอกว่า ฝากถึงไอ้โน้สหน่อย พี่บอกมึงเลยนะว่า ที่พูด ส่วนตัวไม่ได้หิวแสงติดตามนะ แต่ว่าขับรถท่องเที่ยวอยู่ที่ประเทศจอร์เจีย พอฟังแล้วมีการพาดพิงถึงศิลปินแห่งชาติ คือ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งตัวเองก็เป็นศิลปินแห่งชาติ จึงขอบอกว่าจะพูดสิ่งใดก็ได้แต่อย่าเอ่ยอ้างถึงพวกกู


มึงเข้าใจมั้ย และอย่ามาบอกว่า เด็กเก่งกว่ากู กูยอมรับว่าเด็กมันเก่งกว่ากู มันหาเงินได้ 100 ล้าน ได้ภายในวันสองวัน มันก็เก่ง ก็ดีแล้วไง เหมือนกูมึงรู้ไหมสมัยกูเป็นเด็ก กูหาเงินง่ายกว่าทุกคน กูดัง ส่วนพี่หวันก็เหมือนกัน


อาจารย์เฉลิมชัย บอกต่อว่า มึงเข้าใจไหมทางเดินทุกวันนี้กูได้ดิบได้ดีมา เพราะพี่หวัน เพราะรุ่นเก่ารุ่นแก่ ครูบาอาจารย์ รุ่นพี่กูทุกคนในวงการศิลปะในวงการถากถางหญ้ามาให้กู กูถึงได้มีทุกวันนี้ แล้วให้ถามคนรุ่นใหม่ที่เติบโตกันขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จว่าหากไม่มีพวกตนถากถางเส้นทางให้ จะหาเงินได้วันละ 200 ล้านเหรอ


มึงต้องคิด ส่วนตัว ยกย่องเด็กเสมอ ไม่เคยรังเกียจเด็กเลย คิดว่าเด็กคือความเจริญของชาติ เด็กเก่ง ๆ ดังนั้นเด็กเก่งมีมากเท่าไหร่บ้านเมืองเราก็เจริญเท่านั้น มึงเข้าใจมั้ย อย่ามาบูลลี่คนแก่ ที่เป็นศิลปินแห่งชาติ จะพูดเรื่องใดก็ได้แต่อย่าพูดถึงศิลปินแห่งชาติ


ก่อนจะทิ้งท้ายว่า มึงดูถูกพวกกูไอ้ห่า กูถากถางหญ้าให้มึง กูไม่เคยดูถูกรุ่นพี่กูทั้งหมด ครูบาอาจารย์รุ่นเก่า กูเคารพเขาทั้งหมดเพราะเขาถากถางให้กู มึงเข้าใจไหม กูเดินตามเขา พูดเหี้ย ปากหมาเรื่อยมึง ไอ้สัส ไอ้น้องส้นตีน


ด้าน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พรรคภูมิใจไทย) กล่าวว่า ตนไม่รู้จักคุณโน้ส อุดม เป็นการส่วนตัว และไม่ได้ติดตาม ไม่ได้เป็นแฟนคลับ แต่นาน ๆ ก็พอได้ดูบ้าง


ก่อนจะเล่าว่า ตัวเองเป็นคนอีสาน เป็นคนชนบท เป็นคน จ.ร้อยเอ็ด และเพิ่งกลับจากร้อยเอ็ด เพราะลงพื้นที่ติดตามนายกรัฐมนตรีในฐานะรองโฆษกรัฐบาล ซึ่งได้เห็นว่าสังคมชนบทนั้น แม้เขาไม่ร่ำรวยมาก ถ้าเขาไม่มีหนี้มากเกินกำลัง ไม่มีหนี้รัดตัว ไม่ใช่มีรถ 1 คัน แล้วอยากได้ 2-3 คัน มีที่ทำกิน มีน้ำเพื่อทำเกษตร มีความอบอุ่นในครอบครัว อยู่ในสังคมเอื้ออาทรช่วยเหลือและดูแลกัน แค่นี้สังคมไทยก็อยู่ได้แล้ว และเป็นสังคมที่น่าอยู่ ทั้งหมดนี้คือความพอเพียง ซึ่งที่คุณโน้ส อุดม พูดมาทั้งหมด ไม่ใช่ประเด็นนี้เลย แต่จากการที่อ่านเจอ กลับกลายเป็นว่าเขาไปอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่จริง อยู่ไม่ได้ ตนมองว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของคุณโน้ส


ทั้งนี้ การที่คุณโน้ส เอาเรื่องพอเพียงมาพูดต่อยอด แล้วให้คนสนใจ หรือเอาความพอเพียงมาพูดเพื่อให้ติดตามเวทีของตัวเอง ส่วนตัวไม่เข้าใจเจตนา แต่ที่แน่ ๆ การที่คุณเป็นคนดัง และตนยังเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอยู่ เวลาพูดอะไรเราต้องระมัดระวัง เพราะเราเป็นบุคคลสธารณะ เวลาพูดอะไรผิดยังต้องแก้ไข แต่นี่คุณพูดมีผลเยอะมาก อย่างน้อยเรื่องความพอเพียงเป็นหลักการของในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่ตนไม่แน่ใจว่าที่พูดออกมาใช่เรื่องนี้หรือไม่ แต่หากไม่ใช่ ก็ต้องบอกมาว่าไม่ใช่ ไม่ได้อ้างอิงถึง แต่นี่มองว่าเป็นการพูดที่คลุมเครือ พูดให้คนคิดได้ คนที่เห็นตรงข้ามเขาคิดได้ แม้แต่ตนเองที่เป็นนักการเมืองมานาน ยังเห็นเลยว่า ณ ปัจจุบัน นับตั้งแต่อดีตมา ความพอเพียงเป็นเรื่องที่จะให้สังคมอยู่รอด ความพอเพียงจะทำให้สังคมไม่เอารัดเอาปรียบกัน ความพอเพียงจะทำให้คนที่มีเยอะเกิดความแบ่งปัน และคืนให้สังคม


ดังนั้นตนขอถามกลับไปที่คุณโน้ส อุดม ว่า คุณได้ทำอย่างนั้นอยู่หรือไม่ เพราะการพูดแต่ละครั้งก็มีทั้งการจ่ายค่าบัตรแพง ๆ แล้วตัวคุณเองก็ได้เงินไป แต่หากมองว่าเป็นธุรกิจ เราก็เคารพเรื่องนี้ แต่ทำไมมาพูดแบบนี้ การที่มาพูดแบบนี้ในสังคมที่เห็นต่างกัน ไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีประโยชน์อย่างเดียวคือทำให้สังคมเกิดความแตกแยก ขณะเดียวกันที่โลกของเรามีปัญหาอยู่ทุกวันนี้ เพราะสังคมขาดความพอเพียง ขาดความพอดี ไม่แบ่งปัน และเห็นแก่ตัว โลภโมโทสัน ทั้งนั้น


นายคารม ยังระบุว่า ส่วนตัวไม่เคยฟังการพูดของโน้ส อุดม เพราะคิดว่าไม่ได้เป็นประโยชน์กับชีวิต แต่ส่วนตัวเคารพในความเป็นนักพูดทั้งหลาย และเคารพอาชีพตลกที่สร้างสรรค์ ตลกดี ๆ ซึ่งมีอยู่หลายคน (นายคารมยกตัวอย่าง หม่ำ จ๊กมก) และเราก็ควรเคารพอาชีพทุกอาชีพที่ทำมาหากินสุจริต แต่ความหมายที่เขาพูดกันว่า “ตลกหากิน” ตนก็เพิ่งรู้ คือแบบที่คุณโน้ส อุดม ทำนี่เอง แถมไม่รู้กาลเทศะ และหลงตัวเอง ก่อนจะขยายความคำ ๆ นี้ว่า หากเราไม่แน่ใจในคำ ๆ นั้น หรือไม่เข้าใจในเรื่อง แล้วไปวิจารณ์ แบบนี้เขาเรียกว่าหลงตัวเองและไม่รู้กาลเทศะ


นายคารม ยังบอกว่า คุณโน้ส อุดม ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อคนอื่น แถมอาจสร้างความแตกแยกในสังคมได้ นายอุดมไม่รู้ว่าการอาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ ถึงได้มีที่พูด จริง ๆ แผ่นดินก็มีบุญคุณต่อท่านอยู่นะ และที่สำคัญคุณจะทำมาหากินอะไรก็ทำไป แต่อยู่เฉย ๆ มายกตนข่มท่าน ไม่น่าจะมีประโยชน์อะไร ทั้งที่ตัวเองไม่เข้าใจแก่นแท้อะไร ในเรื่องความพอเพียงหรือความพอดี ซึ่งหมายถึงคนมีเยอะก็แบ่งปัน ประกอบอาชีพไม่เบียดเบียนคนอื่น ซึ่งเป็นหลักศาสนาด้วยซ้ำไป


เมื่อถามว่ามีอะไรอยากเตือนหรืออยากสื่อสารถึงคุณโน้ส อุดม หรือไม่ นายคารม บอกว่า ขอแสดงความคิดเห็นแล้วกัน เพราะตัวเองไม่มีอำนาจไปเตือน ว่าการเป็นบุคคลสาธารณะ เราต้องระวังการแสดงความคิดเห็นเป็นพิเศษ อย่างคุณโน้ส อุดม การพูดเป็นการพูดเชิงธุรกิจ แต่ตนพูดในฐานะนักการเมือง กินเงินเดือนของประชาชน มันมองกันออก เพราะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง


ก่อนจะฝากเป็นข้อคิดไว้ว่า “มันไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่มาพูดแบบนี้ อีกอย่างเจตนาก็ดูยากมากว่าสื่อและส่อถึงอะไร หรือจะเชื่อมโยงอะไรกับอะไร แต่คนที่เขามองเขามองได้ แต่หากคุณจะบอกว่าพูดเพื่อยกตัวอย่างหรือแนวความคิดก็ต้องพูดให้ชัด ไม่ใช่พูดแบบนี้”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนแรกที่มีข่าวแจกมาถึงสื่อมวลชน นายคารม ฝากถึงคุณโน้ส อุดม ว่า อย่าเอาคำว่า พอเพียง มาหากิน ประเด็นนี้ นายคารม บอกกับนักข่าวในภายหลังว่า “ตนไม่รู้ว่าเอามาหากินหรือไม่ แต่เอาคำนี้ พูดในเวทีตัวเองที่คนเสียเงินเข้าไปฟัง มันกลายเป็นว่าเจตนาเพื่ออะไร สร้างให้ตัวเองได้ประโยชน์จากตรงนี้หรือไม่”


นายคารม ยังกล่าวว่า หากคุณโน้ส อุดม เข้าใจหลักการของคำว่า ความพอเพียง จริง จะรู้ว่าความพอเพียงนั้นไม่ใช่เรื่องสอนคนให้เกียจคร้าน แต่สอนให้คนแบ่งปัน คนที่รวยก็ควรแบ่งปันให้คนจน รู้จักพอดีพอควร นายอุดม อย่าเอาความไม่รู้หรือความโง่ มาทำให้คนอื่นโง่ตามไปด้วย เพราะหากสิ่งที่พูดออกมาไม่ถูกต้องมันก็จะผิด แล้วหากคนฟังไม่คิด วิเคราะห์ ก็จะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และถ้านายอุดมรวยจากการพูดก็ไม่มีใครอิจฉา แต่ถ้าเอาความรวยของคุณมาช่วยคนจนบ้าง ผมจะชื่นชมซึ่งตนชื่นชมทุกคนที่แบ่งปันอยู่แล้ว


ขณะที่ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร ได้มายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เพื่อให้ตรวจสอบ สอบสวนเพื่อหาความจริง กรณีที่ โน้ส อุดม แต้พานิช จัดรายการเดี่ยวสเปเชียลซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์ ที่ Netflix ที่มีผู้ติดตาม 91 ล้านคน นำเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงไปพูดโดยที่ไม่มีความถูกต้องในข้อมูลและนำลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์


โดยขอให้ตรวจว่า 1.นายอุดม พูดถึงเศรษฐกิจพอเพียง เกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยหรือไม่ 2.ข้อมูลที่นำมาเสนอ ตรงกับจุดประสงค์แห่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหรือบิดเบือนเพื่อความสนุกหรือไม่ และ 3.การนำข้อมูลที่เป็นเท็จหรือไม่ตรงกับความจริงหรือบิดเบือนบางส่วนลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดการเข้าใจผิดแห่งปรัชญาเศรษฐกิจ ต่อประชาชนทั่วไปหรือไม่


นายสนธิญา กล่าวว่า ตัวเองได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของมูลนิธิปิดทองหลังพระ มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบการพิจารณา และวินิจฉัยว่าการพูดเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงนั้นไม่ตรงกับความเป็นจริงและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน


"ขอให้เลิกเถอะครับ เอาเรื่องที่เป็นประโยชน์ไปแสดงหรือไปให้กับประชาชนในการที่จัดเดี่ยว เพราะที่ผ่านมามีปัญหาทุกครั้ง คุณโน้สก็หยิบเอาประเด็น การด้อยค่าสารพัดพูดบนเวที แล้วสร้างให้เกิดกระแส ครั้งนี้ผมก็เข้าใจว่าคุณโน้สเองก็พยายามจะสร้างกระแสตรงนั้น ในขณะที่กระแสของคุณโน้สเองก็ตกไปเรื่อย ๆ" นายสนธิญา กล่าว


นายสนธิญา ยังเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้พิจารณาว่าการพูดเกี่ยวกับความพอเพียง เกี่ยวพันไปถึงโครงการพระราชดำริด้วยหรือไม่ เพราะข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงไม่ตรงกับความเป็นจริง และกรณีที่พูดถึงบุคคลลงมาจากรถตู้ พอกหน้าพอกตาแล้วลงมาเกี่ยวข้าวหมายถึงบุคคลใด เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และโครงการนี้เป็นโครงการที่ประชาชนทั้งประเทศยอมรับ และกรณีที่นำความจริงบ้างไม่จริงบ้างไปลงระบบคอมพิวเตอร์ หรือผ่าน netflix มีผู้ติดตามกว่า 91 ล้านคน หากมีการสื่อสารตรงเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงก็จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์


ส่วนนายอุดม ออกมาชี้แจงว่าการเล่นมุกตลกโดยใช้หลักการตลาดนำนั้น นายสนธิญา กล่าวว่า มุกตลกของนายอุดมเป็นตรรกะอุบาทว์ คือด้อยค่าบุคคลหลาย ๆ คน และล่าสุดมาพูดถึงประเด็นพอเพียง หากพบว่าพาดพิงรวมไปถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องใหญ่ ตนจะไม่ยอม เพราะถือเป็นการเซาะกร่อนและให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงเรียกร้องไปยังนายอุดมไม่ว่าจะเป็นการด้อยค่าผู้อื่น แต่สิ่งที่นายอุดมได้คือเงิน ขณะที่บุคคลอื่นเสียหาย ซึ่งกรณีพูดเรื่องพอเพียงทำให้ประชาชนอาจเข้าใจไปในทางที่ไม่ถูกต้อง หากนายอุดมเป็นลูกผู้ชายจะต้องพูดให้ชัดเจน หากพาดพิงก็ต้องยอมรับสิ่งที่ตามมา


ขณะเดียวกันก็เห็นว่า นายอุดมไม่เคยออกมาพูดถึงการเคลื่อนไหวของแกนนำคณะก้าวหน้า หรือพรรคก้าวไกล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการพิสูจน์ว่าการกระทำของนายอุดมทำเพื่อประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศหรือทำเพื่อคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด หรือผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่ทำให้บุคคลอื่นเสียหาย หรือเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงคลาดเคลื่อน


นายสนธิญา ยังกล่าวอีกว่า มีเรื่องเป็นหมื่นเป็นแสนล้านเรื่องที่สามารถพูดได้บนเวทีโดยไม่จำเป็นต้องไปแตะต้องเศรษฐกิจพอเพียง หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดจะกระทำการใด เพราะเป็นสิทธิและเสรีภาพที่สามารถกระทำได้ แต่ในกรณีที่มีการไปด่าหรือด้อยค่าแล้วอาจจะมีการพาดพิงถึงเรื่องที่มีความอ่อนไหว จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่นายอุดมจะต้องตอบสังคมให้ชัดเจน หากนายอุดมชัดเจน ตนก็ชัดเจน ตนเรียกร้องในขณะที่เป็นลูกผู้ชายด้วยกัน


เมื่อถามว่าเมื่อยื่นเรื่องแล้วกังวลหรือไม่ หากถูกนายอุดมจะฟ้องกลับกรณีอาจทำให้เกิดความเสียหาย นายสนธิญา กล่าวว่า ตนมายื่นเพียงให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น และมีหลายคนออกมาต่อว่านายอุดม แม้จะมีบางคนเห็นด้วยก็เป็นเรื่องปกติของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และนายอุดมก็เป็นบุคคลสาธารณะ อีกทั้งนำเข้าสู่ระบบออนไลน์ ดังนั้นเป็นเรื่องของระบบสาธารณะที่จะต้องทวงถามกันได้ ส่วนจะฟ้องก็ฟ้องไป ซึ่งตนเคยทำในกรณีดารา call out มีการยื่นฟ้องตน แต่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง และตนจะฟ้องกลับ หากตนไม่ผิด


นายสนธิญา ยังกล่าวติดตลกว่า อย่าลืมนะครับผมมีหมายจับเกือบทุกอาทิตย์ ซึ่งผมก็ไม่ได้กลัวเพราะผมทำในเรื่องที่ถูกต้อง และอย่างอาทิตย์ที่แล้วศาลท่านก็ยกเลิกหมายจับผม ดังนั้นการทำงานเหล่านี้ผมทำงานเพื่อสังคม และสามารถตรวจสอบผมได้ตลอดเวลา ผมจึงไม่ได้กลัว และคุณจะฟ้องก็ฟ้องมา


ด้าน พ.ต.อ.ทิพากร กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะส่งเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไปตีความและตรวจสอบเนื้อหาว่ามีส่วนใดเสียหายหรือผิดพลาดบ้าง หลังจากนี้ก็จะส่งความคืบหน้ากลับไปให้ทราบ


ส่วน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส. บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ว่า อยากจะชวนสังคมตั้งสติ และมีวุฒิภาวะกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อดูทั้งบริบทที่เป็นประเด็นแล้ว โดยโน้ส อุดม บอกว่า อยากใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ได้ไปกาญจนบุรีเพื่อทำแพ พบว่ามันไม่ง่าย และหากฟังด้วยใจที่เป็นธรรม ก็จะเข้าใจว่าโน้ส อุดม ต้องการสื่อสารอะไร ตนอยากจะชวนสังคมตั้งสติ ดูบริบทก่อน ฟังด้วยกันทั้งหมดก็จะเห็นว่าเขาไม่ได้ต้องการที่จะสื่อสารที่จะทำให้คนไม่สบายใจอย่างที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนี้


เมื่อถามว่าการพูดถึงเรื่องนี้บนเวทีทอล์ก มีการพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 ด้วย มองว่า สามารถวิจารณ์ได้อย่างสุจริตในเวทีสาธารณะหรือไม่ นายพิธา ย้อนถามว่า เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ก่อนจะกล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ แต่ใช้คำที่คล้าย ๆ กัน ตนเข้าใจว่าโน้ส อุดม น่าจะหมายถึงความสโลว์ไลฟ์ที่เป็น Dilemma (ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก) ของคนกรุง ที่อยากจะไปใช้ชีวิต เท่าที่ได้ดูไม่เห็นว่ามีการพาดพิงไปถึงพระราชดำรัสของรัชกาลที่ 9


ส่วนประเด็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่มีการนำวลีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาใช้ว่า คนไทยมีกินมีใช้ เลิกตอ... นายพิธา กล่าวว่า ตนต้องชวนคนไทยตั้งสติ ดูบริบทของการเป็น Stand up comedy มันไม่ใช่การปราศรัย มันไม่ใช่วิชาการ ดูบริบทว่า Stand up comedy ของโน้ส อุดม ซึ่งเข้าใจว่าทำมาโดยตลอด เป็นเรื่องปกติที่จะดูว่าความอดทนอดกลั้นมีหรือไม่


นอกจากนี้ต้องเปรียบเทียบกับสากลโลก ที่เป็นระบบประชาธิปไตยที่อนุญาตให้มีความคิดสร้างสรรค์และอิสรภาพในการแสดงออก ตนคิดว่าเท่าที่ดูประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาโดนหนักกว่านี้พอสมควร เพราะฉะนั้นขอให้ช่วยกันตั้งสติและดูว่าเป็นบริบทอะไร ในอดีตเขาเคยทำแบบนี้มาก่อนหรือไม่ เมื่อคุณไม่จับจ้องประโยคใดประโยคหนึ่ง คำพูดใดคำพูดหนึ่ง แล้วมองภาพให้มากขึ้นอย่างมีสติและวุฒิภาวะ ตนก็คิดว่าทำให้ทั้งสังคมได้ประโยชน์จากการที่มีอิสรภาพในการแสดงออก และสมดุลของความอดทนอดกลั้นที่ทำให้เราไม่พอใจ ถือเป็นสังคมประชาธิปไตย แต่หากเราเป็นเหยื่อของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก็อาจจะเป็นเฟคนิวส์ก็ได้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/pO6KMJsVMFc