เลือกตั้งและการเมือง
'เศรษฐา' โปรโมททุเรียนทองผาภูมิ 'พิธา' แนะรบ. กระจายตลาดทุเรียน-เพิ่มมูลค่า
12 พ.ค. 2567
144 views
เมื่อวันที่ 11 พ.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความว่า "สำหรับทุเรียน เลิฟเวอร์ แบบผม ได้ชิมทุเรียนทองผาภูมิ ต้องบอกว่า เยี่ยมเลยครับ
ประเทศไทยปลูกทุเรียนในหลายจังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดก็มีรสชาติ และลักษณะเฉพาะตัวต่างกันไป วันนี้ ได้ชิมทุเรียนทองผาภูมิ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียน GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) ของกาญจนบุรี รสชาติดีเลยครับ
ทุเรียนทองผาภูมิ คือ ทุเรียนหมอนทองที่ปลูกบนพื้นที่แนวเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งดินเป็นศิลาแลงที่ระบายน้ำง่าย ทำให้รากทุเรียนชอนไชหาอาหารได้ดี จึงทำให้ทุเรียนที่นี่ผลรีสวย เปลือกบาง กรอบ เส้นใยน้อย รสชาติหวานพอดีมันพอดีแบบสุขภาพดี ที่สำคัญคือมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่ฉุน ขนาดที่มีคนบอกผมว่า ทานแล้วเรอยังไม่มีกลิ่นทุเรียน ใครเป็นแฟนทุเรียน พลาดทุเรียนทองผาภูมิไม่ได้นะครับ"
ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่จังหวัดตราด ว่า ตนตั้งใจมาดูเรื่องการเกษตรโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดตราด เรื่องราคาสินค้าเกษตร ไม่ว่าจะเป็นมังคุด เงาะ รวมถึงศักยภาพของทุเรียน ซึ่งน่ากังวลใจเนื่องจากในตลาดที่ส่งออกไปจีน มีคู่แข่งเยอะพอสมควร โดยตัวเลขล่าสุด เกือบ 90% ของทุเรียนไทยไปอยู่ที่จีนหมด ขณะเดียวกันไต้หวันก็รับประทานเยอะ แต่ยังมีมาเก็ตแชร์ (ส่วนแบ่งการตลาด) ยังน้อยอยู่
"วันนี้ราคากาแฟโลกสูงมากครับ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับที่นี่หรอก แต่หมายความว่า พอคนเวียดนามเห็นว่าทุเรียนมีมูลค่า เลยยิ่งมาปลูกทุเรียนมากขึ้น แล้วเลิกปลูกกาแฟ ดังนั้นศักยภาพมีจริง และคู่แข่งก็เยอะตามไปด้วย เราก็ต้องดูแลชาวทุเรียนอย่างมีโรดแมป มีวิธีคิด" นายพิธา กล่าว
นายพิธา ยกตัวอย่าง เปลือกทุเรียน สามารถเปลี่ยนเป็นกระดาษได้ เป็นเชื้อเพลิงได้ สามารถหมักจุลินทรีย์จนกลายเป็นอาหารวัว ก็เป็นการเพิ่มมูลค่าได้ เครื่องสำอางในยุโรปเอาสารต้านอนุมูลอิสระจากทุเรียนไปเพิ่มมูลค่า ถือเป็นวิธีคิดตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง การส่งออก การเพิ่มมูลค่า ให้ผลิตภัณฑ์มีประโยชน์ เราต้องคิดให้เป็นระบบถึงจะรอด จังหวัดตราดเป็นพื้นที่ที่ฝนตกอันดับ 1 ของประเทศ ถ้าจังหวัดตราดแล้ง ทั่วประเทศมีปัญหาแน่นอน
"ที่นี่เป็นฮวงจุ้ยดีที่สุด ข้างหน้าเป็นทะเล ข้างหลังเป็นภูเขา และมีฝนตกตลอดเวลา เพราะฉะนั้น เกษตร ชาวประมง การท่องเที่ยวที่นี่ เศรษฐกิจชายแดนต้องดีกว่าที่อื่น หากเราทำตราดโมเดลได้สำเร็จก็จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนที่อยู่ข้างหลัง ปีนี้ก็จะเห็นอยู่ว่าตัวมังคุดก็แห้ง ทุเรียน เงาะ ก็แห้ง ก็เห็นว่าภัยแล้งมีปัญหาเยอะจริง ๆ" นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวอีกว่า ตนเคยหาเสียงปีที่แล้ว คิดว่าสหกรณ์เป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องทำหน้าที่สู้กับล้งต่างประเทศ ในการหาช่องทางส่งออก ขนส่งที่ถูกต้อง บางทีจะขนส่งผลไม้ ประเทศคู่แข่งก็ไม่ให้ขนส่ง ก็เคยเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องใช้ทั้งทูตพาณิชย์ สหกรณ์ที่ต้องมีความเข้มแข็ง ที่สำคัญที่สุดคือถ้าได้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่มาจากการเลือกตั้ง มีความรู้ความสามารถ มีงบประมาณ ก็น่าจะแก้ไขปัญหาได้อย่างครบวงจร ซึ่งงบประมาณ อบจ.ตราดน่าจะประมาณ 265 ล้านบาท
เมื่อถามว่าปัญหาตอนนี้ล้งมีการผูกขาด ถ้าไม่รับซื้อก็ส่งผลกระทบ นายพิธา เปรียบเปรยว่า เก้าอี้ยังมี 4 ขา ถ้ามีขาเดียวมันก็ล้ม ตนชี้เป้าให้เลย ยุโรป เนเธอแลนด์ กำลังมีความต้องการทุเรียนสูงมาก ออสเตรเลีย นิวซีเเลนด์ มีความต้องการสูง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน เป็นตลาดที่น่าสนใจ ซึ่งประเทศที่ตนกล่าวมามีความต้องการสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ไทยยังมีส่วนแบ่งการตลาดต่ำอยู่ เพราะฉะนั้นต้องกระจายความเสี่ยง ในเมื่อเขามีน้ำหนักมากกว่าเรา เราก็ต้องสร้างน้ำหนัก และกระจายความเสี่ยงไปให้ได้ ก็จะทำให้เรามีอำนาจต่อรองมากขึ้น ประธานกรรมาธิการการเกษตรฯ สภาฯที่มากับตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้
นายพิธา ย้ำว่า จังหวัดตราดมีฝนตกเยอะ ปัญหาตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่แล้ง แต่อยู่ที่เวลาฝนตกลงมาแล้วเก็บกักได้ไม่พอ ไม่สามารถกระจายไปหาชาวสวนชาวไร่ได้ ดังนั้นตนยังคิดถึงการกระจายอำนาจของ อบจ. ที่สามารถทำชลประทานท้องถิ่นที่ไม่ได้มาจากส่วนกลาง ให้ อบจ.ดูงบประมาณแก้ปัญหาชลประทานย่อย จังหวัดตราดถือเป็นพื้นที่ที่สวรรค์ให้มาอยู่แล้ว มีน้ำ ฝนตกเยอะ ตลอดเวลา หากแก้ไขปัญหาได้จะเริ่มเห็นภาพ เรื่องภาวะโลกร้อน โลกรวน จะเห็นได้ชัด ร้อนก็ร้อนจัด ฝนตกก็ตกจัด และจะช้ากว่าปกติ ตรงนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องคำนึงถึง
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JYvlWcpc8OI
แท็กที่เกี่ยวข้อง เศรษฐาทวีสิน ,พิธาลิ้มเจริญรัตน์ ,ทุเรียน ,ทุเรียนทองผาภูมิ