เลือกตั้งและการเมือง

'ก้าวไกล' ส่ง 'ปดิพัทธ์' ชิงประธานสภา แสดงวิสัยทัศน์ ผลักดันรัฐสภาไทย ให้ก้าวหน้าที่สุดในเอเชีย

โดย nattachat_c

28 มิ.ย. 2566

63 views

วานนี้ (27 มิ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคก้าวไกลว่า การคัดเลือกบุคคลลงชิงตำแหน่งประธานสภาผู้เเทนราษฎร ในส่วนของพรรคก้าวไกล ขณะนี้ ได้ข้อยุติเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรคก้าวไกลจะส่ง นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ในฐานะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) สัดส่วนภาคเหนือ ลงชิงตำแหน่งประธานสภาฯ


ต่อมา พรรคก้าวไกลโพสต์เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ เป็นภาพนายปดิพัทธ์ สันติภาดา แคนดิเดตประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลอย่างเป็นทางการ พร้อมข้อความวิสัยทัศน์ของนายปดิพัทธ์ ว่า


“วิสัยทัศน์แคนดิเดตประธานสภาของพรรคก้าวไกล: สร้างรัฐสภาที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นของประชาชน


ในการเลือกตั้ง 2566 ที่เพิ่งผ่านมา กระแสความต้องการการเปลี่ยนแปลง ปรากฏเข้มข้นและชัดเจนอย่างไม่เคยมีมาก่อน จนนำพาพรรคก้าวไกลสู่การเป็นพรรคการเมืองที่ได้เสียงมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร


พี่น้องประชาชนหวังถึงความเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี แต่รวมถึงการเปลี่ยนรัฐสภาด้วย ในฐานะตัวแทนโดยตรงของประชาชน


ผมมีความตั้งใจที่จะผลักดันรัฐสภาไทยให้เป็นสภาที่ก้าวหน้าที่สุดในเอเชีย ทั้งในแง่การออกกฎหมายและวัฒนธรรมองค์กร


รัฐสภาชุดนี้ จะเป็นรัฐสภาของประชาชน และเป็นรัฐสภาที่ไม่ถูกครอบงำโดยฝ่ายบริหาร มีเจตจำนงแน่วแน่ในการใช้อำนาจที่ได้รับมาจากประชาชน รับใช้ประชาชน โดยไม่เลือกปฏิบัติหรือโอนอ่อนตามพรรคการเมืองใด


ภารกิจของรัฐสภา จะประกอบไปด้วย 3ป. ได้แก่ ประสิทธิภาพ โปร่งใส ประชาชน


"ประสิทธิภาพ"

ประสิทธิภาพในการใช้เวลาการประชุม พิจารณากฎหมาย ข้อร้องเรียน ความเดือดร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็ว ไม่เกิดเหตุสภาล่มบ่อยครั้ง


ประสิทธิภาพในการออกกฎหมาย เป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่เข้มแข็ง ส่งเสริมให้ ส.ส. เสนอร่างกฎหมายมากขึ้น เพื่อทำหน้าที่นิติบัญญัติอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงรับรองกฎหมายของรัฐบาล


ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อกับประชาคมโลก แปลกฎหมายเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเอื้อต่อการศึกษา ดูงาน เพิ่มความร่วมมือกับสภาต่างประเทศในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการออกกฎหมายที่ก้าวหน้า


ประสิทธิภาพในการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การเรียกรัฐมนตรีเข้าตอบกระทู้ และใช้กลไกกรรมาธิการอย่างเข้มแข็ง โดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด


ประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณ เช่น งบเลี้ยงรับรอง งบดูงานต่างประเทศ เพิ่มงบดูแลสวัสดิการของข้าราชการ ลูกจ้าง แม่บ้าน ตำรวจสภา ลดงบโครงสร้างพื้นฐานของสภา ไปเพิ่มงบพัฒนาการทำงานวิชาการของสภา ติดตามตรวจสอบการก่อสร้างสภาที่ล่าช้า


"โปร่งใส"

จัดทำระบบเปิดข้อมูลการอภิปราย การทำงาน การเข้าประชุม การลงมติ ของ ส.ส. ให้ประชาชนทั่วไปตรวจสอบได้ง่าย


จัดทำระบบติดตามสถานะของร่างกฎหมาย


การจัดซื้อจัดจ้าง ทำสัญญาจ้างพนักงานอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส


จัดทำระบบแสดงตนที่โปร่งใส ไร้การเสียบบัตรแทนกัน


"ประชาชน"

ให้ประชาชนใช้บริการสภาได้โดยง่าย เข้าถึงทุกบริการอย่างสะดวก เช่นห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ห้องให้นม ห้องเลี้ยงเด็ก


สนามหญ้ารอบสภา จะเป็นที่แสดงออกของคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน


จัดทำสภาเยาวชน เพื่อสะท้อนเสียงและความต้องการของเยาวชนไปถึงผู้บริหารประเทศ


จัดสภาสัญจรไปยังกลุ่มประชาชนที่เข้าไม่ถึงบริการและทรัพยากรรัฐ


สร้างระบบให้ประชาชนเข้าถึง ติดต่อ สอบถามสมาชิกรัฐสภาทุกคนได้ผ่านเว็บไซต์


รัฐสภาคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพราะสภาคือศูนย์กลางอำนาจที่สถาปนาโดยประชาชน เป็นตัวแทนของประชาชนเจ้าของประเทศ ประเทศไทยที่เราอยากเห็นจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องเริ่มสร้างจากในรัฐสภาเป็นแห่งแรก


รัฐสภายังเป็นหนึ่งในสามอำนาจอธิปไตยของประเทศ


ความเป็นนิติรัฐ เป็นประชาธิปไตย ของประเทศ ย่อมขึ้นอยู่กับฝ่ายนิติบัญญัติเป็นสำคัญ


ผมมุ่งมั่นจะทำให้สภาเป็นเสาหลักของประชาธิปไตย ค้ำจุนประเทศให้ได้ ให้สมกับที่ผู้แทนราษฎรทุกคน ได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจแทนประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ

--------------

วานนี้ (27 มิ.ย. 66) เพจ พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า


นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค ชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค และ ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ ส.ส. พรรคเพื่อไทย หารือตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยนายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ที่ประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรคและส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้คณะทำงานเจรจาหารือ ‘พรรคก้าวไกล’ เพื่อสรุปตำแหน่งประธานสภา โดยให้ยึดหลักความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ เป็นธรรมและเสมอภาคต่อกัน


1.นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญและเห็นถึงความคาดหวังของพี่น้องประชาชนที่อยากเห็นพรรร่วม 8 พรรคจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยโดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี


2.คณะทำงานเจรจา ได้เสนอต่อคณะกรรมการบริหารพรรค ว่าในฐานะพรรคแกนนำระดับสูงมีคะแนนต่างกันเพียงแค่ 10 คะแนน ตำแหน่งรัฐมนตรีที่ควรได้คือสูตร 14+1 หมายความว่า พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งรัฐมนตรี 14 ตำแหน่ง และตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง ส่วนพรรคเพื่อไทยก็เสนอว่าพรรคเพื่อไทยควรได้ตำแหน่งรัฐมนตรี 14 ตำแหน่ง และตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือประธานรัฐสภา 1 ตำแหน่ง


3. ภายหลังคณะกรรมการบริหารพรรค ได้ฟังข้อมูล ข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว เห็นควรยืนยันหลักการสูตร 14+1 จึงเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดยสมาชิกพรรคส่วนใหญ่เห็นว่า ทีมเจรจาซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารพรรคควรเจรจาในสูตร 14+1 ตามที่ได้เสนอไปก่อนหน้านี้


จากนั้น ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ได้กล่าว สรุปข้อประชุมดังนี้


1. ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และที่ประชุม ส.ส. พรรคเพื่อไทย ได้หารือและได้มีความเห็นร่วมกันว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญที่จะต้องควบคุมกำกับดูแลการดำเนินการของรัฐสภาให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญด้วยความเรียบร้อย ประธานสภาต้องวางตนเป็นกลาง ทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการของสมาชิกและพรรคการเมืองทุกพรรค อีกทั้งยังต้องมีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย


2. ที่ประชุมได้รับทราบว่าคณะเจรจาของพรรคได้เสนอต่อพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำในการเจรจาว่า สูตร 14+1 เป็นสูตรที่เป็นธรรม คำนึงถึงความเสมอภาค ให้เกียรติซึ่งกันและกัน กล่าวคือ พรรคก้าวไกลได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยควรจะได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร


3. ที่ประชุมเห็นควรยืนยันความคิดการกำหนดตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรตามสูตรดังกล่าว โดยมอบหมายให้ประธานสภามาจากพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้มิใช่การแก่งแย่งตำแหน่งหน้าที่ แต่คำนึงถึงความเป็นธรรม โดยยังคงเห็นความจำเป็นและให้ความสำคัญในการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ และคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีให้สำเร็จลุล่วงต่อไป


4. พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าเมื่อพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าการมีประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย จะทำให้สภาเดินหน้าทำหน้าที่ในรัฐสภาได้ราบรื่น เรียบร้อย สามารถแสวงหาความร่วมมือจากทุกๆ ฝ่าย ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพต่อไป


ทั้งนี้ ในรูปภาพที่ทางเพจโพสต์ มีข้อความว่า "ตำแหน่ง 'ประธานสภา' ยึดหลักความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ เสมอภาค และเป็นธรรม"

--------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/mm5gOFSz3qY

คุณอาจสนใจ

Related News