ผบ.ตร.สั่งตั้งคณะทำงาน ปรับแก้กฎระเบียบ-หลักเกณฑ์ 'รับบรรจุตำรวจสัญญาบัตร'

หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เเละถูกตั้งคำถามจากตำรวจชั้นประทวน กรณีเเต่งตั้ง-เลื่อนยศ ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจากผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ สั่งตั้งคณะทำงานเพื่อปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ "การรับบุคคลเป็นตำรวจสัญญาบัตร" ให้สอดคล้อง พ.ร.บ.ตำรวจใหม่ เน้นเปิดกว้าง โปร่งใส ตรวจสอบได้ เเละให้พิจารณาคนในเป็นพิเศษ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจตำรวจ ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล ยืนยัน จะเดินหน้าตรวจสอบย้อนหลังตำรวจที่ผ่านหลักสูตรกอส. หลังพบมีบุคลากรบางส่วนมีคุณสมบัติไม่เหมาะกับงาน


พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยสั่งการให้ตรวจสอบรายละเอียด หลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาตั้งแต่ช่วงที่ ผบ.ตร.เข้ามารับตำแหน่ง ระยะเวลากว่า 8 เดือน ก็ยังไม่ได้เปิดรับบุคคลภายนอกมาเป็นตำรวจ ตามที่หน่วยงานร้องขอแต่อย่างใด


เพื่อให้การแก้ไขเรื่องนี้เป็นรูปธรรม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร.ฝ่ายบริหาร ตั้งคณะทำงานเพื่อทบทวน-ปรับปรุง แก้ไขระเบียบ/คำสั่ง /กฏ ก.ตร. และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการรับบุคคลเข้ามาเป็นตำรวจสัญญาบัตร การบรรจุ แต่งตั้ง ครองยศ รวมถึงการเข้าเรียนหลักสูตร กอส. หรือชื่อเต็มคือ "การอบรมบุคคลภายนอกที่บรรจุ หรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร" / "หลักสูตรการอบรมบุคคลภายใน ข้าราชการตำรวจชั้นประทวน เป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร หรือ กอน. และหลักสูตรที่เทียบเคียงอื่นๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทันต่อยุคสมัยและสอดรับกับ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ฉบับใหม่


รวมทั้งนำกรณีของ ร.ต.อ.หญิง อาทิติยา และข้าราชการตำรวจรายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มอบหมายให้สำนักงานกำลังพลไปถอดบทเรียน มาประกอบการพิจารณาเพื่อยกร่างกฎระเบียบใหม่ โดยจะเปิดกว้างในการรับบุคคลภายนอกที่มีคุณภาพ มาเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตรงกับความต้องการของหน่วย และจะพิจารณาเพิ่มโควต้าคนในให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยพิจารณาจากผู้ที่มีความรู้ความสามารถ จากผลการประเมินจากผู้บังคับบัญชา หรือกรณีที่ตำรวจไปศึกษาเพิ่มเติมจนจบชั้นปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอก


สำหรับหลักสูตร กอส. ที่สังคมตั้งคำถาม โฆษกสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ บอกว่า เป็นหลักสูตรที่ใช้สำหรับการฝึกอบรมความรู้พื้นฐานสำหรับบุคคลภายนอก ที่จะเข้ามาเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร โดยมีที่มาจากการสอบแข่งขัน การคัดเลือก ทายาทของตำรวจที่เสียชีวิต การรับโอนจากส่วนราชการต่าง ๆ หรือคุณวุฒิขาดแคลนตามที่หน่วยร้องขอ เงื่อนไขของบุคคลภายนอกที่เข้ามาเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรทุกนาย จะต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนี้ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในบทบาทของการเป็นตำรวจ


ด้าน นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคและว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล พูดถึงกรณีตำรวจที่ผ่านการอบรมหลักสูตร กอส. ว่าเป็นอีกนโยบายที่พรรคก้าวไกล จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของตำรวจที่ผ่านหลักสูตรนี้ เพื่อพิจารณาว่าสมควรได้รับการคัดเลือกมารับราชการหรือไม่ เพราะมีหลายคนที่ขับรถหรู มีฐานะดี ซึ่งเกรงว่าอาจมีคนของกลุ่มทุนนักธุรกิจ แฝงตัวเข้ามาอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คอยเอื้อประโยชน์ธุรกิจสีเทา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะอาจเชื่อมโยงไปถึงการซื้อขายตำแหน่งด้วย


นอกจากนี้ยังรวมถึงลูกท่านหลานเธอที่ได้รับการคัดเลือกเข้าไปรับราชการ ทั้งที่จบการศึกษามาไม่ตรงกับลักษณะงาน ตรงนี้นายรังสิมันต์ เห็นว่า ควรสงวนให้หลักสูตรนี้ ไว้พิจารณารับบุตรหลานตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฎิบัติหน้าที่ มีสิทธิ์เข้าสมัครสอบรับราชการ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ครอบครัวผู้เสียสละ หรือไว้รับสมัครบุคคลภายนอกที่จบการศึกษา ในสาขาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติขาดแคลน เช่น นักวิทยาศาสตร์ จะทำให้เกิดประโยชน์มากกว่า


ยอมรับว่า การตรวจสอบย้อนหลังตำรวจที่ผ่านหลักสูตร กอส.นั้น เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ที่ผ่านมามีกว่า 10 รุ่น รุ่นละไม่ต่ำกว่า 300 นาย แต่ก็ต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดความชัดเจนแก่สังคม


ส่วนกรณีที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาชี้แจงว่าการคัดเลือกเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฏหมาย แต่ตนเองมองว่าปัญหาคือตัวกฎหมาย ที่เปิดช่องให้กลายเป็นสิ่งถูกต้อง ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคต ตนเองอาจจะต้องมาร้องเรียนกรณีนี้กับทางสำนักงานจเรตำรวจก็เป็นได้ ซึ่งพรรคก้าวไกล จะเดินหน้าติดตามกรณีนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป