สปีดโบ๊ทพุ่งชนตอม่อ เสาไฟประภาคารกลางทะเลภูเก็ต นักท่องเที่ยวเจ็บระนาว 37 ราย

วานนี้ (17 พ.ค. 66) เวลา 16.44 น. ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต (ศูนย์ไข่มุก) อบจ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากสปีดโบ๊ทรับส่งนักท่องเที่ยวว่า เกิดเหตุสปีดโบ๊ทบรรทุกนักท่องเที่ยวกว่า 30 คน พุ่งชนตอม่อเสาบอกสัญญาณกลางทะเล (ประภาคาร) หน้าเกาะทนาน ใกล้ท่าเรืออ่าวฉลอง ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ เรือไม่ได้พลิกคว่ำแต่อย่างใด คนเจ็บทั้งหมดนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเรือ จากนั้น เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือได้ประสานทัพเรือภาคที่ 3 เทศบาลตำบลราไวย์ และมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต นำเรือตรวจการณ์ออกไปช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุ ห่างจากฝั่งราว 500 เมตร พบสปีดโบ๊ท Atime 555 บริเวณหัวเรือพุ่งเสียบติดอยู่กับตอม่อเสาไฟของประภาคารจนพังเสียหาย นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ บ้างหัวแตก บ้างขาหัก นอนรอการช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย

จากนั้น เรือตรวจการณ์และเรือกู้ภัยต่างเร่งลำเลียงผู้บาดเจ็บ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกจากเรือเกิดเหตุ ขึ้นเรือตรวจการณ์และเรือกู้ภัยกลับเข้าฝั่งยังท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีรถพยาบาลจากหน่วยงานต่างๆ รอรับแยกนำส่ง รพ.ใกล้เคียง ซึ่งผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่ศีรษะแตก บาดเจ็บตามร่างกาย

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า สปีดโบ๊ทลำดังกล่าว รับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกจากเกาะพีพี จ.กระบี่ มุ่งหน้ากลับเข้าฝั่งยังท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีนายสาธิต มาศชาย อายุ 34 ปีเป็นกัปตันเรือ

เมื่อมาถึงใกล้ประภาคารเสาไฟสัญญาณ เรือเกิดเสียหลัก เนื่องจากถูกคลื่นกระแทก ทำให้เรือพุ่งเข้าชนตอม่ออย่างแรง หัวเรือเสียบติดกับตอม่อ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บดังกล่าว อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง

เมื่อเวลา 18.00 น. สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ได้มีการออกคำสั่งห้ามใช้เรือทันที และจะบันทึกปากคำเจ้าของเรือและคนประจำเรือที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายของกรมเจ้าท่าต่อไป

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้บูรณาการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บต่อไป

-------------

ต่อมาเวลา 20.30 น. ที่ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท., พลตำรวจตรีเสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าของเรื่องนี้ 

นายณรงค์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ประสบภัย จำนวน 37 ราย

• ไทย 4 ราย
• รัสเซีย 21 ราย
• คาซัคสถาน 9 ราย
• ฮ่องกง 1 ราย จีน 1 ราย
• ยูเครน 1 ราย

โดยเป็นผู้ป่วยแบ่งเป็นระดับสี ดังนี้

• สีขาว 2 ราย (คาซัคสถาน1 ราย ไทย 1 ราย)
• สีเขียว 13 ราย
• สีเหลือง 16 ราย
• สีแดง 6 ราย (เป็นคนไทย 2 ราย และรัสเซีย)

โดยแยกกันรักษาอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ ดังนี้ 

• โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 10 ราย
• โรงพยาบาลฉลอง 9 ราย
• โรงพยาบาลดีบุก 2 ราย
• โรงพยาบาลสิริโรจน์ 5 ราย
• โรงพยาบาลกรุงเทพ 2 ราย
• โรงพยาบาลมิชชั่น 5 ราย
• โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 2 ราย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเรือประสบเหตุ มีพ.ร.บ.เรือคุ้มครองการรักษาค่ารักษาพยาบาล 15,000 บาท/ราย

นายณรงค์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต, ตำรวจท่องเที่ยว ,สำนักสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 ได้ส่งเจ้าหน้าที่ล่าม มาอำนวยความสะดวก และช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ และได้มีการประสานกงสุลของแต่ละประเทศ เพื่อให้รับทราบข้อมูล และลงมาดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว

พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการสืบสวนทางด้านคดี เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเบื้องต้น ได้มีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่เรือไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และต้องรอผลตรวจที่จะออกมา เพื่อจะใช้เป็นหลักฐานข้อมูลประกอบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

-------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Xnnjt3DV-KY