สังคม

ชาวบ้านร้อง กำนันเก็บบัตรประชาชน หวั่นทุจริตเลือกตั้ง

โดย chiwatthanai_t

24 เม.ย. 2566

395 views

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 เมษายน 2566 บริเวณหน้าทำการที่ว่าการอำเภอเมืองขอนแก่น นางจงกลรัตน์ อายุ 54 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่ตำบลสาวะถี กว่า 100 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับ นายประจวบ รักแพทย์ อำเภอเมืองเมืองขอนแก่น ว่า กำนันตำบลสาวะถี วางตัวไม่เป็นกลางและทำผิดกฎหมาย ขอให้นายอำเภอทำการตรวจสอบ แต่นายอำเภอติดราชการ จึงมอบหมายให้ นายบัญชา สุวรรณมาโจ ปลัดอำเภอมาพบกับชาวบ้านและรับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านแทน


โดยในหนังสือร้องเรียนที่ยื่นร้องเรียนในครั้งนี้ ระบุว่า สืบเนื่องจากการที่มีพระราชกฤษฎีกยุบสภา และต่อมาคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 และมีการกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นวันที่ 3 พฤษกาคม 2566โดยให้ประชาชนที่สนใจเลือกตั้งล่วงหน้าสามารถยื่นคำร้อง และลงทะเบียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ นั้น


ต่อมาเมื่อถึงวันกำหนดขึ้นคำร้องและลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้งดังกล่าว นายสมชาย กำนันตำบลสาวะถี อำเภอเมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐสังกัดกระทรวงมหาดไทย ตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2547 ได้มีพฤติกรรมที่ไม่เป็นกลางทางการเมือง โดยลำเอียง แสดงอาการฝักใฝ่ผู้สมัครเบอร์ 5 ของเขตการเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดขอนแก่น และพรรคการเมืองที่เบอร์ 5 สังกัดอย่างชัดเจน กล่าวคือ กำนันตำบลสาวะถี ได้จดรายชื่อพร้อมเก็บบัตรประจำตัวประชาชนของประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งในตำบลสาวะถี เพื่อให้ประชาชน ดังกล่าวมาใช้สิทธิเลือกตั้งถ่วงหน้าในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 โดยแนะนำให้เลือกเบอร์ 5 และพรรคการเมืองที่เบอร์ 5 สังกัดเท่านั้น และมีการข่มขู่ผู้มีความเห็นต่าง ซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับทีมตนเอง ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร



ประชาชนในตำบลสาวะถี จึงขอร้องเรียนว่า กำนันตำบลสาวะถี มีพฤติกรรมที่ไม่เป็น กลางทางการเมือง โดยลำเอียง โฆษณา แสดงอาการฝักใฝ่พรรคการเมืองพรรคหนึ่งพรรคใด และผู้สมัครคนหนึ่งคนใดโดยชัดแจ้ง และเป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย มายังท่านนายอำเภอ อำเภอเมืองขอนแก่น ได้โปรดพิจารณาตรวจสอบและมีคำสั่งลงโทษด้วย


นางจงกลรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ส่อไปในทางทุจริต แม้ไม่มีการจ่ายเงินให้ประชาชน แต่แม่ของตนเอง มีชื่อไปลงเลือกตั้งก่อนล่วงหน้านอกเขตแล้วซึ่งได้ถามแม่ แม่บอกว่า ไม่เคยที่จะไปเลือกตั้งล่วงหน้า จึงถามว่าแล้วเขาไปเอาได้อย่างไร แม่ตอบว่า มี อ.ส.ม.มาจดชื่อ ที่อยู่แม่ไป แล้วชื่อแม่ก็ปรากฏชื่อไปลงเลือกตั้งก่อนล่วงหน้านอกเขต


“ตนเพิ่งเห็นเมื่อวานจึงยังไม่ได้ไปสอบถามกับอ.ส.ม.คนที่มาจดรายชื่อของคุณแม่ไปลงเลือกตั้งล่วงหน้าและกลับจากอำเภอไปถึงบ้านจะไปถาม เพราะในความคิดของตน ในการที่แม่อายุ 78 ปี แกเดินเหินลำบากแกจะไปเลือกตั้งล่วงหน้าคงไม่ใช่การทำแบบนี้ ก็เหมือนกับจะโกงเลือกตั้งหรือไม่”


นางจงกลรัตน์ ยังกล่าวต่ออีกว่า คำว่าซื้อสิทธิ์ขายเสียงนั้น ได้ยินมานาน แต่แม่อยู่ที่บ้านเฉยๆมีคนขอรายชื่อไป ก็ทำคิดได้ว่าอาจจะมีการโกงเลือกตั้งได้ จึงอยากจะฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าให้ตรวจสอบว่า บุคคลที่เป็น อสม.หรือ ผู้นำชุมชนสามารถทำแบบนี้ได้หรือไม่ อยากให้ตรวจสอบให้ชัดเจน เพราะคนบ้านนอกคนแก่ ที่มีอายุ 70 ขึ้นไป จะไม่ค่อยรู้เรื่องข่าวสาร และถ้าคนที่ทำเช่นนี้ ทำลักษณะแบบนี้ในความคิดของตน 80% คิดว่าจะมีการโกนเลือกตั้ง ก็เลยอยากฝากกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ตรวจสอบให้ชัดเจน และจะไม่สนับสนุนคนที่ทำการโกงเลือกตั้ง จึงจะไปขอยกเลิก ไม่ทราบว่าจะยกเลิกชื่อแม่ได้หรือไม่ในการไปเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งอยู่ในหน่วยที่หมู่บ้านตนเอง



ขณะที่ นายพีระพงษ์ อายุ 27 ปี ชาวบ้านโคกล่าม ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า มีคนในหมู่บ้านมีคนมาเก็บบัตรประชาชนผุ้สูงอายุในหมู่บ้านไป จึงได้พากลุ่มคนเหล่านี้มาแจ้งความกับตำรวจ เพราะทุกคนยืนยันว่า ไม่ทราบว่า จะเอาบัตรประชาชนไปลงชื่อเลือกตั้งล่วงหน้า เท่ากับว่า คนที่เอาบัตรประชาชนชาวบ้านไปนั้น มีเจตนาที่จะโกงการเลือกตั้ง ด้วยเหตุลตรงนี้ ชาวบ้านที่เสียรู้ เขาไม่ได้เต็มใจเสียสิทธิ์ เพราะทุกคนรู้สิทธิ์ของตัวเองว่าต้องไปเลือกตั้งที่เลือกตั้งตามปกติ แต่ไม่ได้อยากไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้า จึงต้องไปแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ว่า ทุกคนไม่ได้ซื้อสิทธิ์ขายเสียง แต่เพราะคนแก่บางคนเขาไม่รู้เรื่องกฎหมายและไม่รู้ว่าเขาเอาบัตรประชาชนไปทำอะไร



“กลุ่มหลักๆที่ทำแบบนี้ คือคนที่ใกล้ชิดกับผู้นำชุมชนในพื้นที่ เพราะผู้นำเขาไม่แสดงตัว แต่ให้ลูกเมีย ญาติพี่น้องทำแทน โดยไปเก็บบัตรประจำตัวประชาชนชาวบ้านมาแล้วก็มาลงเลือกตั้งล่วงหน้าจากนั้นก็มีเอกสารสิทธิ์ แจ้งมาว่า คุณเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ทุกคนก็เอะใจว่าทำไม ไปเลือกตั้งนอกเขต แล้วจำนวนสมาชิกเลือกตั้งนอกเขตทำไมเยอะขนาดนี้ แต่พอมาพบกับทางปลัดอำเภอ ก็ได้คำตอบว่า เลือกตั้งนอกเขต ตำบลสาวะถีนั้นมีเพียง 7 คน เท่านั้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้นำชุมชน กำนัน ในพื้นที่ตำบลสาวะพีด้วย วางตัวเป็นกลางหรือไม่”

คุณอาจสนใจ

Related News