อาชญากรรม

เปิดนาที ‘แก๊งคนไทย’ จับชาวจีนยัดกล่องเรียกค่าไถ่ เพื่อนสนิทยัน ‘น้ำเพชร’ เป็นคนดี

โดย JitrarutP

18 เม.ย. 2566

124 views

เปิดวินาที “แก๊งคนไทย” รวมหัวกันจับชายชาวจีนยัดใส่กล่องเรียกค่าไถ่ 4 ล้าน อ้างกล้าลงมือเพราะรู้ว่าชายรายนี้เป็นจีนสีเทา ด้าน เพื่อนสนิทยัน “น้ำเพชร” อดีตผู้เข้าประกวดนางงามเวทีดัง แฟนของชาวจีนเป็นคนดี ไม่เชื่อรู้เห็นกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ

ความคืบหน้าคดีอดีตผู้เข้าประกวดนางงามเวทีดัง ของจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกิ๊กหนุ่มและพวกรวม 6 คน ร่วมกันอุ้มนักธุรกิจจีนไปเรียกค่าไถ่เกือบ 4 ล้านบาท เมื่อคืนนี้ตำรวจตามจับได้ครบแล้ว แต่ "น้ำเพชร" อดีตนางงามยังไม่ยอมรับว่าร่วมวางแผนอุ้มแฟนคนจีน ไปย้อนดูภาพวันเกิดเหตุอีกครั้ง

กรณีเมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา นายกาย พร้อมพวก ขับรถสีขาวป้ายแดงของนางสาวน้ำเพชรที่แฟนชาวจีนซื้อให้ มาที่คอนโดมิเนียมย่านหลังสวนของนายหวัง โดยจอดรถในช่องจอดของห้อง นายหวัง ก่อนจัดการทำร้ายร่างกาย ยืมรถเข็นขอรปภ. จับนายหวังยัดใส่กล่องพลาสติก

จากนั้นครึ่งชั่วโมงต่อมา นายกบ และนาย โจ จับนาย หวัง ลงกล่องในสภาพที่นอนตะแคง งอขา มัดเท้าและมัดมือไว้ด้านหลัง แล้วเอาฝาคลุมก่อนจะปิดฝากล่อง แล้วค่อยยกขึ้นรถเข็น เข็นมาที่หน้าลิฟต์ พร้อมกับมีถุงบางอย่างมาด้วย ซึ่งจังหวะที่กำลังจะเข็นเข้าลิฟต์จะเห็นว่าฝากล่องมีอาการขยับ ทำให้ 1 ในคนร้ายต้องจับฝากล่องกดลงแล้วเข็นรถเข้าลิฟต์ไป ตอนนั้นเป็นเวลา 3 ทุ่ม 6 นาที และพาตัวนายหวังไปที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมี นายจูน ตามมาสมทบ พร้อมเรียกค่าไถ่ 4 ล้าน ก่อนที่เพื่อนนายหวังจะเข้าแจงความที่ สน.ลุมพินี เนื่องจากติดต่อไม่ได้และหวั่นว่าจะเกิดอันตราย

พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า สาเหตุที่น้ำเพชร และนายกาย ตัดสินใจลงมือ เพราะรู้ว่า นายหวัง เป็นกลุ่มจีนเทา มีหมายจับในจีน มีเงินเยอะ หากถูกจับไปเรียกค่าไถ่คงไม่กล้าแจ้งความ

ทั้ง 6 คน ถูกตำรวจจับแล้วเมื่อคืนนี้ โดยนาย ศุภพล ฮาลมัน หรือ กาย กิ๊กของน้ำเพชร ถูกจับได้เป็นคนที่ 3 ตอนประมาณ 17.30 น. ที่ห้องพักย่านทองหล่อ ต่อมา 2 ทุ่มครึ่ง นางสาว สริตา ดอนม่วง หรือ ตา ได้ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 3 ทุ่มครึ่ง นายธนายุทธ พลนาคู หรือ โจ 1 ในทีมอุ้ม จับได้ที่บ้านแห่งหนึ่งใน ซ.คลองหกตะวันออกสิบ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และ 4 ทุ่ม ศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ นางสาว เพชรลดา แสงสกุล หรือ น้ำเพชร อดีตผู้สมัครนางงามเวทีดัง เป็นคนสุดท้าย ก่อนจะถูกจับได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท

ทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันเรียกค่าไถ่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังทำให้เป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

ส่วน น.ส.น้ำเพชร ยังคงไม่ได้ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เนื่อง ยังมีอาการเครียด เมื่อคืนจับดึกแล้วจึงปล่อยให้พักผ่อนก่อน แล้วจะสอบปากคำอีกครั้งวันนี้ ส่วนนายกบ จะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขังภายในวันนี้ เนื่องจากครบกำหนดคุมควบตัวของพนักงานสอบสวน 48 ชั่วโมงตามกฎหมาย และจขนถึงขณะนี้ยังไม่มีญาติคนไหนเดินทางมาเยี่ยมหรือประกันตัวผู้ต้องหา

ประมาณ 10 โมงที่ผ่านมา เพื่อนรุ่นพี่ของ นางสาว น้ำเพชร 3 คน มาเยี่ยมน้ำเพชร แต่พอเจอสื่อ มี 2 คนที่เดินหลบไป เหลือ 1 คน ที่ยอมคุยกับสื่อ และยืนยันว่า น้ำเพชรไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ น้ำเพชรเป็นคนดี รักครอบครัวและเป็นกำลังหลักของครอบครัว เฟรนลี่ ชอบช่วยเหลือทุกคน พร้อมเล่าที่มาที่ไปว่า น.ส.น้ำเพชรคบกับนาย หวัง เมื่อปี 2565 ประมาณ 1 ปีเต็ม ซึ่งรู้จักจากการทำงานร่วมกัน แล้วเพิ่งมาเลิกกันเมื่อสิ้นปี 2565 โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่จากนั้นไม่นาน ก็มีนาย กาย ซึ่งจริง ๆ ชื่อว่านายบอส ได้มาคบหากับ น.ส.น้ำเพชร เจอกันที่สถานบันเทิง ในช่วงเดือนมกราคม 2566 จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2566 นาย หวัง ก็กลับมาตามง้อขอคืนดีกับ น้ำเพชร จนกลับมาคบกันเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ และเลิกกับนายกายหรือบอสในที่สุด

ขณะที่เพื่อนสนิทของ น้ำเพชร ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า นายหวัง ให้เงินดูแลน้ำเพชร เยอะมาก แต่ไม่ทราบว่าเท่าไหร่ และน้ำเพชรก็มีเงินมีทอง มีการมีงานดี ไม่เคยมีปัญหาด้านการเงิน ที่ผ่านมาเมื่อรู้ว่าน้ำเพชรคบกับกาย หรือบอส ก็พยายามห้ามปราม เพราะ นายกาย หรือ บอส มีพฤติกรรมที่ไม่ดี ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ชอบเล่นการพนัน และมาเกาะน้ำเพชรกิน เชื่อว่าครั้งนี้น้ำเพชรไม่ใช่คนทำ แต่เป็นนายกายหรือบอสที่เป็นคนต้นเรื่องและก่อเหตุทั้งหมด เป็นไปได้ว่าอาจจะมาจากความหึงหวง และมีปัญหาเรื่องเงินจากการติดพนันจึงลงมือ

เธอบอกด้วยว่า ไม่รู้ว่าน้ำเพชร เคยถูกข่มขู่หรือถูกบังคับจากนายกายหรือบอสมาก่อนหรือไม่ ส่วนรถยนต์ที่ผู้เสียหายชาวจีนซื้อให้น้ำเพชร นายกายหรือบอสมักจะชอบเอาไปขับเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนคีย์การ์ดคอนโดผู้เสียหาย คาดว่าเป็นความประมาทของน้ำเพชรที่ทิ้งคีย์การ์ดไว้ในรถ ประกอบกับนายกายหรือบอสเขาก็รู้ข้อมูลห้องของผู้เสียหายอยู่แล้ว เพราะเคยกดเรียกรถให้ไปรับน้ำเพชรจากคอนโดของผู้เสียหาย จึงทำให้รู้สถานที่ ชั้นและห้องผู้เสียหายเป็นอย่างดี

ส่วนนาย หวัง ผู้เสียหายชาวจีน พบว่าตอนอยู่ที่จีนเป็นนักลงทุนเงินสกุลดิจิทัลแต่มีหมายจับคดีฉ้อโกง มูลค่า 12 ล้านหยวน หรือราว 60 ล้านบาท ก่อนจะหลบหนีเข้ามาในไทย แต่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นหมายแดงในอินเตอร์โพลจึงสามารถเข้ามาในไทยได้ตามปกติ และ จากการตรวจสอบของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพบว่านาย หวัง เริ่มเข้ามาที่ไทยครั้งแรกในปี 2557 และเข้าออกอยู่หลายครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายคือเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้อายัดวีซ่านักท่องเที่ยวของนาย หวัง แล้ว และกักตัวไว้เพื่อเตรียมผลักดันออกนอกประเทศ


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/UfG9yfU865Y

คุณอาจสนใจ

Related News