เลือกตั้งและการเมือง

'พิธา' ลุยอีสาน ปลื้มก้าวไกลกระแสตอบรับดี 'โรม' สวน 'ชัยวุฒิ' สะกดจิตตัวเอง-เลิกเกณฑ์ทหารชังชาติ

โดย passamon_a

18 เม.ย. 2566

149 views

“พิธา” ปราศรัยหนองคาย ปลื้มกระแสตอบรับ “ก้าวไกล” พุ่งทะยาน เปิดวิสัยทัศน์อีสาน 2574 สร้างเศรษฐกิจให้อีสานหายจนใน 10 ปี ชูนโยบายปฏิรูปที่ดิน-หวยใบเสร็จ

วานนี้ (วันที่ 17 เม.ย.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายอภิชาติ ศิริสุนทร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และนางสาวนายิกา ศรีเนียน หรือ แคนแคน ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมเวทีปราศรัยแนะนำผู้สมัครและนโยบายพรรคก้าวไกล ที่ จ.หนองคาย

โดยช่วงเช้าได้เปิดเวทีที่หน้าวัดหายโศก ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย หาเสียงให้ อภิญญา บุญจันทร์ ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย เขต 1 (เบอร์ 10) ส่วนช่วงบ่ายเปิดเวทีที่วัดหนองคอน ต.โพนแพง อ.รัตนวาปี หาเสียงให้ แสวง ราชพลแสน ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย เขต 2 (เบอร์ 8) โดยทั้งสองเวทีต่างได้รับความสนใจจากประชาชนเข้าร่วมรับฟังอย่างคับคั่ง

โดยนายพิธา ระบุว่า พรรคก้าวไกลในช่วงที่ผ่านมาได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนมากขึ้น นั่นเป็นเพราะเราเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจคนรุ่นใหญ่ นโยบายไม่ได้มีแต่สำหรับคนรุ่นใหม่ แต่มีนโยบายเพื่อคนรุ่นใหญ่ด้วย ทั้งรัฐสวัสดิการ เบี้ยผู้สูงอายุ ฯลฯ

นอกจากนี้ แม้พรรคก้าวไกลจะเป็นคนติดดิน ป้ายหาเสียงอาจจะน้อยไปหน่อย และเป็นพรรคที่ไม่มีหัวคะแนน แต่เวลามีปัญหาประชาชนเข้าถึงได้ทันที ไม่ต้องผ่านใคร ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลคือนักการเมืองสายเลือดใหม่ ที่ไม่ใช่นักการเมืองหน้าเก่าในขวดใหม่หรือลูกหลานของใคร ประชาชนคนธรรมดาก็มาเป็น ส.ส. ได้ และเราพร้อมต่อสู้ร่วมกับประชาชนเสมอ

ในส่วนของภาคอีสานนั้น สิ่งที่เรามองเห็นตลอดเวลาที่ผ่านมา คือทั้งสภาฯ เรามี ส.ส.อีสานถึง 132 คน จาก 500 คน หรือ 1 ใน 3 ของรัฐสภา แต่คำถามคือทำไมอีสานยังเจ็บยังจน มีแหล่งน้ำมากมายแต่ทำไมยังแล้งซ้ำซาก นั่นแปลว่าระบบการเมืองและความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทยมีปัญหาแน่นอน

พรรคก้าวไกลจึงเสนอว่าประชาชนทุกคน รวมทั้งที่ภาคอีสานแห่งนี้ ต้องได้เลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดของตัวเอง แก้ปัญหาด้วยมือของประชาชนเอง และหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะทำประชามติทันที ถามประชาชนว่าเห็นชอบหรือไม่ ให้มีการยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค และโอนถ่ายอำนาจการบริหารจังหวัดไปสู่ท้องถิ่นในทุกจังหวัดภายใน 5 ปี

นายพิธายังกล่าวต่อไปว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว พรรคก้าวไกลเคยนั่งคิดว่าจะแก้คำสาปห้ามพัฒนา หยุดการแช่แข็งภาคอีสานได้อย่างไร จนนำมาสู่วิสัยทัศน์อีสาน 2574 ของพรรคก้าวไกล ที่มีเป้าหมายในการทำให้ภาคอีสานหายเจ็บหายจนภายใน 10 ปี แก้ปัญหาที่ที่ผ่านมาเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้สิน การสาธารณสุข และตัวชี้วัดคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกอย่างของภาคอีสาน ตามหลังประเทศไทยในภาพรวมกว่า 2 เท่าเสมอ

อย่างเช่นที่จ.หนองคายนี้ เป็นจังหวัดที่เน้นเศรษฐกิจชายแดน ซึ่งที่ผ่านมาเป็นได้เพียง ‘การค้าผ่านแดน’ ไม่ใช่ ‘การค้าชายแดน’ เป็นเพียงทางผ่านของสินค้าจากต่างประเทศที่จะไปที่ลาว


“รังสิมันต์” สวน “ชัยวุฒิ” เป็น รมต. สะกดจิตตัวเอง หลังซัดนโยบายยกเลิกเกณฑ์ทหารว่าชังชาติ

วานนี้ (วันที่ 17 เม.ย.) นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวฝากไปถึงน้องม่อนภู เด็กชายที่ส่งข้อความมาถึงตนและพรรคก้าวไกล ให้ช่วยผลักดันยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร โดยน้องม่อนภูได้พบกับ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระหว่างการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา และฝากข้อความมาถึงตน

"น้องม่อนภูอยากเห็นทหารอาชีพใช้ระบบสมัครใจ ผมเองต้องบอกกับน้องม่อนภูว่า วันนี้ผมได้รับข้อความนี้แล้ว และผมก็ยืนยันว่า ผมก็เชื่อแบบเดียวกับที่น้องม่อนภูเชื่อ ผมอยากเห็นในสิ่งที่น้องม่อนภูอยากเห็น และสิ่งนั้นก็เป็นไปได้" นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นอกจากพรรคก้าวไกลแล้ว ยังมีอีกหลายพรรคการเมืองที่ผลักดันนโยบายยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ดังนั้น โอกาสที่จะผลักดันการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารร่วมกัน จึงเป็นไปได้

อย่างไรก็ตาม การผลักดันเรื่องดังกล่าวในปี 2566-2567 ขึ้นอยู่กับเจตจำนงของรัฐบาลในเวลานั้น ซึ่งหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลจะสู้สุดตัวเพื่อผลักดันให้การยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารสำเร็จ แล้วเปลี่ยนให้เป็นการเกณฑ์ทหารระบบสมัครใจเพื่อสร้างฐานอาชีพที่แม้จะเล็กลง แต่ก็เป็นขนาด "จิ๋วแต่แจ๋ว"

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วิจารณ์นโยบายยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารว่า เป็นการรณรงค์ให้เกิดความชังชาติ ลืมรากเหง้าความเป็นไทย

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นายชัยวุฒิเป็นคนที่ไม่ค่อยดูในรายละเอียด พร้อมอธิบายว่า ไม่ใช่การยกเลิกเกณฑ์ทหารทั้งหมด หากไทยตกอยู่ในสภาวะสงคราม ก็สามารถอนุญาตให้เกณฑ์ทหารได้ แต่ไม่ใช่เกณฑ์กันทุกชั่วโมงในเวลาปกติ ไม่มีประโยชน์ สุดท้ายแล้วจะไม่ได้คุณภาพ

แต่หากปรับเปลี่ยนให้ลดกำลังพล ซึ่งตั้งเป้าว่าจะลดลงประมาณครึ่งหนึ่ง และสร้างสวัสดิการ แรงจูงใจให้ดีขึ้น ทำให้การฝึกทหารมีความเป็นมืออาชีพ แม้ขนาดกองทัพจะลด แต่ได้คุณภาพเพิ่ม การเปลี่ยนเป็นระบบเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับความรักชาติมากขึ้นหรือน้อยลง

"ตรงกันข้าม การเอาทหารไปเกณฑ์แบบนี้แล้วบอกว่านี่คือน้องเล็กของกองทัพ แต่สิ่งที่คุณปฏิบัติกับทหารเกณฑ์ ละเมิดสิทธิมนุษยชนตั้งเยอะ มีการทุจริตคอรัปชั่นตั้งเยอะ นี่คือความรักชาติหรือ การทำแบบนี้เป็นอันตรายเพื่อนร่วมชาติ เป็นการปู้ยี่ปู้ยำชาติ เพราะชาติคือประชาชน"

"คุณชัยวุฒิไม่ค่อยเข้าใจอะไร ดีแต่ฟังวาทกรรมมา และพูดโดยเชื่อว่าคงจะได้ใจกองเชียร์ พูดไปเรื่อยๆ เป็นการสะกดจิตตัวเอง ถ้าอยากเป็นรัฐมนตรีอีกรอบ ก็ไม่ควรสะกดจิตตัวเอง เพราะจะไม่สามารถมองความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เดินไปข้างหน้าได้ ประเทศอื่นๆ ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารก็ยังเป็นมหาอำนาจของโลกได้"

นายรังสิมันต์ ยังทิ้งท้ายว่า หากต้องการเสนอตัวมาเป็นผู้แทนของประชาชนแล้ว ก็อยากให้มีหัวใจกับประชาชน ถ้ายังแยกไม่ออกระหว่างการถูกบังคับ และความชังชาติ ก็ไม่ควรมาเป็นตัวแทนของประชาชน


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/5qqfKoiGHf8

คุณอาจสนใจ

Related News