"พิธา" เผยความรู้สึกผลโพลพระปกเกล้าอันดับหนึ่ง คะแนนความนิยม ลั่นขอบคุณที่สนับสนุน แต่เพียง 1,600 ตัวอย่าง จะนำมาเป็นแรงผลักดันในการทำงานต่อ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นของผลโพลพระปกเกล้าสำรวจคะแนนความนิยม ซึ่งพรรคก้าวไกลและนายพิธา มีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่ง ว่า คงต้องเริ่มต้นจากการขอบคุณประชาชนที่ยังให้ความสนับสนุน ตนจะเอามาใช้เป็นพลังงานในการทำงานให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ



“แน่นอนว่าทุกโพลมีข้อจำกัดของแต่ละโพล อย่างโพลนี้มีเพียงแค่ 1,600 ตัวอย่างเท่านั้น เพราะฉะนั้นเป็นกำลังใจเป็นแรงผลักดันในการทำงาน ผมไม่ได้มองว่าเป็นการหลงตัวเอง หรือว่าไม่ได้ประมาท ไม่ได้รู้สึกว่าเรานำเกือบจะ 50% แล้ว เราสบายๆได้ เราต้องทำงานหนักขึ้นทุกวันๆ เป็นกำลังใจจากพี่น้องประชาชนในการทำงานต่อไปของพรรคก้าวไกลไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” นายพิธา กล่าว



เมื่อถามว่า มองว่าเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งหรือไม่ ที่รัฐบาลทำงานมาเกือบจะครบ 1 ปีแล้ว แต่คะแนนนิยมยังอยู่ที่ตน นายพิธา กล่าวว่า เป็นสัญญาณในหลายๆ สัญญาณ อย่างที่ตนบอกว่า โพลแต่ละโพลก็มีข้อจำกัดของแต่ละโพล ประชาชนคนไทยทั้ง 60-70 ล้านคน แต่มีโพลออกมาเพียงแค่ 1,600 ตนจึงไม่เคยคิดว่าจะเอามาเป็นอะไรที่เข้าข้างตัวเอง ว่าตนทำงานได้ดีแล้ว แต่จะเอามาเป็นแรงผลักดันในการทำงาน และยังมีอีกหลายๆ สัญญาณที่ต้องจับตามอง เนื่องจากสถานการบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม เรื่องการเมือง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ดีนัก ต้องเอาหลายๆสัญญาณมาประกอบกัน



ส่วนเรื่องของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มีความสุ่มเสี่ยงจะหลุดหรือไม่หลุดจากตำแหน่ง แผนที่นายพิธาวางไว้ เนื่องจากนายพิธา เป็นแคนดิเดตนายกนั้น นายพิธา เผยว่า แผนของเราก็ทำงานอย่างเต็มที่ ถ้าหากมีอุบัติเหตุการเมือง เราก็จะมีหลักการในวิธีคิดของเรา ถ้าหากมีการยุบสภาเราก็พร้อมเลือกตั้งทุกเมื่อ ก็คงเป็นไปตามครรลองครองธรรม ไม่ได้ต้องการที่จะแก่งแย่งชิงดีหรือเอาอำนาจอะไรไป



ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า สมมุติถ้านายเศรษฐา หลุดจากตำแหน่งนายกจริงๆ ตนพร้อมจะลงแข่งในการเลือกตั้งนายกรอบหน้าหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ถ้าตามกฎหมายอนุญาต ตนก็ต้องเป็นแคนดิเดตนายกตามที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แต่งตั้งตนให้เป็นแคนดิเดตนายก