สังคม

สงกรานต์ข้าวสารวันสุดท้าย ยิ่งดึกยิ่งคึกคัก - นทท.โดนล้วงกระเป๋า ซ้ำเจอรถสาธารณะโก่งราคามหาโหด

โดย passamon_a

16 เม.ย. 2566

163 views

สงกรานต์ข้าวสารวันสุดท้าย ยิ่งดึกยิ่งคึกคัก - นักท่องเที่ยวโดนล้วงกระเป๋า ฉกเงินสด โทรศัพท์มือถือ บางรายสูญเกือบ 5 หมื่น - นักท่องเที่ยวใช้บริการรถสาธารณะ เจอราคามหาโหด


เมื่อวันที่ 15 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2566 ที่บริเวณถนนข้าวสาร ซึ่งมีจัดกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์วันนี้เป็นวันสุดท้าย ทีมข่าวลงพื้นที่ตั้งแต่เวลา 19.00 น. พบว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างคึกคึก ต่างคนต่างพกปืนฉีดน้ำมาร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กันด้วย


ด้านการจัดระเบียบพื้นที่ถนนข้าวสารยังคงเข้มงวด โดยตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้เปิดจุดคัดกรองบนถนนข้าวสาร เพื่อคัดกรองนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์เป็นวันสุดท้าย ซึ่งยังคงให้เข้าออกทางเดียว วนเป็นวันเวย์คือ โดยเริ่มเข้าจากเข้าฝั่งถนนจักรพงษ์ วัดชนะสงคราม และออกทางถนนตะนาว ฝั่งแยกคอกวัวทางเดียวเท่านั้น พร้อมกันนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยประชาสัมพันธ์ ให้เดินหน้าไปยังทางออก ไม่ให้ยืนรวมกันเพื่อป้องกันการเบียดเสียดของผู้คนจนเกินไป


จากการที่มีการจัดระเบียบให้เข้าออกทางเดียว รวมทั้งภาพมุมสูง แม้ว่าบรรยากาศที่ถนนข้าวสาร จะเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว แต่ยังคงสามารถเดินเล่นน้ำกันไปได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันพบว่าถนนข้าวสารยิ่งดึกยิ่งคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติทยอยตบเท้าเข้าร่วมงานสงกรานต์กันอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีการร้องเต้นกันอย่างสนุกสนาน


ทั้งนี้ ทีมข่าวยังได้มีโอกาสพูดคุยกับกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง ที่มาร่วมงานสงกรานต์ข้าวสารวันสุดท้าย ให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทางสนุกสนานมาก ว่า ไม่ได้เล่นสงกรานต์มา 3-4 ปีแล้ว บรรยากาศคึกคักและสนุกสนานมาก ขณะเดียวกันทั้งกลุ่มเห็นทีมข่าวลงพื้นที่และมาสัมภาษณ์ พวกเธอบอกว่าดีใจ ตื่นเต้น และรอที่จะมีโอกาสมาสัมภาษณ์กับช่อง 3 นานแล้ว พวกเธอบอกว่า อยากเป็นดารา พร้อมตะโกนเอ่ยว่า "คุณเอ ศุภชัยคะ" ก่อนจะทิ้งท้ายว่าให้ทุกคนดูแลตัวเองด้วยเพราะด้านในคนแน่นมาก


ต่อมาเวลา 21.30 น. เหลือเวลาอีกเพียง 30 นาที ถนนข้าวสารจะปิดให้เล่นน้ำสงกรานต์วันสุดท้าย แต่ยังคงนั่งได้ในบริเวณดังกล่าวถึงเวลา 02.00 น. ซึ่งพบว่า จุดทางเข้าถนนข้าวสาร ยังคงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต่อแถวกันเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่องยาวเกือบ 1 กม. นับได้ว่ายิ่งดึกยิ่งคึกคัก


ขณะเดียวกันพบว่า จนท.ฝ่ายรักษาความสะอาด ของ กทม. เริ่มเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อเคลียร์พื้นที่กันแล้ว กระทั่งเวลา 21.55 น. เจ้าหน้าตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และตำรวจ สน.ชนะสงคราม ประกาศปิดพื้นที่ ถ.ข้าวสาร ก่อนกำหนด 5 นาที เนื่องจากว่าพื้นที่ด้านใน ถ.ข้าวสารแน่น เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ จนท.หวั่นเป็นอันตราย จึงประกาศยุติดเทศกาลสงกรานต์ ถ.ข้าวสาร ประจำปี 2566 พร้อมประกาศให้ นทท.เดินเท้ามุ่งหน้าออกทาง ถ.ราชดำเนินทันที


จากนั้นเวลา 22.45 น. ผ่านไปเกือบ 1 ชม. ยังคงพบว่ามี นทท.บางส่วนยังคงเกาะรั้วเหล็ก พยายามเจรจากับ จนท.ตำรวจ เพื่อหวังว่าจะได้เข้ามาร่วมสนุกบริเวณด้านในถนนข้าวสาร แต่ว่า จนท.ตำรวจ ยังคงยืนยันว่า ประกาศยุติการเล่นน้ำสงกรานต์ภายใต้บริเวณถนนข้าวสารแล้วไม่สามารถเข้ามาได้ พร้อมกับประกาศอย่างต่อเนื่องว่ายุติแล้ว นักท่องเที่ยวเดินทางกลับได้เลย


ก่อนที่ในเวลา 22.55 น. จนท.ตำรวจ พร้อมกำลังเกือบร้อยนาย เดินแถวเรียงหน้ากระดาน พร้อมกับรถขยายเสียงขนาดใหญ่ นำกำลังเดินหน้ากระดานเคลียร์ นทท. ออกจากพื้นที่ ซึ่ง จนท.ตำรวจ พยายามประกาศด้วยน้ำเสียงดุดัน ให้ นทท.เชื่อฟังและออกจากพื้นที่เพื่อให้ จนท.ฝ่ายรักษาความสะอาด กทม. เข้าทำความสะอาด ถ.ข้าวสาร


กระทั่งเวลา 23.20 น. จนท. เปิดให้ นทท.เข้าพื้นที่ ถ.ข้าวสารได้อีกครั้ง หลังประกาศปิดไปประมาณ 1.30 ชม. ซึ่งพบว่าหลังจากที่มีการประกาศให้เข้าพื้นที่ได้นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลเข้ามาใน ถ.ข้าวสารกันอย่างต่อเนื่อง จนแน่นพื้นที่เพียงพริบตา


โดย พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้กลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าถนนข้าวสารได้อีกครั้ง เพื่อระบายนักท่องเที่ยวบริเวณถนนจักรพงษ์ เปิดทางให้รถสามารถสัญจรได้ ทั้งนี้ต้องการให้ถนนข้าวสาร กลับมาเป็นถนนข้าวสารในรูปแบบเดิม ซึ่งคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจะออกจากพื้นที่ทั้งหมดในเวลาประมาณ 02.00 น. ตามเวลาที่สถานประกอบการให้บริการ โดยวันนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นน้ำในถนนข้าวสารทะลุเป้า 40,000 คนแล้ว


จากนั้นเวลา 23.55 น. ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจอีกครั้งพบว่าบรรยากาศในพื้นที่ถนนข้าวสารกลับมาคึกคักเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะระบุว่าสามารถเล่นน้ำสงกรานต์ ได้ถึง 22.00 น. แต่หลังจากกลับมาเปิดใหม่ ทำให้ นทท.ทุกคน กลับมาเล่นน้ำสงกรานต์กันแบบชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พร้อมกับร้องเต้นอย่างสนุกสนานตลาดพื้นที่ ถ.ข้าวสาร


กระทั่งเวลา 02.15 น. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลาคาดการณ์ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมีการหยุดเล่นสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร แต่ปรากฏว่า นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติยังคงเล่นน้ำกันอย่างคึกคัก ยังไม่มีวี่แววว่าจะยุติการเล่นแต่อย่างใด รวมทั้งบริเวณทางเข้าออกยังพบว่า มีบางส่วนที่เดินทางกลับ แต่ก็พบเช่นกันว่ามีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเล่นน้ำกันอย่างต่อเนื่อง


ในเวลาต่อมา หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าประกาศสั่งยุติเล่นน้ำที่ถนนข้าวสาร ก็พบว่าประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ แต่ก็มีจำนวนหนึ่งไม่ยอมกลับ โดยมีรถเครื่องเสียงมาจอดเรียงไว้ที่ริมถนนราชดำเนินกลาง จากนั้นก็เปิดเพลงเสียงดังครึกครื้นสนุกสนาน และมีสาวสวยโคโยตี้ขึ้นไปเต้นในท่าทางยั่วยวน โดยจุดนี้เป็นการรวมตัวของกลุ่มวัยรุ่น ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุม และยืนเต้นดื่มแอลกอฮอล์ข้างถนนอย่างสนุกสนาน


ทีมข่าวสอบถามวัยรุ่นที่มาเที่ยวอยู่กับแก๊งโคโยตี้นี้ บอกว่าจะเปิดเพลงเต้นแบบนี้ไปจนถึงตีสี่ เพราะถือว่าเป็นสงกรานต์ปีแรกที่ไม่ได้เล่นน้ำมานาน ก็ขอจัดเต็มในวันสุดท้ายถึงตีสี่


บรรยากาศสงกรานต์บริเวณถนนข้าวสาร ประจำปี 2566 แม้ว่าอีกหนึ่งมุมคือเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่ขณะเดียวกันท่ามกลางความสนุกสนานนั้น ยังคงมีเหตุการณ์ที่ทำให้ นทท.ทั้งชาวไทยและต่างชาติ สูญเสียทรัพย์สินจากการโดนล้วงและการโดนกรีดกระเป๋า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ระบุว่า ส่วนใหญ่เกือบ 80% พบว่า นทท.ถูกล้วงและทำโทรศัพท์หาย


ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายธนสรณ์ หรือ สต๊อป อายุ 32 ปี ซึ่งมาเที่ยวกับเพื่อนชาวเกาหลี อายุ 26 ปี ซึ่งของเพื่อนหายตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 เม.ย. จนกระทั่งวานนี้ได้ของคืน คือโทรศัพท์มือถือ และพาสปอร์ต ส่วนเงินไม่ได้คืน ส่วนตนเป็นครั้งแรกที่มาเที่ยวข้าวสาร โดนล้วงวานนี้ ของที่หายไปคือโทรศัพท์มือถือ รุ่นไอโฟน 14 Pro บัตร ปชช. บัตรเครดิตร เงินสด รวมทั้งหมดมูลค่ากว่า 50,000 บาท ขณะเดียวกันมองว่าเป็นความประมาทของตัวเองร่วมด้วย และไม่ได้คิดว่าจะอันตรายขนาดนั้น


นอกจากนี้ ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้สำรวจพบว่าตั้งแต่หลัง สน.ชนะสงคราม ยาวไปจนถึงแยกถนนตะนาวใกล้กับแยกคอกวัว พบว่ามีจำนวนรถตุ๊กตุ๊ก รถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถแท็กซี่ จอดรอรับผู้โดยสารจำนวนมาก เหมือนเป็นศูนยรวมรถตุ๊กตุ๊ก นับ 100 คัน


ผู้สื่อข่าวสอบถาม น้องปลายฟ้า ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถตุ๊กตุ๊ก มาจากถนนสีลมหมาพี่ถนนข้าวสารเล่าว่า ตนและเพื่อน ๆ ตระเวนเล่นสองที่คือ ข้าวสารและสีลม โดนเริ่มจากสีลม มาถนนข้าวสาร โดนเก็บค่าโดยสารแบบบุฟเฟ่ต์ หัวละ 100 มา 6 คนก็ 600 บาท พวกตนก็เลือกคันที่เรียกเก็บราคาถูกสุดคือ 300 บาท


จากนั้นก็ไปเล่นที่ถนนสีลม เรียกรถโดยสารตุ๊กตุ๊ก จากถนนข้าวสาร ไปสีลม โดนเรียกราคา 600 บาท ก็ตกใจมาก คิดว่าเขาคงคิดราคาแบบบุฟเฟ่ต์ ซึ่งราคาแพงมาก และตนก็คนไทยไม่ใช่ต่างชาติ หากเป็นต่างชาติจะโดนขนาดไหน และมองว่าการกระทำแบบนี้ คือการฉวยโอกาส


เช่นเดียวกับ น้องเอ ยืนรอรถแท็กซี่ เพื่อเดินทางกลับบ้านที่แถวหอการค้า ห้วยขวาง โดยเรียกแท็กซี่ ก็จะกดมิเตอร์ แต่ขอบวกเพิ่มจากมิเตอร์อีก 200 บาท หากเป็นราคาปกติ ก็ประมาณ 120 บาท รวมค่าชาร์ตเพิ่มอีก 200 ก็จ่าย 320 บาท ตนก็ไม่ไปรับไม่ได้ราคานี้ พี่้เป็นรถตุ๊กตุ๊ก ก็จะบวกค่าบริการเพิ่ม เช่น ราคาโดยสาร 80 บาท ก็จะต้องจ่าย 180 บาท


น้องเอ บอกว่า อยากขอให้เจ้าหน้าที่ขนส่ง ลงมาดูแลเรื่องนี้ เพราะช่วงเทศกาลทีไรรถสาธารณะกลุ่มนี้ก็ฉวยโอกาสขึ้นราคา ขนาดราคาคนไทยยังโหดขนาดนี้แล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติจะโดนขนาดไหน จึงเลือกใช้บริการรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชั่น


ส่วนรถจักรยานยนต์รับจ้างนั้น พบว่ามีหลากหลาย วินมาจอดรอด้านหน้าทางออก บริเวณถนนตะนาวติดกับถนนราชดำเนินกลาง โดยพบว่าราคาค่าโดยสารรถจักรยานยนต์นั้นเป็นการตกลงความพอใจสองฝ่าย บางคนก็ให้ไปส่งจากถนนข้าวสาร ไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ราคา 300 บาท หากขึ้น 1 คัน 2 คน ก็จะเก็บ 450 บาท และผู้โดยสารบางคนก็ใช้บริการรถ จยย.รับจ้าง จากถนนข้าวสารไปหัวลำโพงในราคา 300 บาทต่อคน หากขึ้นคันเดียวสองคนก็จะต้องจ่าย 600 บาท


ขณะเดียวกัน ทีมข่าวสอบถามคนขับตุ๊กตุ๊ก ให้ข้อมูลว่า ไม่ได้เก็บค่าโดยสารแพง เริ่มต้น 150-300 บาท เป็นช่วงเทศกาลก็มีค่าบริการบ้าง แล้วแต่ตกลงกันด้วยความพอใจสองฝ่าย ไม่ได้ฉวยโอกาส แต่คือการบริการ


สำหรับราคารถโดยสารมหาโหดนี้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวถนนข้าวสาร ต่างแสดงความไม่พอใจแต่ก็ไม่รู้จะพึ่งพาหน่วยงานไหนได้ และยอมจ่าย เพราะไม่รู้จะกลับบ้านอย่างไร


ทั้งนี้ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบดูแล ทีมข่าวสอบถามตำรวจ สน.ชนะสงคราม และ บก.จร. ที่เข้ามาช่วยดูแลพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยในถนนข้าวสาร และระบายคนออกมาให้กลับบ้านอย่างปลอดภัยก็งานหนักมากแล้ว จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยควบคุมกำกับดูแลเรื่องค่าโดยสารไม่ให้ผู้ขับขี่รถสาธารณะ ฉวยโอกาสขึ้นราคาในช่วงนี้


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/O1sNZ4r1DFE

คุณอาจสนใจ

Related News