ไขคดีอุ้มฆ่า นศ.จีน เรียกค่าไถ่หรือมีปมอื่น?

การเสียชีวิตของ น.ส.จินซ่าน นักศึกษาชาวจีนหลังพบศพมีรอยถูกรัด และมีรอยมีด ที่คูน้ำ ในอ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยคนร้ายเป็นกลุ่มชาวจีน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะเป็นการวางแผนเรียกค่าไถ่ หรือไม่ เนื่องจากนักศึกษาจีนได้เสียชีวิตแล้ว คนร้ายได้ส่งข้อความไปเรียกค่าไถ่ภายหลัง ขณะนี้พบผู้ร่วมกระทำผิดทั้งหมด 4 คน เป็นชาวจีน 3 คนที่หนีออกนอกประเทศไปแล้ว และหญิงไทย อีก 1 คนที่ถูกจับแล้ว



นับเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในประเทศไทยอีกครั้ง โดยมีคนร้ายเป็นกลุ่มชาวจีน เข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยและหลบหนีออกนอกประเทศไทย



นส.จิน ซ่าน นักศึกษาวิชาดนตรี ถูกพบเป็นศพในสภาพถูกรัดคอ และมีรอยมีด ที่คูน้ำ ในอ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา เมื่อย้อนไปดูภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าวันที่ 28 มีนาคม ผู้ตายได้นั่งรถแท็กซี่มาหาคนร้าย ที่หน้าห้างสรรพสินค้าย่านเวทเกต



โดยพบภาพรถของคนร้ายได้ขับออกจากบ้านเช่าช่วง 20.33 น.เพื่อไปรับผู้ตายตามที่นัดกันทางแชทไลน์ และกลับเข้ามาบ้านเช่า ในช่วงเวลา 21.58 ช่วงเวลา4 ทุ่มไปจนถึงเกือบตี 1 เป็นช่วงที่เกิดเหตุร้ายขึ้น ก่อนที่จะพบว่า รถซึ่งมีศพของนส.จินซ่าน ออกจากบ้านไปในเวลา 24.50 น. คาดว่าเป็นการขับรถนำศพไปทิ้งที่คูน้ำ และหายไปหลายชั่วโมง กระทั่งรถคันเดิม ได้กลับมาที่บ้านอีกครั้งในเวลา ตี 5.18 น. เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายได้กลับมานอน ที่บ้านพัก



กระทั่งวันรุ่งขึ้น คนร้ายทั้ง 3 คนได้ขับรถออกจากบ้านไปเวลาประมาณ 15.20 นาที ของวันที่ 29 มีนาคม โดยไม่กลับเข้ามาอีก แต่ไปพบว่าคนร้ายได้ไปเช่า โรงแรมพัก 1 คืน ที่ย่านห้วยขวาง กระทั่งคืนวันที่ 30 มี.ค.66 เวลาประมาณ



01.30 น. คนร้ายได้แวะร้านสะดวกซื้อ และได้นำรถเช่าไปคืน ก่อนจะมีหญิงสาวมาขับรถไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อหนีออกนอกประเทศในวันที่ 30 มีนาคม



โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง ได้ควบคุมตัว สาวคาราโอเกะ อายุ 19 ปี ซอยอินทามระ 45 สอบปากคำตั้งแต่เช้า โดยยอม รับว่าเป็นคนให้คำปรึกษากับชายชาวจีนหลังก่อเหตุ และได้รับเงินเป็นค่าตอบแทน ซึ่งชายชาวจีนได้ไปเที่ยวที่คาราโอเกะ และรู้จักชอบพอกัน ตำรวจจึงออกหมายจับในฐานะให้การช่วยเหลือคนร้ายทั้ง 3 คน



รอง ผบช.ภ.1 ระบุว่าได้ออกหมายจับ ชาวจีนทั้ง 3 คน ในข้อหา หน่วงเหนี่ยวกักขัง เรียกค่าไถ่ เจตนาฆ่า ฆ่าโดยทรมาน ซุกซ่อนทำลายศพ



โดยผู้เสียชีวิตกับชายชาวจีนรู้จักกันมาก่อนตั้งแต่อยู่ที่ประเทศจีน และคนตายเคยเดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุก่อนหน้านี้แล้ว มีความสัมพันธ์กันแต่ไม่ถึงขั้นชู้สาว แต่ คนร้ายมีความพยายามที่จะจีบผู้เสียชีวิต



ขณะที่ บ้านเช่า พบว่ามีนายฟาง เป็นผู้ไปเช่าให้คนร้าย แต่ไปเช่าในพื้นที่ห่างไกลย่านปริมณฑลจนผิดสังเกต และวันที่ 21 มีนาคมก่อนเกิดเหตุก็มีหญิงชาวจีนเข้าไปรอคนร้ายอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน



จากสภาพศพ ผู้ตายเสียชีวิตจากการถูกถุงคลุมศีรษะ และรัดคอ และเป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้วตั้งแต่คืนวันที่ 28 มีนาคม แต่คนร้ายได้ใช้โทรศัพท์ผู้ตายส่งภาพไปเรียกค่าไถ่กับบิดาผู้ตายวันที่ 31 มีนาคม



อย่างไรก็ตามนับเป็นอีกคดีหนึ่งที่คนร้ายชาวจีนได้เข้ามาก่อคดีในไทย หลังจากเมื่อเดือนก่อน มีการอุ้มเรียกค่าไถ่ นักศึกษาปริญญาโทชาวจีน และอีกคดีเป็นตำรวจ ที่ร่วมก่อเหตุอุ้มคนจีนไปเรียกรับผลประโยชน์



ล่าสุด ผบ.ตร.มอบให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เร่งคลี่คลายคดีแก๊งจีน อุ้มฆ่าเพื่อนร่วมชาติ พร้อมยอมรับวีซ่ามีช่องโหว่ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบประวัติคนที่เข้ามาได้